ผู้เขียน หัวข้อ: ชมรมพระวังหน้า เพื่อพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ  (อ่าน 356424 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
หลวงพ่อกวย ท่านเปลี่ยนเส้นทางใน Google Map ในโทรศัพท์ผม
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2562
.
.
ผมและคณะ ได้เดินทางขึ้นไปที่ อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 16 มีนาคม 2562
เพื่อไปกราบ หลวงพ่อสนอง อตตทโม  (พระครูนครบุราณานุรักษ์)  วัดนครไทยวราราม หรือวัดหัวร้อง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
.
ระหว่างการเดินทาง ก็คุยกันไปว่า จะแวะไปกราบสรีระ หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี  เมื่อถึงวัดกลางชูศรีเจริญ ก็ได้เข้าไปกราบสรีระ หลวงปู่บุดดา ถาวโร  เมื่อกราบท่านเรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้ตั้ง Google Map เพื่อมุ่งหน้าขึ้นไปกราบ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
.
ผมเองก็ได้ขับรถตามเส้นทางที่ Google Map ได้บอกมา
.
ผมขับรถมาเรื่อยๆ  ปรากฎว่า ทางข้างหน้า มีป้ายวัดโฆสิตาราม ผมก็เลยบอกเพื่อนที่ร่วมเดินทางว่า เรามาถึงวัดโฆสิตารามแล้ว เราแวะเข้าไปกราบ หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท กัน
.
พอผมกราบท่านเสร็จเรียบร้อย ผมก็ตั้ง เส้นทางใน Google Map ใหม่ เพื่อเดินทางไปพิษณุโลก. ปรากฎว่า ....
เส้นทางใน Google Map ให้ผมขับรถย้อนกลับไปทางเดิม ครับ
.
พอขับมาตามเส้นทางเดิม(ที่ผมขับมาครั้งแรก)ได้สักพัก เส้นทางใน Google Map ให้ผมเลี้ยวขวา ผมขับตามเส้นทางใน Google Map มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงถนนพหลโยธิน ผมขับตามเส้นทางใน Google Map จนถึง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ไปกราบพระพุทธชินราช แล้วก็เดินทางต่อไปกราบ หลวงพ่อสนอง อตตทโม วัดนครไทยวราราม ครับ
.
หลวงพ่อกวย ชุตินธโร ท่านเปลี่ยนเส้นทางใน Google Map ให้ผมและคณะไปกราบท่านก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่พิษณุโลก ครับ
.
.
.
#หลวงพ่อสนองอตตทโม  (#พระครูนครบุราณานุรักษ์)  #วัดนครไทยวราราม หรือ #วัดหัวร้อง
#วัดนครไทยวรารามหรือวัดหัวร้อง
#หลวงปู่บุดดาถาวโร  #วัดกลางชูศรีเจริญสุข
#หลวงปู่บุดดาถาวโรวัดกลางชูศรีเจริญสุข
#หลวงพ่อกวยชุตินธโร #วัดโฆสิตาราม
#หลวงพ่อกวยชุตินธโรวัดโฆสิตาราม
#พระพุทธชินราช  #วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
#พระพุทธชินราชวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
.
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
.
พระศรีอาริยเมตไตรย
.
.
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
.
.
[๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี เด็กหญิงมีอายุ ๕๐๐ ปี จึงจักสมควรมีสามีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ๘๐,๐๐๐ ปี จักเกิดมีอาพาธ ๓ อย่าง คือ ความอยากกิน ๑ ความไม่อยากกิน ๑ ความแก่ ๑
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี ชมพูทวีปนี้จักมั่งคั่งและรุ่งเรือง มีบ้านนิคมและราชธานีพอชั่วไก่บินตก
.
ดูกรภิกษุทั้งหลายในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี ชมพูทวีปนี้ประหนึ่งว่าอเวจีนรก จักยัดเยียดไปด้วยผู้คนทั้งหลาย เปรียบเหมือนป่าไม้อ้อ หรือป่าสาลพฤกษ์ฉะนั้น ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี เมืองพาราณสีนี้ จักเป็นราชธานีมีนามว่า เกตุมดี เป็นเมืองที่มั่งคั่งและรุ่งเรืองมีพลเมืองมาก มีผู้คนคับคั่ง และมีอาหารสมบูรณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปีในชมพูทวีปนี้จักมีเมือง ๘๔,๐๐๐ เมือง มีเกตุมดีราชธานีเป็นประมุข ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี จักมีพระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงพระนามว่า พระเจ้าสังขะ ทรงอุบัติขึ้น ณ เกตุมดีราชธานี เป็นผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขตทรงชนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือจักรแก้ว ๑ ช้างแก้ว ๑ ม้าแก้ว ๑ แก้วมณี ๑ นางแก้ว ๑ คฤหบดีแก้ว ๑ ปริณายกแก้วเป็นที่ ๗ พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชำนะโดยธรรมมิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศัสตรา ครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่าเมตไตรย์ จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถี ฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม เหมือนตถาคตอุบัติขึ้นแล้วในโลกในบัดนี้ เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ไปดีแล้ว รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม
.
พระผู้มีพระภาคพระนามว่า เมตไตรย์พระองค์นั้น จักทรงทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลกพรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งด้วยพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณ พราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม เหมือนตถาคตในบัดนี้ ทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลกมารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตถาคตเองแล้ว สอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตามอยู่
.
พระผู้มีพระภาคพระนามว่า เมตไตรย์พระองค์นั้นจักทรงแสดงธรรม งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงเหมือนตถาคตในบัดนี้ แสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลางงามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง พระผู้มีพระภาคพระนามว่าเมตไตรย์พระองค์นั้น จักทรงบริหารภิกษุสงฆ์หลายพัน เหมือนตถาคตบริหารภิกษุสงฆ์หลายร้อย ในบัดนี้ฉะนั้น ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น พระเจ้าสังขะจักทรงให้ยกขึ้นซึ่งปราสาทที่พระเจ้ามหาปนาทะทรงสร้างไว้ แล้วประทับอยู่ แล้วจักทรงสละ จักทรงบำเพ็ญทาน แก่สมณพราหมณ์ คนกำพร้า คนเดินทาง วณิพก และยาจกทั้งหลาย จักทรงปลงพระเกศาและพระมัสสุ ทรงครองผ้ากาสาวพัสตร์ เสด็จออกจากเรือน ทรงผนวชเป็นบรรพชิต ในสำนักของพระผู้มีพระภาคพระนามว่า เมตไตรย์อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
.
ท้าวเธอทรงผนวชอย่างนี้แล้ว ทรงปลีกพระองค์อยู่แต่ผู้เดียวไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว ไม่ช้านักก็จักทรงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์อันยอดเยี่ยมที่กุลบุตรทั้งหลาย พากันออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ด้วยพระปัญญาอันยิ่งด้วยพระองค์เอง ในทิฐธรรมเทียว เข้าถึงอยู่ ฯ
.
.
.
รูป สงวนลิขสิทธิ์
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
มหาเดช มหาบารมี มหาโภคทรัพย์
๒๘๘ ปีประสูติ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
.
https://www.facebook.com/100002065568979/videos/943128073550636
.
ที่มา พระอาจารย์ณริชธันร์ ศรีอิทธิมนต์
22 เมษายน 2566
.
จากงานสมโภช พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
และ พระบรมรูปปั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ในวันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566
.
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
วันนี้(วันที่ 6 พฤษภาคม 2566) ผมนำรูปพระวังหน้า นำมาให้ชมกัน
.
ท่านผู้อ่าน จะได้ทราบว่า พระวังหน้า เนื้อทองคำ และ พระวังหน้า เนื้อทองเหลือง
มีรูปแบบและลักษณะเป็นอย่างไร
จะได้ไปตกเป็นเหยื่อ ของกูรูเก๊ ได้
.
อย่างที่ผมบอกไป การเรียนรู้เรื่องของพระวังหน้า
ต้องเรียนรู้ทั้ง #รูป ( #เนื้อหาทรงพิมพ์ ) และ #นาม ( #พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต )
ต้องเรียนรู้กับผู้ที่รู้จริง สามารถดูได้ทั้ง รูป และ นาม
.
.
เรื่องของ รูป (เนื้อหาทรงพิมพ์)
เรื่องของพิมพ์(พระวังหน้า) จะมีอยู่ด้วยกันมากมาย หากดูองค์จริงจากพระวังหน้าที่เป็นเนื้อผง
ก็จะพอทราบได้ว่า พิมพ์ที่เป็นเนื้อทองคำ จะมีรูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องเนื้อทองคำ  ผมเองได้นำไปพิสูจน์เนื้อมาจากสถานที่หนึ่ง
เครื่องที่ตรวจเนื้อทองคำ เมื่อสมัยประมาณ 16 ปีที่ผ่านมา (ประมาณปี พ.ศ.2550)
มูลค่าของเครื่องตรวจโลหะ มีมูลค่าไม่น้อยกว่าเป็น 10 ล้านบาท และ เป็นเครื่องตรวจโลหะที่มีคุณภาพสูง
ผมขอไม่แจ้งเปอร์เซ็นของทองคำในองค์พระที่ผมนำมาลงในวันนี้
.
.
เรื่องของ นาม (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)
ผมเองมีครูบาอาจารย์ที่เก่งมาก อีกทั้งรองประธานชมรมพระวังหน้า
มีความสามารถในเรื่องการดูพระพิมพ์ต่างๆ ทั้ง รูป และ นาม
และสามารถใช้จิตไปดูถึงงานพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า)
ผมนำเรื่องที่ผมเคยเขียนไว้ และ ที่เคยนำมาลงในเพจ.Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร&พระวังหน้า นำมาลงให้อ่านกันอีกครั้ง
ผมขอไม่แจ้งองค์ผู้อธิษฐานจิตของรูปพระที่ผมนำมาลงในวันนี้
.
.*************************************.
.*************************************.
.
เรื่องของ “นาม”  (การตรวจดูพลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)
.
.
เรื่องของการจับพลังพระพิมพ์(ผมเคยลงไว้เมื่อ 21 สิงหาคม 2549 ที่กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เว็บไซด์พลังจิต) นั้น  มีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่หลายประการ    อาทิเช่น
.
1.พระพิมพ์บางองค์  เวลาที่กดพระพิมพ์นั้น  อาจกดไปโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ  ถ้าพระพิมพ์องค์ไหน  กดโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ  ไม่ว่าพระองค์ไหน  ก็เสกไม่เข้าทั้งสิ้น  ฤกษ์ดอกลูกพิษนั้น  มีทุกวัน  แต่ว่ามีเป็นช่วงๆ  บางครั้งในหนึ่งวัน  มีช่วงเดียว  บางครั้งในหนึ่งวัน อาจมีหลายช่วงก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น
.
2.ในการจับพลังองค์พระพิมพ์นั้น  บางวัน พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ก็เป็นได้  การปิดกระแสนั้น  พระผู้เสกย่อมทำได้เนื่องจากว่า ระดับของญาณหรืออภิญญาสูงกว่าผู้จับพลังองค์พระพิมพ์  มีเพื่อนผมคนหนึ่ง  สามารถจับพลังขององค์พระพิมพ์ได้  มีอยู่วันหนึ่ง  เพื่อนผมผู้นี้ได้นำพระพิมพ์องค์หนึ่ง  ไปให้อาจารย์ของเขาตรวจพลังให้  แต่ปรากฏว่า อาจารย์ของเขาได้บอกว่า  พระพิมพ์องค์นี้  ไม่มีพลัง  ไม่มีอะไรเลย  แต่เพื่อนผมได้นำพระพิมพ์องค์เดิมไปให้เพื่อนของเขาจับ  ปรากฎว่าเพื่อนของเขาจับพลังได้  และยังบอกอีกว่า พลังขององค์พระพิมพ์นั้น แรงมากด้วย  ในเรื่องนี้  ความคิดเห็นส่วนตัวผม ผมเห็นว่า  พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสไม่ให้อาจารย์ของเพื่อนตรวจพลัง  นะครับ
.
3.ในบางวัน  พระผู้เสก  ท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
.
4.และในบางวัน  ผู้ที่ตรวจพลังของพระพิมพ์  เป็นวันที่เบื้องบนไม่ให้ตรวจพลังขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
.
5.พิมพ์ทุกองค์นั้น  เวลาที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว  จะมีเทวดารักษาองค์พระพิมพ์ทุกองค์  บางครั้งเทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์อาจจะปิดกระแสก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน
.
6.ในบางครั้งพระปลอมก็มีพลังเช่นเดียวกัน  ถ้าผู้ทำพระปลอมได้นำพระไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก
.
7.หรือบางครั้งผู้ทำพระปลอมได้นำเศษพระแท้ผสมลงไป  ก็สามารถมีพลังได้เหมือนกัน เพียงแต่พลังอาจจะน้อยกว่าพระแท้ครับ
.
8.การนำพระแท้ไปไว้ในที่ไม่สมควร  เทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์  ท่านอาจจะไม่อยู่ครับ  และทำให้พลังขององค์พระพิมพ์นั้นเสื่อมได้ครับ  ตามหลัก มีเกิดได้ก็มีดับได้นะครับ
.
ในเรื่องของรังสีของคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรให้ฟังหลายครั้ง  อีกทั้งลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถมหลายท่าน  ก็สามารถตรวจสอบพลังขององค์พระพิมพ์ได้  เช่นการนั่งดูว่าใครเสก  ,การนั่งดูพิธีเสก  ,การจับพลังขององค์พระพิมพ์  เป็นต้นครับ
.
การตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์นั้น  ผมแนะนำให้ไปหาผู้ทรงฌานหรือผู้ทรงญาณ หลายๆท่าน(ควรไม่ต่ำว่า 3 ท่าน) นะครับ  และผลที่ตรวจได้นั้น  ต้องตรงกัน
.
บทความนี้ เขียนโดย sithiphong ชมรมพระวังหน้า หรือ NooMWangnA
.
สงวนลิขสิทธิ์
.
.
.
สำหรับท่านใดที่ต้องการจะเผยแพร่รูปพระวังหน้าที่ผมลง หรือเนื้อหาที่ผมแจ้งเรื่องการสงวนลิขสิทธิ์ ให้คนอื่นได้เห็น สามารถทำได้ แต่ต้องระบุที่มาของรูปและเนื้อหาทุกครั้ง และให้มาขออนุญาตใน"เฟส หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า" ด้วย เมื่อผมอนุญาตแล้ว ถึงนำไปลงได้และลงข้อความในโพสที่ลงรูปด้วยครับ
.
....."รูปที่ผมลงที่ผมแจ้งว่า เป็นรูปของผม หากจะนำไปลงในเว็บไซด์อื่นๆ หรือ เฟสบุ๊ค หรือสื่อออนไลน์ตามที่ต่างๆ ให้ลงท้ายรูปตามนี้ครับ
รูปของ Sithiphong ชมรมพระวังหน้า สงวนลิขสิทธิ์".....
บทความของ Sithiphong ชมรมพระวังหน้า สงวนลิขสิทธิ์".....
.
หากต้องการนำไปเผยแพร่ ให้มาแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรในเฟสฯหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า และลงตามที่ผมได้แจ้งไว้ด้านบนข้อความนี้
.
เรื่องของการสงวนลิขสิทธิ์
.
ผมขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่ผมสงวนลิขสิทธิ์รูปภาพ และเนื้อหาที่ผมนำมาลงในเรื่องราวของพระวังหน้า หรือ พระวังหลวง หรือ พระพิมพ์ต่างๆ ที่ผมเป็นผู้ที่เขียนขึ้นในเฟสฯหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ในวันที่ 20 มกราคม 2561 เวลา 7.35 น.
.
ข้าพเจ้า ขอบรมพุทธานุญาต ขออาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ มาเป็นประธาน ขออาราธนาพระบารมีองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระมหาโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ , พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ มาเป็นรองประธาน ขออาราธนาองค์พยามัจจุราชเจ้าองค์ปัจจุบัน และองค์พยามัจจุราชเจ้าที่จะมาเป็นองค์พยามัจจุราชในอนาคตทุกๆองค์ , นายนิริยบาลองค์ปัจจุบัน และนายนิริยบาลที่จะมาเป็นนายนิริยบาลในอนาคตทุกองค์ , พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ทุกๆองค์ทั่วโลก และพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ทุกๆองค์ทั่วโลกที่จะมาเป็นพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ในอนาคตทุกๆองค์ทั่วโลก และเทพเทวาชั้น 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินทั่วโลก และองค์พระเยซูคริสต์ และองค์อัลลอฮ์ และองค์นบีมุฮัมมัด (หรือมุหัมมัด หรือพระมะหะหมัด) โปรดมาเป็นสักขีพยานในการอธิษฐานในครั้งนี้
.
ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า รูปภาพทุกรูปภาพที่ข้าพเจ้าถ่ายรูปเองหรือรูปที่ข้าพเจ้าแจ้งสงวนลิขสิทธิ์และทุกเนื้อหาที่ข้าพเจ้าอธิบายลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า และในสื่อออนไลน์ทุกประเภทที่มีอยู่ในปัจจุบัน และมี่ขึ้นในอนาคต ทุกประเภท
.
หากมีผู้หนึ่งผู้ใดที่นำรูปภาพหรือเนื้อหาดังกล่าว นำไปใช้ในสถานที่อื่นๆ หรือลงในสื่อออนไลน์ทุกประเภทในปัจจุบันและอนาคต โดยไม่แจ้งที่มา และ/หรือนำไปใช้ในเรื่องของพุทธพาณิชย์หรือการซื้อขายพระเครื่อง,พระพิมพ์และวัตถุมงคลต่างๆ รวมทั้งการปลอมแปลงพระวังหน้า หรือพระวังหลวงตามรูปและเนื้อหาที่ผมนำมาลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ยกเว้นเพื่อการศึกษาหาความรู้และต้องแจ้งที่มาของรูปและเนื้อหาที่ผมลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า
.
ข้าพเจ้าคิดเป็นค่าเสียหายต่อครั้งต่อหนึ่งวันต่อหนึ่งรูปภาพและหรือต่อหนึ่งเรื่องราว เป็นวันละ 10,000,000 บาท(สิบล้านบาทถ้วน) (โดยคำนวนเป็นค่าเงินของประเทศไทยในวันปัจจุบันที่ลง ถึงแม้ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงค่าเงินต่างๆในประเทศต่างๆไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงในทุกลักษณะ) พร้อมด้วยดอกเบี้ยสูงสุดของประเทศนั้นๆ และเพิ่มขึ้นทุกปีในวันขึ้นปีใหม่(หรือวันในลักษณะที่เหมือนกับวันขึ้นปีใหม่)ของทุกประเทศและทุกลักษณะ โดยเป็นไปตามเรื่องของประเทศในเบื้องต้น โดยเพิ่มจำนวนเงินขึ้นปีละ 100,000,000 บาท(หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วย) โดยการคำนวณค่าเงินเป็นไปตามข้างต้น
.
ในการใช้หนี้ข้าพเจ้า ไม่ต้องนำมาให้ข้าพเจ้า แต่ให้นำไปใช้หนี้ข้าพเจ้าในลักษณะให้นำเงินทั้งหมดไปทำบุญดังนี้ ให้แบ่งยอดเงินทั้งหมดออกเป็นสี่ส่วนเท่าๆกัน ในสองส่วนแรกให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องของงานบุญในพระพุทธศาสนา(ไม่ว่าจะมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ไหนก็ตาม) ในส่วนที่สามให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องในงานบุญของศาสนาคริสต์ และในส่วนที่สี่ส่วนสุดท้ายให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องงานบุญของศาสนาอิสลาม ในการแจ้งที่มา ให้แจ้งตามข้อความในอัญประกาศดังนี้
.
“ที่มาของรูปและเนื้อหา รูปและเนื้อหาโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
หรือ
“ที่มาของรูป รูปโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
หรือ
“ที่มาของเนื้อหา เนื้อหาโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ
สาธุ สาธุ สาธุ
.
#สงวนลิขสิทธิ์
#การสงวนลิขสิทธิ์
#นำรูปไปใช้ไม่แจ้งที่มา
#ลักทรัพย์
#พยามัจจุราช
#พระแม่ธรณี
#พระแม่คงคา
#พระแม่โพสพ
#พระวังหน้า
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
#Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร&พระวังหน้า
.
.
#พระเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
#เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
#พระเก๊จี๊ดจ๊าด
#เก๊จี๊ดจ๊าด
#ต่อตีนโจร
.
การเรียนรู้ ต้องมี สุ(ฟัง) จิ(คิด) ปุ(ถาม) ลิ(เขียน)
.
พาหุสัจจะ แปลว่า ความเป็นผู้ได้สดับมาก
หนังสือบางฉบับเรียกว่า หัวใจนักปราชญ์
.
สุ ย่อมาจาก สุตะ แปลว่า ฟัง
จิ ย่อมาจาก จินตะ แปลว่า คิด
ปุ ย่อมาจาก ปุจฉา แปลว่า ถาม
ลิ ย่อมาจาก ลิขิต แปลว่า จด
.
#อย่าไปเรียนกับกลุ่มเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
.
#เรียนรู้ของเก๊จี๊ดจ๊าดแทนของแท้   #เก็บสะสมของเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้าแทนของแท้
.
#หลงทางหลงป่าเข้าพงลงเหว จาก #กลุ่มกูรูเก๊
.
ระวังให้มากสำหรับ เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า และ เก๊จี๊ดจ๊าด กัน
.
 #อย่าไปเข้าป่าเข้าพงลงเหว #ไม่หลงทิศหลงทางลงนรก #อย่าตกเป็นเหยื่อ
.
ในเรื่อง #มุสาวาท และ #ปรามาสผู้มีธรรม จากกลุ่ม #กูรูเก๊
.
#โง่จริงแบบว่าไม่โง่จริงทำไม่ได้
.
รูปสงวนลิขสิทธิ์
.
.
.----------------------------------.
.
.
สองคน ยลตามช่อง คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม คนหนึ่ง ตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
บทกวีของท่านเช็คสเปียร์  "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star.
ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ
.
“สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย”
แปลโดยเจษฏาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ (F. Hilaire)
สุภาษิตนี้แปลมาจากภาษาอังกฤษ
Two men look out through the same bars; One sees the mud, and one the stars
โดย Frederick Longbridge
.
.

                "สองคน ยลตามช่อง

                คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม

                คนหนึ่ง ตาแหลมคม

                มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว"

.
.....ต่อมาเมื่อได้ค้นคว้าเพิ่มเติมก็ได้ทราบว่าต้นแบบเป็นบทกวีของท่านเช็คสเปียร์ ที่ว่า "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star." ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว (ข้อมูลจาก ไทยโพสต์ 25 พ.ย. 2547 โดยคุณสุวรรณ) ความหมายก็คือมุมมองของคนหลายคนในเรื่องเดียว อาจมีความแตกต่างกันได้ ไม่จำเป็นว่าคนหนึ่งต้องมองว่าบวกอีกคนต้องมองว่าลบเสมอไป อาจจะมองทางบวกทั้งคู่ หรือลบทั้งคู่ก็ได้ ถ้าแตกต่างกันในความคิดเห็นก็จัดว่าเป็นสองคนยลตามช่องได้ทั้งสิ้น
.
#สองคนยลตามช่อคนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
#คนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
.
.
ที่มา https://www.facebook.com/100081560750868/posts/221059333956090/?mibextid=Nif5oz
.
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
.
เรื่องในโลกเสมือนจริง หรือ โลกอินเตอร์เน็ต
มีหลายเรื่องที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง
เพื่อหาผลประโยชน์ให้กับพวกของตัวเอง
มีบางประเทศที่มีเจตนาในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
มีกลุ่มคนในประเทศบางกลุ่มที่มีเจตนาในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
เพราะ เมื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ได้แล้ว
กลุ่มคนเหล่านี้จะเข้าไปปล้นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้อย่างสะดวก
.
.
ส่วนตัว ผมและหมู่คณะ เคยไปกราบพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ผมเคยบอกกับท่านว่า เมื่อก่อนนี้ ผมเกลียดพระเจ้าเอกทัศน์มาก
เพราะ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาเสียทีกับพม่า
และ ในครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ความรู้สึกของผมในขณะที่ขับรถไปนั้น คือ มีความรู้สึกว่า กำลังกลับบ้าน
แต่ปัจจุบันนี้ (ในปีที่ผมไปกราบและสนทนากับท่าน คือ ปี 2564)
ผมมีความเกลียดพระเจ้าเอกทัศน์น้อยลง
เนื่องจาก หากไม่มีพระเจ้าเอกทัศน์ ก็คงไม่น่าจะมี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ที่ได้กอบกู้แผ่นดินจากพม่า และ รวบรวมแผ่นดินไทยให้ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระภิกษุสงฆ์รูปนี้ ท่านบอกกับผมว่า คนเราในเรื่องส่วนตัว มีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดีของตนเอง
หากในส่วนที่ดีมีมาก  ก็ให้มองข้ามในส่วนที่ไม่ดีไปบ้าง
และ หากมีการกระทำที่ดีต่อแผ่นดิน  เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่ต้องเชิดชูบุคคลที่กระทำความดีต่อแผ่นดิน
อย่าไป #เนรคุณ
.
.
เพราะฉะนั้น ................................
ให้ระมัดระวังความคิดและการกระทำของตนเอง
ไม่ว่าทั้ง กาย , วาจา และ ใจ
#อย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเหล่านั้น
#คิด #วิเคราะห์ #แยกแยะ
#คิดวิเคราะห์แยกแยะ
#อย่าตกเป็นเหยื่อ
.
.
.*****************************.
.
.
พระราชประวัติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่ 3 ของไทย และเมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดประชุมร่วมกันในวาระพิเศษเรื่อง การมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ และมีมติแจ้งไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้อัญเชิญองค์พระรัชทายาท (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) ขึ้นครองราชสมบัติ สืบเป็นรัชกาลที่ 10
พระราชประวัติ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรงสุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร” เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น.
ซึ่งพระนาม “วชิราลงกรณ” นั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ทรงตั้งถวาย มาจาก “วชิรญาณ” พระนามฉายาขณะผนวชในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ผนวกกับ �”อลงกรณ์”� จากพระนามในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
พี่น้อง
มีพระเชษฐภคินี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระขนิษฐภคินี 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ระดับอนุบาล รร.จิตรลดา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นในระดับอนุบาล รุ่นที่ 2 จากโรงเรียนจิตรลดา แล้วจึงเสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงส์มีด แคว้นซัสเซกส์ และศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอมเมอร์เซทประเทศอังกฤษ หลังจากนั้น ทรงศึกษาต่อวิชาทหารที่โรงเรียนคิงส์สกูล ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เสร็จแล้ว ทรงการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีสาขาอักษรศาสตร์ (ด้านการทหาร) จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ พ.ศ. 2519
โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46
นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46 เมื่อปี พ.ศ. 2520 ทรงเข้าศึกษาในสาขาวิชานิติศาสตร์ รุ่นที่ 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ.2525 ทรงสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2)  และปี พ.ศ. 2533 ทรงได้รับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งสหราชอาณาจักร
พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย
สมเด็จพระยุพราช
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ให้ดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร� ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เพื่อรับราชสมบัติปกครองราชอาณาจักรสืบสนองพระองค์ โดยมีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สิริกิติยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธ สยามมกุฎราชกุมาร
พระโอรส-พระธิดา
    พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
    หม่อมเจ้าจุฑาวัชร มหิดล หรือ จุฑาวัชร วิวัชรวงศ์
    หม่อมเจ้าวัชรเรศร มหิดล หรือ วัชรเรศร วิวัชรวงศ์
    หม่อมเจ้าจักรีวัชร มหิดล หรือ จักรีวัชร วิวัชรวงศ์
    หม่อมเจ้าวัชรวีร์ มหิดล หรือ วัชรวีร์ วิวัชรวงศ์
    พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์
    พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
พระราชกรณียกิจ
1. ด้านการบิน
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-5 อี/เอฟ และพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737 – 400 ในเที่ยวบินสายใยรักแห่งครอบครัว ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เที่ยวบินที่ ทีจี 8870 กรุงเทพมหานครถึงจังหวัดเชียงใหม่ และเที่ยวบินที่ ทีจี 8871 จังหวัดเชียงใหม่ถึงกรุงเทพมหานคร)
2. ด้านการทหาร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมที่ตั้งกองทหารหน่วยต่างๆ อยู่เสมอ จากการที่ได้ทรงศึกษาด้านวิชาทหารมานาน ทรงมีความรู้เชี่ยวชาญอย่างมาก และได้พระราชทานความรู้เหล่านั้นให้แก่ทหาร 3 เหล่าทัพ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างแก่นายทหาร เอาพระทัยใส่ในความเป็นอยู่ทุกข์สุขของทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างทั่วถึง รวมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนการศึกษาแก่บุตรของทหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเทิดทูนและความจงรักภักดีแก่เหล่าทหารเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งในปัจจุบันทรงดำรงพระยศทางทหารของ 3 เหล่าทัพ ได้แก่ พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการทหาร และทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบในการต่อต้านการก่อการร้ายในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย รวมทั้งการคุ้มกันพื้นที่ในบริเวณรอบค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่เขาล้าน จังหวัดตราด อีกด้วย
3. ด้านการศึกษา
พระองค์พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้อาคารของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอนุบาลชื่อว่า โรงเรียนอนุบาลทหารมหาดเล็กราชวัลลภ โดยในระยะแรกได้จัดการเรียนการสอนเฉพาะชั้นอนุบาล ต่อมาโรงเรียนได้ย้ายไปที่จังหวัดนนทบุรี และได้รับพระราชทานชื่อใหม่ว่า “โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์”
นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลคมนาคมไม่สะดวก กระทรวงศึกษาธิการได้สนองพระราชประสงค์ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวายโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาจำนวน 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ ได้แก่
    โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา อ.ปลาปาก จ.นครพนม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1)
    โรงเรียนมัธยมจุฑาวัชร อ.ลานกระลือ จ.กำแพงเพชร (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2)
    โรงเรียนมัธยมวัชเรศร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3)
    โรงเรียนมัธยมจักรีวัชร อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 2)
    โรงเรียนมัธยมวัชรวีร์ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 3)
    โรงเรียนมัธยมบุษย์น้ำเพชร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยาวชนในตำบลต่างๆ ทรงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เยาวชนตำบล รวมทั้งได้ทรงเป็นประธานงานวันเยาวชนแห่งชาติ วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี และทรงเป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนและสวนสนามของลูกเสือและเนตรนารี และสมาชิกผู้ทำประโยชน์
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้อุปการะเด็กกำพร้า คือ จักรกฤษณ์ และอนุเดช ชูศรี ที่ครอบครัวเสียชีวิตจากภูเขาถล่มเมื่อปี พ.ศ. 2554 รวมทั้งครอบครัวของบูรฮาน และบุศรินทร์ หร่ายมณี ซึ่งบิดาถูกลอบสังหารจากเหตุความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะทรงอุปการะจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือจนกว่าจะมีอาชีพสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นต้น
4. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้น เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร พระองค์ทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พระองค์มีพระราชปณิธานให้เอาใจใส่รักษาพยาบาลพสกนิกรของพระองค์ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดยทั่วหน้าเสมอกัน
5. ด้านศาสนา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทรงประเคนผ้าไตร ประกาศนียบัตร และพัดยศ ในการตั้งภิกษุ และ สามเณรเปรียญ เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วิสาขบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรม มหาราชวัง พ.ศ. 2551
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชศรัทธาทรงผนวชในพระพุทธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดฯ ให้จัดการพระราชพิธีผนวช ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) ถวายอนุศาสน์ ได้รับถวายพระสมณนามว่า “วชิราลงฺกรโณ” และได้ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดจนทรงลาสิกขาในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปปฏิบัติพระราชกิจทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เช่น เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายผ้าพระกฐินหลวงตามวัดต่างๆ เป็นต้น
6. ด้านการเกษตร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวาและวัชพืชอื่นๆ เป็นปฐมฤกษ์ เพื่อพระราชทานแก่เกษตรกร สำหรับนำไปใช้ในการเพาะปลูกเป็นการเพิ่มผลผลิต ที่บ้านแหลมสะแก ต.เดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528
7. ด้านการต่างประเทศ
วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต นำผ้าห่มกันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายกษิต ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ
ข้อมูล : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี และ thaigoodview
ภาพประกอบ : หนังสือ “๗๐ สัมพัจฉร์ฉลองรัชธรรมราชา” กวีนิพนธ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี พิมพ์ครั้งที่ 1 พุทธศักราช 2559 โดยกรมศิลปากร
ที่มา เว็บไซด์ lifestyle.campus-star
ที่มาของรูปที่ลง สำนักพระราชวัง และ ไทยรัฐออนไลน์
-------------------------------------------------
พระราชประวัติ ร.๑๐
https://www.youtube.com/watch?v=eEEhLBtHvSM
ที่มา ผอ.สันติรักษ์ ลุสีดา
เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ค. 2017
https://www.youtube.com/channel/UCSWUxpzYz_BplPccPeXlowQ
.-------------------------. .-------------------------.
พระราชประวัติ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” รัชกาล ที่ 10
https://www.youtube.com/watch?v=9pVmMRooPiw
ที่มา opt- tvnews
เผยแพร่เมื่อ 30 พ.ย. 2016
https://www.youtube.com/channel/UCYFmyycqdHKG97DRQVDh8LA
-------------------------------------------------
เพลงสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
https://www.youtube.com/watch?v=e2uE6YHgbp8
SFMusic Channel
เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ค. 2017
เพลงสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
คำร้อง ทำนอง ร้องนำ : วาณี จูฑังคะ คีตศิลปินทักษะพิเศษ
เรียบเรียงเสียงประสาน :  มานิตย์ บูชาชนก  ดุริยางคศิลปินอาวุโส
ผู้อำนวยเพลง : วานิช  โปตะวนิช ดุริยางคศิลปินอาวุโส ศิลปินศิลปาธร ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗
บรรเลง ขับร้อง  : ดุริยางคศิลปิน/คีตศิลปิน   สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
บันทึกเสียง-ผลิตสื่อ : สุกฤตา  วาสกุล / ธีรยุทธ  ทับพรโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์
----------------------------------------------
สดุดีจอมราชา
https://www.youtube.com/watch?v=nmTWXUoUcxo
Sattahip Today
เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2018
เพลง สดุดีจอมราชา ใช้ทดแทนเพลงสดุดีมหาราชา สำหรับงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าหัว รัชกาลที่ 10  วันที่ 28 ก.ค.61
เพลงสดุดีจอมราชาในหลวง รัชกาลที่10
ผู้แต่ง : วิเชียร ตันติพิมลพันธ์
ทำนอง - เรียบเรียง : วิรัช อยู่ถาวร (ศิลปินแห่งชาติ)
วงดนตรี : เฉลิมราชย์
ห้องบันทึกเสียง : จาตุรงค์
นักร้อง : ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทธ์
กตธิป อัครวิกรัย
ภัทรานิษฐ์ เพฑูริยาเวทย์
กนกวรรณ อินทรพัฒน์
เนื้อร้อง
"ถวายบังคมจอมราชา
พระบุญญาเกริกฟ้าไกล
ธ ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร
ศูนย์รวมใจชาวไทยสมัครสมาน
ถวายพระพรจอมราชัน
ธ อนันต์ปรีชาชาญ
ขอพระองค์ทรงเกษมสำราญ
งามตระการสมขัตติยะไทย
อุ่นไอรักจากฟ้าเรืองรอง
แสงทองส่องมา ไพร่ฟ้าต่างสดใส
มหาวชิราลงกรณ  มิ่งขวัญปวงชนชาวไทย
เทิดไท้พระภูวไนย ถวายใจสดุดี"
***หมายเหตุ  ในเนื้อร้องมีคำผิดที่ถูกต้องคือ "มหาวชิราลงกรณ"
----------------------------------------------
บทเพลงเทิดพระเกียรติ | เพลง รัชกาลที่ 10 ทรงพระเจริญ
https://www.youtube.com/watch?v=RY3Q4vBYylo
หนังลุง-โนรา วัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้
เผยแพร่เมื่อ 29 ต.ค. 2017
เพลง รัชกาลที่ ๑๐ ทรงพระเจริญ
ศิลปิน : เอกชัย ศรีวิชัย
คำร้อง ทำนอง : เจษฎา เรืองนาม
ดนตรี : อ.กิตติศักดิ์ สายน้ำทิพย์
เนื้อเพลง :
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนานมิ่งขวัญชาวไทย
พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่
เป็นศูนย์รวมใจของไทยทั่วหล้า
พระจักรีวงศ์ มั่นคงคู่ไทยนานมา
องค์พระสยามเทวา ปกปักรักษาชั่วกาลนิรันดร์
พระทัยหมายมั่น สืบปณิธานพระราชบิดา
ทศพิธราชธรรมนำหน้า
เพื่อปวงประชาชาติไทยเรานั่น
ทุกถิ่นใกล้ไกล พระทรงห่วงใยทั่วกัน
สยามมกุฎราชกุมาร
ถวายสัตย์ปฏิญาณ ครองราชย์โดยธรรม
 พระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ
บดินทร เทพยวรางกูร เป็นบุญไทยล้ำ
รัชกาลที่ 10 ประหนึ่งน้ำทิพย์ ผสมแสงธรรม
ขวานทองเมื่อมองแล้วงาม
ทั้งขวานและด้าม ด้วยน้ำพระทัย
 ทรงพระเจริญ คู่ฉัตรทองและผองปวงชน
เทวาอารักษ์เบื้องบน ต่างช่วยดล มนต์ทิพย์มาให้
เถลิงถวัลยราชสมบัตินานไกล
ปวงข้าถวายพรชัย ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ
พระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ
บดินทร เทพยวรางกูร เป็นบุญไทยล้ำ
รัชกาลที่ 10 ประหนึ่งน้ำทิพย์ ผสมแสงธรรม
ขวานทองเมื่อมองแล้วงาม
ทั้งขวานและด้าม ด้วยน้ำพระทัย
ทรงพระเจริญ คู่ฉัตรทองและผองปวงชน
เทวาอารักษ์เบื้องบน ต่างช่วยดล มนต์ทิพย์มาให้
เถลิงถวัลยราชสมบัตินานไกล
ปวงข้าถวายพรชัย ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ
----------------------------------------------
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
sithiphong
.
.
.*****************************.
.
.
ที่มา และ โพสโดย Dhamarich Thunyhaboarvorn
โพสลงกลุ่ม เรารักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี
26 กรกฎาคม 2566
.
ทรงทำ
๐ ทรงทำตามกฎบัญญัติอยู่ทุกอย่าง
ไม่เคยอ้างเอานามความเป็นกษัตริย์
เพื่อแสวงผลกำไรในอานัติ
#ธรรมฤทธิ์
#ประชาสาส์น
#เรารักในหลวง
#เรารักพระเทพ
#เทิดทูนจักรีวงศ์
#เรารักพระราชินี
#เรารักราชวงศ์จักรี
#เรารักพระพันปีหลวง
.
.
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566)
.
ผมได้โอนเงิน จำนวน 159,547.39 บาท ให้กับ พี่หวาน
พี่หวาน เป็นเจ้าภาพการถวายโคมไฟระย้า (ที่ติดไว้ที่พระอุโบสถวัดป่าภัทรปิยาราม)
.
เงินที่ผมโอนให้พี่หวาน เป็นเงินของ สมาชิกไลน์กลุ่มพระวังหน้า , สมาชิกไลน์กลุ่มพระวังหน้าโลกอุดร , สมาชิกชมรมพระวังหน้า ที่ได้ร่วมกันทำบุญกันมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2564 จนถึง เดือน กุมภาพันธ์ 2565
.
และเงินจำนวนนี้ จะไปสมทบกับเงินของพี่หวาน ที่เป็นเจ้าภาพฯ ครับ
.
ขอกราบโมทนาบุญกับพี่หวาน และ ทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญกันมาด้วยครับ
.
.
.********************************.
.
.
#หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า (#หลวงปู่พระอุตตระเถระเจ้า) หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
.
#หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
.
#หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร  หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
.
#หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
.
#หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
.
#หลวงปู่เทพโลกอุดร
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
#คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
.
#สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
.
#หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
.
#พระพุทธยมกปาฎิหาริย์
.
#พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต (พระประธาน พระอุโบสถเจดีย์ จักรรัตนอุโบสถ โลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมาน พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต อัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์ วัดป่าภัทรปิยาราม)
.
#พระอุโบสถเจดีย์จักรรัตนอุโบสถโลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมานพระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิตอัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์
.
#พระบรมธาตุเจดีย์ศรีอิทธิมนต์ทิพยสถานอรุโณโลกุตตระ
.
#พระอาจารย์ณริชธันร์  #วัดป่าภัทรปิยาราม
.
#ถ้าสุวรรณคูหามัฆวานวินิจฉัย
.
#พญานาคราชศีลวิสุทธิโลกาธิบดี
.
#ศาลาศรีอิทธิมนต์ (#ศาลาเคียงอุโบสถวัดป่าภัทรปิยาราม)
.
#ชมรมพระวังหน้า
.
#พระวังหน้า
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา (บาลี: อาสาฬหปูชา; อักษรโรมัน: Asalha Puja) เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธนิกายเถรวาทและวันหยุดราชการในประเทศไทย[1] คำว่า อาสาฬหบูชา ย่อมาจาก "อาสาฬหปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ" อันเป็นเดือนที่สี่ตามปฏิทินของประเทศอินเดีย ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคม แต่ถ้าในปีใดมีเดือน 8 สองหน ก็ให้เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 8 หลังแทน
วันอาสาฬหบูชาได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 45 ปี ก่อนพุทธศักราช ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 คือวันอาสาฬหปุรณมีดิถี หรือวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ[2] ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ อันเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกเป็นปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์[3]
การแสดงธรรมครั้งนั้นทำให้พราหมณ์โกณฑัญญะ 1 ใน 5 ปัญจวัคคีย์ เกิดความเลื่อมใสในพระธรรมของพระพุทธเจ้า จนได้ดวงตาเห็นธรรมหรือบรรลุเป็นพระอริยบุคคลระดับโสดาบัน ท่านจึงขออุปสมบทในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา พระอัญญาโกณฑัญญะจึงกลายเป็นพระสงฆ์องค์แรกในโลก และด้วยเหตุที่ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล (อนุพุทธะ) เป็นคนแรก จึงทำให้ในวันนั้นมีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์เป็นครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วันนี้ถูกเรียกว่า "วันพระธรรม" หรือ วันพระธรรมจักร อันได้แก่วันที่ล้อแห่งพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้หมุนไปเป็นครั้งแรก และ "วันพระสงฆ์" คือวันที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก อีกด้วย
เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีการบูชาในเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาในประเทศพุทธเถรวาทมาก่อน จนมาในปี พ.ศ. 2501 การบูชาในเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาจึงได้เริ่มมีขึ้นในประเทศไทย ตามที่คณะสังฆมนตรี ได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2501 โดยคณะสังฆมนตรีได้มีมติให้เพิ่มวันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาในประเทศไทย ตามคำแนะนำของ พระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี)[4] โดยคณะสังฆมนตรีได้ออกเป็นประกาศสำนักสังฆนายกเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2501[5] กำหนดให้วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาพร้อมทั้งกำหนดพิธีอาสาฬหบูชาขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีพิธีปฏิบัติเทียบเท่ากับวันวิสาขบูชาอันเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล
อย่างไรก็ตาม วันอาสาฬหบูชาถือเป็นวันสำคัญที่กำหนดให้กับวันหยุดของรัฐเพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนในต่างประเทศที่นับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาทอื่น ๆ ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันอาสาฬหบูชาเทียบเท่ากับวันวิสาขบูชา
ความสำคัญ
พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตรแก่ปัญจวัคคีย์ในวันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมที่ตรัสรู้เป็นครั้งแรก จึงถือได้ว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นประกาศพระพุทธศาสนาแก่ชาวโลก และด้วยการที่พระพุทธเจ้าทรงสามารถ แสดง เปิดเผย ทำให้แจ้ง แก่ชาวโลก ซึ่งพระธรรมที่ตรัสรู้ได้ จึงถือได้ว่าพระองค์ได้ทรงกลายเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์ คือทรงสำเร็จภารกิจแห่งการเป็นพระพุทธเจ้าผู้เป็น "สัมมาสัมพุทธะ" คือเป็นพระพุทธเจ้าผู้สามารถแสดงสิ่งที่ตรัสรู้ให้ผู้อื่นรู้ตามได้ ซึ่งแตกต่างจาก "พระปัจเจกพุทธเจ้า" ที่แม้จะตรัสรู้เองได้โดยชอบ แต่ทว่าไม่สามารถสอนหรือเปิดเผยให้ผู้อื่นรู้ตามได้ ด้วยเหตุนี้วันอาสาฬหบูชาจึงมีชื่อเรียกว่า "วันพระธรรม"
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่ท่านโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมสำเร็จพระโสดาบันเป็นพระอริยบุคคลคนแรก และได้รับประทานเอหิภิกขุอุปสมบทเป็นพระสงฆ์องค์แรกในพระศาสนา และด้วยการที่ท่านเป็นพระอริยสงฆ์องค์แรกในโลกดังกล่าว พระรัตนตรัยจึงครบองค์สามบริบูรณ์เป็นครั้งแรกในโลก ด้วยเหตุนี้วันอาสาฬหบูชาจึงมีชื่อเรียกว่า "วันพระสงฆ์"[6]
ดังนั้น วันอาสาฬหบูชาจึงถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนาดังกล่าว ซึ่งควรพิจารณาเหตุผลโดยสรุปจากประกาศสำนักสังฆนายกเรื่องกำหนดพิธีอาสาฬหบูชา ที่ได้สรุปเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวันอาสาฬหบูชาไว้โดยย่อ ดังนี้
{{คำพูด|
    เป็นวันแรกที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา
    เป็นวันแรกที่พระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมจักร์ ประกาศสัจจธรรม อันเป็นองค์แห่งพระสัมมาสัมโพธิญาณ
    นโลก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้รับประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา ในวันนั้น
    เป็นวันแรกที่บังเกิดสังฆรัตนะ สมบูรณ์เป็นพระรัตนตรัย คือ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ|ประกาศสำนักสังฆนายก เรื่อง กำหนดพิธีอาสาฬหบูชา
    ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2501[7] ว่า
    ... บัดนี้ ไม่สมควรที่เราจะประกาศธรรมที่เราตรัสรู้ เพราะธรรมที่เราตรัสรู้นั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วไป ที่ถูกราคะ โทสะครอบงำอยู่จะไม่สามารถมองเห็นได้โดยง่าย, คนที่ถูกราคะย้อมไว้ ถูกกองมืด (คืออวิชชา) หุ้มไว้มิดทั้งหลาย ย่อมไม่สามารถที่จะเข้าใจธรรมะของเราที่เป็นสิ่งทวนกระแส (อวิชชา) ที่มีสภาพลึกซึ้ง ละเอียดเช่นนี้ได้เลย...
ที่มา https://sites.google.com/site/prawatiwanxasalhbucha/
--------------------------------------------------------
ที่มา ของ คลิป
เพลงลงวันอาสาฬหบูชา  โดย MultiThamma
https://www.youtube.com/watch?v=NqJk39K51Dk
MultiThamma
เผยแพร่เมื่อ 5 พ.ค. 2013
--------------------------------------------------------
เพลงอาสาฬหบูชา
https://www.youtube.com/watch?v=hR_05l12XnY
NONGORN23
เผยแพร่เมื่อ 30 ม.ค. 2012
--------------------------------------------------------
เพลงวันอาสาฬหบูชา
https://www.youtube.com/watch?v=wWwNynKMF3w
2012medkanoon
เผยแพร่เมื่อ 5 มิ.ย. 2016
--------------------------------------------------------
วันอาสาฬหบูชา MV
https://www.youtube.com/watch?v=0bfjJ9MHEUo
nurnnamkam
เผยแพร่เมื่อ 17 ธ.ค. 2012
.-----------------------------------------------------------
เรื่องราว วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
https://www.youtube.com/watch?v=TGJODadFM04
ที่มา เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
https://www.youtube.com/channel/UCjjn2rmjEGZWnpJCv-XC9VA
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
วงการพระเครื่องของเมืองไทย มักจะเรียกพลังของพระพิมพ์ หรือ เครื่องรางต่างๆ ว่า พุทธคุณ
คำว่า พุทธคุณ  ในความหมายของภาษาไทย คือ พระคุณของพระพุทธเจ้า ที่ผมได้นำมาลงให้อ่านกันด้านล่าง
.
แต่ส่วนตัวผม เรียกพลังของพระพิมพ์ หรือ เครื่องรางต่างๆ ว่า อิทธิคุณ
โดยเรียกตามที่ผมได้รับคำสอนมาจาก ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร
และ พยายามใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ครับ
.
บทความ #เรื่องของคุณ ผมเคยขออนุญาตจากท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร (ตั้งแต่ที่ท่านยังมีชีวิตอยู่)
ขอนำบทความฯไปลงในกระทู้  พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....  ในเว็บพลังจิต ซึ่งท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ได้อนุญาตไว้เรียบร้อยแล้ว
และ ผมเคยขออนุญาตจากพี่จิ๋ว (บุตรชายท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้ถือลิขสิทธิ์คนปัจจุบัน) ขอนำมาลงใน เพจ.หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า และ ในเพจ.ส่วนตัวของผม และ พี่จิ๋วได้อนุญาตไว้เรียบร้อยแล้ว
.
ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร และ พี่จิ๋ว ไว้ ณ โอกาสนี้ ครับ
.
ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=273521125376577&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
.
.*************************************.
.

พุทธคุณ
.
ที่มา เว็บไซด์ 84000
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
.
.
[303] พุทธคุณ 9 (คุณของพระพุทธเจ้า — virtues or attributes of the Buddha)
.
       อิติปิ โส ภควา (แม้เพราะอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น — thus indeed is he, the Blessed One,)
.
       1. อรหํ (เป็นพระอรหันต์ คือ เป็นผู้บริสุทธิ์ ไกลจากกิเลส ทำลายกำแห่งสังสารจักรได้แล้ว เป็นผู้ควรแนะนำสั่งสอนผู้อื่น ควรได้รับความเคารพบูชา เป็นต้น — holy; worthy; accomplished)
.
       2. สมฺมาสมฺพุทฺโธ (เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง — fully self-enlightened)
.
       3. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชา คือความรู้ และจรณะ คือความประพฤติ — perfect in knowledge and conduct)
.
       4. สุคโต (เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว คือ ทรงดำเนินพระพุทธจริยาให้เป็นไปโดยสำเร็จผลด้วยดี พระองค์เองก็ได้ตรัสรู้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพุทธกิจก็สำเร็จประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ชนทั้งหลายในที่ที่เสด็จไป และแม้ปรินิพพานแล้ว ก็ได้ประดิษฐานพระศาสนาไว้เป็นประโยชน์แก่มหาชนสืบมา — well-gone; well-farer; sublime)
.
       5. โลกวิทู (เป็นผู้รู้แจ้งโลก คือ ทรงรู้แจ้งสภาวะอันเป็นคติธรรมดาแห่งโลกคือสังขารทั้งหลาย ทรงหยั่งทราบอัธยาศัยสันดานแห่งสัตวโลกทั้งปวง ผู้เป็นไปตามอำนาจแห่งคติธรรมดาโดยถ่องแท้ เป็นเหตุให้ทรงดำเนินพระองค์เป็นอิสระ พ้นจากอำนาจครอบงำแห่งคติธรรมดานั้น และทรงเป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ทั้งหลายผู้ยังจมอยู่ในกระแสโลกได้ — knower of the worlds)
.
       6. อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ (เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ฝึกได้ ไม่มีใครยิ่งไปกว่า คือ ทรงเป็นผู้ฝึกคนได้ดีเยี่ยม ไม่มีผู้ใดเทียมเท่า — the incomparable leader of men to be tamed)
.
       7. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ (เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย — the teacher of gods and men)
.
       8. พุทฺโธ (เป็นผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว คือ ทรงตื่นเองจากความเชื่อถือและข้อปฏิบัติทั้งหลายที่ถือกันมาผิดๆ ด้วย ทรงปลุกผู้อื่นให้พ้นจากความหลงงมงายด้วย อนึ่ง เพราะไม่ติด ไม่หลง ไม่ห่วงกังวลในสิ่งใดๆ มีการคำนึงประโยชน์ส่วนตน เป็นต้น จึงมีพระทัยเบิกบาน บำเพ็ญพุทธกิจได้ถูกต้องบริบูรณ์ โดยถือธรรมเป็นประมาณ การที่ทรงพระคุณสมบูรณ์เช่นนี้ และทรงบำเพ็ญพุทธกิจได้เรียบร้อยบริบูรณ์เช่นนี้ ย่อมอาศัยเหตุคือความเป็นผู้ตื่นและย่อมให้เกิดผลคือทำให้ทรงเบิกบานด้วย — awakened)
.
       9. ภควา (ทรงเป็นผู้มีโชค คือ จะทรงทำการใด ก็ลุล่วงปลอดภัยทุกประการ หรือ เป็นผู้จำแนกแจกธรรม — blessed; analyst)
.
       พุทธคุณ 9 นี้ เรียกอีกอย่างว่า นวารหาทิคุณ (คุณของพระพุทธเจ้า 9 ประการ มีอรหํ เป็นต้น) บางทีเลือนมาเป็น นวรหคุณ หรือ นวารหคุณ แปลว่า คุณของพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ 9 ประการ
.
M.I.37;
A.III.285.
ม.มู. 12/95/67
องฺ.ฉกฺก. 22/281/317.
.
.
.
[304] พุทธคุณ 2 (virtues, qualities or attributes of the Buddha)
.
       1. อัตตหิตสมบัติ (ความถึงแห่งประโยชน์ตน, ทรงบำเพ็ญประโยชน์ส่วนพระองค์เอง เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว — to have achieved one’s own good; accomplishment of one’s own welfare) พระคุณข้อนี้มุ่งเอาพระปัญญาเป็นหลัก เพราะเป็นเครื่องให้สำเร็จพุทธภาวะ คือ ความเป็นพระพุทธเจ้า และความเป็นอัตตนาถะ คือ พึ่งตนเองได้
.
       2. ปรหิตปฏิบัติ (การปฏิบัติเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น, ทรงบำเพ็ญพุทธจริยาเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น — practice for the good or welfare of others) พระคุณข้อนี้มุ่งเอาพระกรุณาเป็นหลัก เพราะเป็นเครื่องให้สำเร็จพุทธกิจ คือ หน้าที่ของพระพุทธเจ้า และความเป็นโลกนาถ คือ เป็นที่พึ่งของชาวโลกได้
.
       พุทธคุณ 9 ในข้อก่อน [303] ย่อลงแล้วเป็น 2 อย่างดังแสดงมานี้ คือ
ข้อ 1-2-3-5 เป็นส่วนอัตตหิตสมบัติ
 ข้อ 6-7 เป็นส่วนของปรหิตปฏิบัติ
ข้อ 4-8-9 เป็นทั้งอัตตหิตสมบัติ และปรหิตปฏิบัติ
.
DAT.I.8
 วิสุทธิ.ฎีกา. 1/258/381; 246/338
.
.
.
[305] พุทธคุณ 3 (virtues, qualities or attributes of the Buddha)
.
       1. ปัญญาคุณ (พระคุณคือพระปัญญา — wisdom)
       2. วิสุทธิคุณ (พระคุณคือความบริสุทธิ์ — purity)
       3. กรุณาคุณ (พระคุณคือพระมหากรุณา — compassion)
.
       ในพระคุณ 3 นี้ ข้อที่เป็นหลักและกล่าวถึงทั่วไปในคัมภีร์ต่างๆ มี 2 คือ ปัญญา และกรุณา
ส่วนวิสุทธิ เป็นพระคุณเนื่องอยู่ในพระปัญญาอยู่แล้ว เพราะเป็นผลเกิดเองจากการตรัสรู้
คัมภีร์ทั้งหลายจึงไม่แยกไว้เป็นข้อหนึ่งต่างหาก
.
นัย. วิสุทธิ.
ฎีกา 1/1.
.
.*************************************.
.
พุทธคุณ หมายถึง/ความหมาย
โดย อ.เปลื้อง ณ.นคร
ที่มา online-english-thai-dictionary
.
พุทธคุณ เป็น คำนาม
คุณของพระพุทธเจ้า ๓ ประการ คือ พระบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณและพระกรุณาคุณ,
คำว่า คุณ มี ๒ ความหมาย คือ คุณความดี หมายถึงความดีของท่าน
กับคุณประโยชน์ หมายถึงอุปการะที่ท่านมีต่อเรา,
.
คำว่า พุทธคุณ ก็อาจหมายถึงทั้ง ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง,
.
ส่วนความดีของพระพุทธเจ้า นั้นมี ๙ ประการ เรียกว่า พระพุทธคุณ ๙ หรือนวหรคุณ คือ ๑. อรหัง เป็นผู้สิ้นกิเลส ไม่มีความคิดร้ายใดๆ ในพระทัยเลย ๒. สัมมาสัมพุทโธ เป็นผู้ตรัสรู้ธรรมอย่างถูกต้องด้วยพระองค์เอง ๓. วิชชาจรณสัมปันโน ทรงพร้อมด้วยความรู้พิเศษ ๘ ประการ
.
ทั้งมีความประพฤติดีครบ ๑๕ อย่าง ๔. สุคโต เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว คือเสด็จไปยังแห่งใดก็มีแต่ทรงทำสิริมงคลแก่มหาชนไม่เบียดเบียนใคร ๕. โลกวิทู ทรงรู้แจ้งโลก คือ
ทรงรู้จักโลกเป็นอย่างดี ๖. อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ
ทรงสามารถฝึกอบรมคนที่ควรฝึกได้ดีเยี่ยม ๗. สัตถา เทวมนุสสานัง
ทรงเป็นครูทั้งมนุษย์และเทวดา ๘. พุทโธ เป็นผู้เบิกบานแล้ว
ทรงถึงซึ่งความสุขสุดยอดแล้ว ไม่มีทุกข์ ๙. ภควา
ทรงเป็นผู้จำแนกธรรมคือทรงสามารถอย่างยอดเยี่ยมในการหยิบยื่นธรรมให้แก่บุคคลต่างเพศ ต่างวัย และต่างนิสัยใจคอ.
.
.*************************************.
.

คำนามคืออะไรและชนิดของ คำนาม?
ที่มา twinkl
.
.
คำนาม คือ คำชนิดหนึ่งในไวยากรณ์ภาษาไทย ใช้สำหรับเรียกคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ สภาวะ และลักษณะต่าง ๆ
โดยสามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภท สามานยนาม (คำนามไม่ชี้เฉพาะ) วิสามานยนาม (คำนามเฉพาะ) สมุหนาม (คำนามรวมหมู่) ลักษณนาม และอาการนาม (แสดงอาการ) เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามได้ในบทความนี้
.
สรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคำนาม

    คำนามคืออะไร? คำนาม หมายถึง คำที่ทำหน้าที่เพื่อเรียกคน สัตว์ สิ่งของ สภาพ อาการ และลักษณะต่าง ๆ
    คํานามมีกี่ชนิด? คำนามสามารถแบ่งได้เป็น 5 ชนิด ได้แก่ สามานยนาม (คำนามทั่วไป), วิสามานยนาม (คำนามเฉพาะ), สมุหนาม (บอกหมวดหมู่), ลักษณนาม (บอกลักษณะหลังจำนวน) และอาการนาม (บอกอาการ)
    การบอกว่าคำนามเป็นคำนามชนิดไหนนั้นต้องอาศัยบริบทและการดูใจความในประโยคที่กำหนดเป็นสำคัญ

.
คำนามคืออะไร
คำนาม คือ คำชนิดหนึ่งในไวยากรณ์ในภาษาไทย ที่ใช้สำหรับเรียกคน สัตว์ สิ่งของ สภาพ อาการ และลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรมหรือนามธรรม โดยสามารถแบ่งได้เป็น 5 ชนิด สามานยนาม วิสามานยนาม สมุหนาม ลักษณนาม และอาการนาม
.
ชนิดของคำนามมีอะไรบ้าง
ชนิดของคำนามอาจแบ่งได้เป็น 5 ชนิด ได้แก่

    สามานยนาม (คำนามไม่ชี้เฉพาะ)
    วิสามานยนาม (คำนามเฉพาะ)
    สมุหนาม (คำนามรวมหมู่)
    ลักษณนาม (คำนามบอกลักษณะ)
    อาการนาม (คำนามแสดงอาการ)

สามานยนาม
.
สามานยนาม คือ คำนามที่เป็นชื่อทั่วไปของคน สัตว์ และสิ่งของ หรือคำเรียกสิ่งต่าง ๆ โดยทั่วไป แบบไม่ชี้เฉพาะเจาะจง หรืออาจเรียกว่า คำนามสามัญ/คำนามทั่วไป
.
ทั้งนี้ สามานยนามบางคำมีคำย่อยเพื่อบอกชนิดย่อย ๆ เรียกว่า สามานยนามย่อย เพื่อบอกชื่อที่แคบลง เช่น คนญี่ปุ่น รถจักรยาน หนังสือเรียน
.
ตัวอย่างคำสามานยนาม เช่น ครู นักเรียน พ่อ แม่ แมว ปลา ดินสอ โรงเรียน สมุด ประเทศ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
.

    นักเรียนไปโรงเรียนทุกวัน
    พ่อและแม่ไปตลาด
    น้องซื้อดินสอและสมุดเล่มใหม่

.
วิสามานยนาม
.
วิสามานยนาม คือ คำนามที่เป็นชื่อเฉพาะ ตั้งขึ้นสำหรับเรียกคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ เพื่อให้รู้ชัดเจนว่าเป็นใครหรืออะไร หรืออาจเรียกว่า คำนามเฉพาะ เช่น ชื่อคน ชื่อสัตว์ ชื่อสถานที่ เป็นต้น
.
ตัวอย่างวิสามานยนาม เช่น กรุงเทพมหานคร อังกฤษ สุนทรภู่ วันเสาร์ กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ
.

    พ่อของเธอทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข
    แก้วจะไปเที่ยววันเสาร์นี้
    ยายแดงเกิดที่จังหวัดเชียงราย

.
สมุหนาม
.
สมุหนาม คือ คำนามรวมหมู่ ที่บอกลักษณะของคน สัตว์ และสิ่งของที่รวมกันอยู่เป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นพวก โดยจะต้องทำหน้าที่เป็นประธาน กรรม หรือส่วนขยายของประโยค ดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ในหัวข้อข้อแนะนำการระบุชนิดของคำนามด้านล่าง
.
ตัวอย่างสมุหนาม เช่น หมู่ คณะ ฝูง พวก โขลง กอง บริษัท ฯลฯ
.

    กองทหารเตรียมตัวออกรบ
    รัฐบาลไทยส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม
    ฝูงนกกำลังบินกลับรัง

.
ลักษณนาม
.
ลักษณนาม คือ คำนามที่ทำหน้าที่บอกลักษณะของคน สัตว์ และสิ่งของที่รวมกันอยู่เป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นพวกเพื่อให้แสดงลักษณะ ขนาด หรือการประมาณของนามนั้น ๆ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
.
ข้อสังเกต: คำสะกดที่ถูกต้อง คือ ลักษณนาม โดยมักมีการสะกดผิดเป็น ลักษณะนาม
.
ตัวอย่างลักษณนาม เช่น เล่ม ลำ ตัว ฝูง สาย ต้น สาย คัน ฟอง ลูก ใบ ฯลฯ
.

    ประเทศไทยมีแม่น้ำที่สำคัญหลายสาย
    แม่ซื้อไข่มา 6 ฟอง
    หน้าบ้านของเขามีต้นไม้ 2 ต้น

.
อาการนาม
.
อาการนาม คือ คำนามที่บอกกิริยาอาการหรือสภาวะต่าง ๆ ของคน สัตว์ และสิ่งของ ซึ่งมักจะมีคำ "ความ" หรือ "การ" นำหน้าคำกริยาหรือคำวิเศษณ์
.
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า คำว่า "ความ" และ "การ" ที่นำหน้าคำประเภทอื่นนอกจากคำกริยาและคำวิเศษณ์ ไม่นับว่าเป็นอาการนาม เช่น การบ้าน ความแพ่ง การไฟฟ้า เป็นต้น
.
ตัวอย่างอาการนาม เช่น การเรียน การเดิน การสอน การกิน การเล่น การนอน ความรัก ความสวย ความคิด ความรวย ความจน ฯลฯ
.

    เราควรทำความดีอย่างสม่ำเสมอ
    การเรียนเป็นพื้นฐานที่สำคัญ
    การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

.
หน้าที่ของคำนาม
.
คำนามมีหน้าที่ในประโยคได้หลากหลายดังต่อไปนี้
.

    ทำหน้าที่เป็นประธาน เช่น นักเรียนไปโรงเรียน
    ทำหน้าที่เป็นกรรม เช่น ฉันกินข้าว
    ใช้บอกรายละเอียด เช่น สถานที่ เวลา ทิศทาง หรือเพิ่มความชัดเจน เช่น นักเรียนไปโรงเรียน เราจะไปเที่ยวเชียงใหม่วันเสาร์นี้
    ทำหน้าที่ขยายนาม เพื่อทำให้คำนามที่ถูกขยายชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น แม่ของเขาเป็นข้าราชการครู
    ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มประโยค เช่น สมศรีเป็นพยาบาล
    ใช้แทนคำเรียกขาน เช่น แม่จ๋า ช่วยเปิดประตูให้หนูหน่อย

.
ข้อแนะนำการระบุชนิดของคำนาม
.
การระบุว่าคำนามเป็นคำนามชนิดไหนนั้น ต้องอาศัยบริบทและการดูใจความในประโยคที่กำหนดเป็นสำคัญ ทั้งนี้เพราะคำหนึ่ง ๆ อาจทำหน้าที่แตกต่างกันไปในประโยคต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น
.

    คุณพ่อปลูกต้นไม้ 3 ต้นที่หน้าบ้าน (ต้น ในประโยคนี้เป็นลักษณนาม)
    ต้นเพิ่งเริ่มเข้าโรงเรียน (ต้น ในประโยคนี้เป็นวิสามานยนาม)
    ฝูงปลากำลังแหวกว่ายในแม่น้ำ (ฝูง ในประโยคนี้เป็นสมุหนาม)
    นกหลายฝูงกำลังย้ายถิ่นไปยังประเทศเขตร้อน (ฝูง ในประโยคนี้เป็นลักษณนาม)
    โขลงช้างเดินอยู่ในป่าใหญ่ (โขลง ในประโยคนี้เป็นสมุหนาม)
    ช้างโขลงหนึ่งเดินอยู่ในป่าใหญ่ (โขลง ในประโยคนี้เป็นลักษณนาม)
    สมชายเป็นครูสอนที่โรงเรียน (โรงเรียน ในประโยคนี้เป็นสามานยนาม)
    โรงเรียนออกใบรับรองให้นักเรียนที่จบการศึกษา (โรงเรียน ในประโยคนี้เป็นสมุหนาม)

.
.
.
.
.
.
#หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
.
#หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
.
#หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
.
#หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
.
#หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
.
#หลวงปู่เทพโลกอุดร
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
#คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
.
#สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
.
#หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
.
#อาจารย์ประถมอาจสาคร
#ประถมอาจสาคร
#ปู่เล่าให้ฟัง
#หนังสือปู่เล่าให้ฟัง
.
#ชมรมพระวังหน้า
.
#พระวังหน้า
.
.
.
รูปและบทความเรื่องของคุณ สงวนลิขสิทธิ์
.
.
.






.
#หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
.
#หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
.
#หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
.
#หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
.
#หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
.
#หลวงปู่เทพโลกอุดร
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
#คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
.
#สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
.
#หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
.
#อาจารย์ประถมอาจสาคร
#ประถมอาจสาคร
#ปู่เล่าให้ฟัง
#หนังสือปู่เล่าให้ฟัง
.
#ชมรมพระวังหน้า
.
#พระวังหน้า
.
รูปและบทความเรื่องของคุณ สงวนลิขสิทธิ์
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน  เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ  เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง
.
.
ศรีปราชญ์
ยอดกวีแห่งกรุงศรีอยุธยา
ที่มา เว็บไซด์ identity.bsru
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
.
จากคำนำ ที่ท่านผู้เขียนได้ปรารภไว้ว่า
.
“ประวัติของศรีปราชญ์ฉบับนี้  เขียนขึ้นจากความทรงจำที่ได้เล่าเรียนมา เมื่อข้าพเจ้าได้เล่าประวัติของศรีปราชญ์ให้สมาชกที่ร่วมเดินทางไปทัศนศึกษาด้วยกันฟัง  หลายท่านอยากได้ประวิติของศรีปราชญ์ และขอร้องให้เขียนไว้ให้ด้วย พบกันครั้งไร ก็ทวงถามอยู่เสมอ ผู้เขียนไม่มีตำหรับตำรับตำราจะค้นคว้า เพราะได้บริจาคหนังสือทั้งหมดให้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และห้องสมุดของวัดในต่างจังหวัดไปแล้ว ประวัติของศรีปราชญ์ฉบับนี้คงไม่สมบูรณ์แน่นอน หากท่านได้รับความพอใจ ความเพลิดเพลิน ขออานิสงส์นี้จงนำสู่เพื่อนสมาชิที่เคยร่วมทัศนศึกษาด้วยกันมาเป็นเวลายาวนาน  ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และล่วงลับไปแล้วด้วยเทอญ
.
รักจากใจ
ไกรนุช  ศิริพูล
๑๖ มกราคม ๒๕๕๓
.
.
ศรีปราชญ์เป็นปฏิภาณกวีแห่งกรุงศรีอยุธยา  สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. ๒๑๙๙ – ๒๒๓๑ ทรงพระนามว่า พระรามธิบดีที่ ๓
.
          สมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นยุคทองของวรรณคดีไทย ซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งกวีในสมัยนั้น จึงอุดมไปด้วยกวีที่สำคัญๆ หลายท่าน อาทิ
.
 พระมหาราชครู แต่ง
.
๑. สมุทโฆษคำฉันท์ ยังไม่จบ ถึงแก่อนิจกรรมเสียก่อน สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงพระราชนิพนธ์ต่อ ยังไม่ทันจบ  ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมนุชิโนรสแห้งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงนิพนธ์ต่อจนจบ
.
๒. เสือโคคำฉันท์
.
๓. จินดามณี เป็นตำราเรียนเล่มแรกของไทย
.
พระศรีมโหสถ  แต่ง
.
๑. กาพย์ห่อโคลง เล่าถึงความสนุกสนานของประชาชนในแผ่ดินสมเด็จพระนารยาณ์มหาราช
.
๒. โคลงเฉลิมพระเกียรติ์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
.
ขุนเทพกวี พราหมณ์ชาวเมืองสุโขทัย แต่ง คำฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง
.
พระเยาวราช จากเมืองเชียงใหม่  แต่ง ทวาทศมาส โดยมีขุนพรพมมนตรี ขุนศรีกวีราช ขุนสารประเสริฐ ช่วยแต่งเกลาแก้สำนวนกลอน
.
.
ศรีปราชญ์       บุตรพระมหาราชครู บาตำราว่าเป็นบุครพระโหราธิบดี สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นคนคนเดียวกัน คือพระโหราธิบคีรับราชการในตำแหน่งมายาวนาน และเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแก้สมเด็จพระนารายณ์ด้วย จึงได้ชื่อว่าพระมหาราชครูอีกชื่อหนึ่ง
.
ศรีปราชญ์คงได้รับการอบรม หล่อหลอมความรู้ต่างๆ ด้านวรรณคดีไทยอย่างดีจากบิดา สำนวนภาษา โค กลอน ฉันท์ต่างๆ ของศรีปราชญ์ยังทันสมัย เป็นอมตะมาจนทุกวันนี้
.
          สันนิษฐานกันว่า ศรีปราชญ์ เดิมชื่อ ศรี มีความสามรถแต่งโคลง ฉันท์ กาพย์  กลอนได้ ตั้งแด่ยังเยาว์วัย
.
          มีเรื่องเล่าว่า  เมื่อเด็กอายุประมาณ ๙ ขวบหรือ ๑๐ ขวบ บังอาจแต่งต่อโคลงพระราชนิพนธ์ของสมด็จพระนารายณ์ฯ ที่ทรงค้างไว้สองบาท โดยโคลงพระราชนิพนธ์นี้ สมเด็จพระนารายร์ฯ ทรงพระกรุณาพราชทานให้พระมหาราชครูเอามาแต่งให้จบทั้งบท คือ
.
อันใดย้ำแก้มแม่                หมองหมาย
ยุงเหลือบฤๅริ้นพราย            ลอบกล้ำ
.
          พระมหาราชครูผู้เฒ่า รับเอามาแล้วยังมิทันได้แต่ต่อก็เก็บไว้  รุ่งเช้านึกขึ้นได้จึงไปหยิบดูก็พบว่ามีผู้แต่งเสร็จแล้วอีก ๒ บาท คือ
.
ผิวชนแต่จักกราย                ยังยาก
ใครจะอาจให้ช้ำ                  ชอกเนื้อเรียมสงวน
.
จนครบสี่บาทของโคลงสี่สุภาพ
.
โดยที่เป็นเวลากะทันหัน แบทโคลงนั้นก็ดีแล้วคือ
.
อันใดย้ำแก้มแม่                 หมองหมาย
ยุงเหลือบฤๅริ้นพราย                      ลอบกล้ำ
ผิวชนแต่จักกราย                          ยังยาก
ใครจะอาจให้ช้ำ                            ชอกเนื้อเรียมสงวน
.
          สมเด็จพระนารายณ์ฯ รงคุ้นเคยกับพระมหาราชครูดีและชราแล้ว คงจะไม่แต่งข้อความพาดพิงเข้าถึงเรื่องของพระองค์อย่างแหลมคมดังเช่นข้อความในบาทที่สี่นั้นเป็นแน่  จึงมีพระราชดำรัสถาม ก็ทรงทราบว่าผู้แต่งเป๊นบุตรพระมหาราชครู อายะพียงสิบขวบก็ทรงพอพระทัยนัก  ถึงกับทรงขอชมตัว และเมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นหน่วยก้านชั้นเชิงหนูน้อยนักเลงกลอน  ก็ทรงพระกรุณาขอไว้เป็นมหาดเล็ก   พระมหาราชครู หรือพระโหราธิบดีคงจะรู้ด้วยวิชาโหร ว่า “ศรี”ลูกของตนจะอายุสั้นด้วยอาญาแผ่นดิน จึงกราบทูลว่า บุตรของตนยังเป็นเด็ก จะทำผิดด้วยไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ จึงขอพระกรุณาพระราชทานอภัยโทษ แม้วาจะมีผิดถึงตาย ก็ขอให้ยกโทษประหารเป็นเนรเทศแทน ก็ทรงพระกรูราพรราชทานโทษประหารแก่พระมหาราชครู ศรีปราชญ์จึงได้เป็นมหาดเล็กในพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์ฯ แต่นั้นมา
.
          ในการทรงพระอักษร หรือในโอกาสโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารแต่งบทประพันธ์ถวาย ก็มีพระราชดำรัสให้ศรีปราชญ์อยู่ด้วยทุกครั้ง ทำให้ชื่อเสียงของศรีปราชญ์แพร่ออกไปโดยเร็ว
.
          ความหนุ่มแก่วัยและความจัดจ้านในคารมของศรีปราชญ์ คงจะได้เป็นที่รู้จักในหมู่ประชาชนทั้งในวัง และนอกวัง
.
          ในครั้งหนึ่งในราชสำนัก มีกวีสำคัญคือ  “เจ้าเชียงใหม่”  สันนิษฐานว่าอยู่ในฐานะตัวจำนำ  ศรีปราชญ์ได้โต้ฝีปากกับกวีผู้นี้อยู่เสมอ การโต้ตอบหรือประกวดกัน ศรีปราชญ์มักจะเป็นฝ่ายชนะอยู่เสมอ
.
          มีอยู่ครั้งหนึ่ง  เกิดมีเสียงอึกทึกครึกโครม        สมเด็จพระนารายณ์ ทรงตรัสถามถึงต้นเหตุของเสียงว่าเป็นด้วยเหตุประการใด ด้วยความเป็นปฏิภาณกวีของศรีปราชญ์ จึงกราบทูลเป็นโคงว่า
.
ครื้นครื้นสนั่นพื้น                       ปฐพี
เสียงตะขาบขับตี                              เร่งร้น
ภูธรภูเรศตี                                        สุรสั่ง     เองแฮ
ร้องสำทับช้างต้น                             เทิดแก้วมาเมือง
.
          ครั้งสมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังลพบุรี ในฤดูร้อน เสด็จประพาส “ป่าแก้ว” โปรดให้ข้าราชบริพารแต่งโคลงที่มีความหมายแสดงถึงความรักประกวดกัน
.
  คู่แข่งคนสำคัญของศรีปราชญ์คือพระเยาวราชแห่งเชียงใหม่ โดยพระเยาวราชขึ้นบทก่อนว่า
.
ครืนครืนใช่ฟ้ร้อง                     เรียมครวญ
หึ่งหึ่งใช่ลมหวน                               พีไหม้
ฝนตกใช่ฝนนวล                              พี่ทอด     ใจนา
ร้อนใช่ร้อนไฟไหม้                          พีร้อนรนกาม
.
เป็นการแสดงความคิดแบบกวี  ศรีปราชญ ก็โต้กลับโดยทวนคำคร่ำครวญว่า
.
เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม                ถึงพรหม
พาหมู่สัตว์ตกจม                             จ่อมม้วย
พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม                    ทบท่าว    ลงแฮ
.
                   สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงขัดขึ้นว่า  ศรีปราชญืร้องไห้มากมาย จนน้ำท่วมถึงพรหมโลก ชั้น ๑๕ เขาพระสุมรุซึ่งเป็นหลักของโลกพังทลายหมดแล้ว     จะอยู๋อย่างไร
.
ศรีปราชญ์ก็แก้ด้วยปฏิภาณ และความรู้ด้านวรรณคดีว่า
.
หากอักนิฐพรหมฉ้วย                       พี่ไว้จึ่งคง
.
สมเด็จพระนารายณ์ฯ โปรดมาก  จึงตรัสว่า
.
“ศรีเอ๋ยเจ้าจงเป็นศรีปราชญ์เถิด”  พรอมกับพระราชทานพระธำรงให้ ๑ วง
.
          ข่าวที่ได้รับแต่งตั้งเป็น “ศรีปราชญ์” และได้รับพระราชทานแหวน คงเป็นที่เลื่องลือทั้งในวัง นอกวัง    โดยเฉพาะพระเจ้าเชียงใหม่ เห็นว่าชื่อไม่เหมาะสมกับรูป กล่าวตอบโต้เป็นโคลงกันว่า
.
พระเจ้าเชียงใหม่    :  ศรีเอยพระเจ้าฮื่อ   ปางใด
ศรีปราชญ์          :  ฮื่อเมื่อเสด็จไป      ป่าแก้ว
พระเจ้าเชียงใหม่    :  รัวลีบ่สดใส          สักหยาด
ศรีปราชญ์           :   ดำแต่นอกในแผ้ว     ผ่องเนื้อนพคุณ
.
          นับเป็นการแก้ได้อย่างงดงาม ทำนองยกย่องตนเองว่า ถึงจะรูปชั่วตัวดำ แต่จิตใจประดุจทองเนื้อเก้า  สำนวนนี้ยังทันสมัยใช้กันมาจนทุกวันนี้        แม้เวลาจะผ่านมากว่า  ๓๐๐  ปี
.
          ชื่อเสียงของศรีปราชญ์คงโด่งดังไปทั่ว แม้กระทั่งนายประตูก็ทักศรีปราชญ์ว่า
.
นายประตู            :  แหวนนี้ท่านได้แต่    ใดมา
ศรีปราชญ์           :  เจ้าพิภพโลกา         ท่านให้
นายประตู            :  ทำชอบสิ่งใดนา      วานบอก
ศรีปราชญ์           :  เราแต่กลอนถวายไท้   ท่านให้รางวัล
.
          ความหนุ่มคะนอง ความจัดจ้านทางคารม ความทนงตนว่าเป็นเลิศทาการประพันธ์  ปฏภาณดี  ความรู้ดี  แต่ขาดสติ ทำให้ศรีปราชญ์ ต้องรับชะตากรรมอันหลกเลี่ยงมิได้
.   
คืนวันลอยกระทง ศรีปราชญ์กล่าวชมกระทงของท้าวศรีจุฬาลักษณ์ว่า
.
มลักเห็นใบจากเจ้า                  นิรมิต
เป็นสำเภาไพจิตร                             แปดโล้
จักลงระวางวิด                               จวนแก่    อกเอย
แม้หนุ่มวันนั้นโอ้                              พี่เลี้ยงโดยสาร
.
          “ท้าวศรีจุฬาลักษณ์” ตำแหน่งสนมเอกของสมเด็จพระนารายณ์ฯ เป็นธิดาเจ้าแม่วัดดุสิต หรือ กรมพระเทพามาตร พระนมของสมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงสมรสกับหม่อมเจ้าเจิดอำไพ มีบุตร ๓ คน  คือ
.
๑. เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) แม่ทัพใหญ่สมัยพระนารายณ์ฯ
.
๒. เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตในสมัยพระนารายณ์ฯ
.
๓. ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสมนเอกของพระนารายณ์ฯ
.
ตระกูลนี้สืบทอดมาจากพระยารามขุนนางมอญที่อพยพมาไทยในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ มีบุตรหลานรับราชการสืบทอดกันมาจน ถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ ซึ่งตระกูลดังกล่าวเป็นต้นตระกูลของ “ราชวงศ์จักรี”(สายเจ้าพระยาโกษาธิบดี – ปาน)
.
          “ท้าวศรีจุฬาลักษณ์”พระสนมเอก นัยว่าอายุแก่กว่าสมเด็จพระนารายณ์ฯ เมื่อศรีปราชญ์ไปจี้จุดอ่อนเข้า จึงกล่าวโต้ตอบเชิงดูถูกศรีปราชญ์ว่า
.
หะหายกระต่ายเต้น                 ชมจันทร์
มันบ่เจียมตัวมัน                              ต่ำต้อย
นกยูงหากกระสัน                            ถึงเมฆ
มันบ่เจียมตัวน้อย                            ต่ำต้อยเดรัจฉาน
.
          ด้วยนิสัยของศรีปราชญ์ไม่ยอมแพ้ใครอยู่แล้ว มิได้คิดว่าอะไรควรมิควร จึงกล่าวโต้ตอบกลับไปทำนองว่า
.
หะหายกระต่ายเต้น                 ขมแข
สูงส่งสุดตาแล                                 สู่ฟ้า
ฤดูฤดีแด                                         สัตว์สู่    กันนา
อย่าว่าเราเจ้าข้า                              อยู่พื้นเดียวกัน
.
          พระสนมโกรธนำความไปกราบทูลสมเด็จพระนารายณ์ฯ ที่ศรีปราชญ์บังอาจกล่าวเกี้ยวประมาทพระสนม ทรงพิจารณาว่า
.
แม้จะไม่เกี่ยวข้องต้องโทษในส่วนพระองค์ ก็ต้องลงโทษตามกฎมณเฑียรบาล  จึงโปรดให้ศรีปราชญ์ไปทำงานหนัก ขนเลนในพระราชวังถ่ายโทษ  ขณะขนเลนอยู่ บังเอิญพระสนมเดินผ่านไป หรือเจตนาจะไปเยาะเย้ยก็ได้ เรื่องจึงเกิดขึ้นอีกตามเคย  จนต้องโทษหนักเป็นครั้งที่สอง และกระทำผิดในพระราชวัง มีโทษถึงประหารชีวิต แต่โทษประหารได้ยกให้ ตามที่พระมหาราชครูผู้เป็นบิดาได้ขอไว้  จึงให้เนรเทศไปฝากไว้กับพระยานครศรีธรรมราชเป็นการชั่วคราว
.
          ศรีปราชญ์ขณะนั้นเป็นหนุ่มเต็มตัว ประกอบกับพระยานครฯ กำลังฟื้นฟูด้านกวีอยู่ทางปักษ์ใต้  ศรีปราชญ์จึงได้ใกล้ชิดกับพระยานครฯ  ในฐานะกวีเอกจากกรุงศรีอยุธยา  ในประวัติกล่าวว่าศรีปราชญ์ได้ไปติดต่อเชิงชู้สาวกับนางในของพระยานครฯ  พระยานครฯ จึงพาลหาเหตุจับศรีปราชญ์ประหารชีวิตเสีย  ก่อนประหาร ศรีปราชญ์ได้แต่โคลงไว้บทหนึ่งว่า
.
ธรณีนี่นี้                    เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์                 หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร                 เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมล้าง                  ดาบนี้คืนสนอง
.
ตำราหลายฉบับเขียนว่า ศรีปราชญ์ใช้เท้าเขียนไว้บนพื้นทราย ก่อนทีเพชฌฆาตจะลงดาบ เป็นการแช่งพระยานครฯ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้    เพราะนักโทษประหารจะต้องถูกพันธนาการอย่างหนาแน่น จะเอาเท้อเขียนได้อย่างไร
.
          เมื่อขาดศรีปราชญ์ การกวีในราชสำนักคงเงียบเหงาไป จึงสมเด็จพระนารายณ์ฯ จึงโปรดให้เรียกตัวกลับ ครั้นทรงทราบว่าพระนครฯ ได้ประหารศรีปราชญ์เสียแล้ว ก็ทรงพระพิโรธ จึงให้ประหารชีวิตพระยานครฯ ในที่สุด
.
          บทนิพนธ์ของศรีปราชญ์
.
๑. อนิรุทธคำฉันท์  สร้างขึ้นเพราะบิดาประมาทว่า แต่ดีแต่โคลง ศรีปราชญ์จึงมุมานะจนสำเร็จ
.
๒. กำศรวลศรีปราชญ์ แต่งขณะที่เดินทางไปนครศรีธรรมราช ตามพระราชอาญา
.
๓. โคลงบทอื่นๆ เช่น
.
เจ้าอย่าย้ายคิ้วให้                   เรียมเหงา
ดูดุจนายพรานเขา                         ล่อเนื้อ
จะยิงก็ยิงเอา                                  อกพี่   ราแม่
เจ็บไป่ปานเจ้าเงื้อ                          เงือดแล้วราถอย
.
โคลงกระทู้ที่ไม่มีความหมาย เช่น
.
โก    มลเดียรดาษพื้น              สินธู
วา     ลุกาประดับดู                          ดั่งแก้ว
ปา    รังระบัดปู                                ปุยนุ่น    เปรียบฤๅ
เปิด    จอกกระจับแผ้ว                    ผ่องน้ำเห็นปลา
.
.
ทะ  เลแม่ว่าห้วย                       เรียมฟัง
ลุ่ม   ว่าดอนเรียมหวัง                     ว่าด้วย
ปุ่ม   เปลือกว่าปะการัง                    เรียมร่วม   คำแม่
ปู     ว่าหอยแม้กล้วย                       ว่ากล้ายเรียมตาม
.
รองศาสตราจารย์ ไกนุช  ศิริพูน  คำขอบคุณทุกท่านที่อ่านและนำออกเผยแพร่  ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
.
*    อ่านเถิดอ่านนะแหม้             อย่าแคลน
อ่านเพิ่มอ่านพูนแสน               สิริล้ำ
อ่านนิดอ่านหน่อยแค่น             อ่านก็    ดีเฮย
อ่านอ่านยิ่งอ่านซ้ำ                  ซาบซึ้งทรวงเกษม*
.
*ชวลิต  ผู้ภักดี ประพันธ์
.
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
.
.
ไม่ได้ชื่อ "ครูกายแก้ว" อาจารย์พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งเขมรโบราณไม่มีชื่อนี้
.
.
ที่มา เว็บไซด์ thebetter
Aug, 13 2023
.
.
ตามหลักฐานประวัติศาสตร์ไม่มีบุคคลที่ชื่อ "กายแก้ว" แต่มีคนอื่นที่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขมรโบราณถือเป็นครูบาอาจารย์ .
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม การจราจรบน ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า กลายเป็นอัมพาต เพราะมีการเคลื่อนย้ายรูปปั้นของบุคคลที่ถูกเรียกว่า "ครูกายแก้ว" เป็นบุคคลที่มีร่างกายเป็นมนุษย์สีดำทั้งร่าง มีปีกที่ด้านหลัง มีเขี้ยวงอกจากปาก มีดวงตาและเล็บสีแดง รูปั้นนี้ถูกนำไปติดตั้งที่เทวาลัยพระพิฆเนศห้วยขวาง แต่ระหว่างทางรูปปั้นขนาดใหญ่ดันไปติดกับท้องสะพานลอยจนขยับไม่ได้ ทำให้รถติดเป็นทิวแถว

หลังจากที่เป็นข่าวฮือฮา ทำให้มีกรเผยแพร่ประวัติของ "ครูกายแก้ว" ตามสื่อต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่รายงานราวกับลอกข่าวกันมาโดยไม่การตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะข้อมูลที่ระบุว่าครูกายแก้วเป็นผู้วิเศษที่ "เป็นอาจารย์พระเจ้าชัยวรมันที่ 7" และ "ถือเป็นครูของศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา" สื่อเกือบทุกแห่งรายงานตรงกันหมดในลักษณะนี้ มิหนำซ้ำยังมีสื่อบางรายเพิ่มเติมสรรพคุณเขาไปอีกว่า ที่เหตุที่รูปปั้นไปติดสะพานลอยจนรถติด เพราะเป็นการ "ป่าวประกาศมากรุง"
 
หลังจากมีการประโคมว่าครูกายแก้วเป็นอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมัที่ 7 ทำให้ผู้สนใจประวัติศาสตร์ออกมาโต้อย่างต่อเนื่อง โดยชี้ว่า จากหลักฐานศิลาจารึก ซึ่งเป็นหลักฐานที่มีตัวตนอ้างอิงได้ และใช้เป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ระบุว่า ครูของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีแค่บุคคลที่ชื่อ "ศรี ชัยมังคลารถะเทวะ" และ "ศรี ชัยกีรติเทวะ" เท่านั้น โดยมีชื่อในจารึกปราสาทตาพรหม ในเมืองพระนครธม ไม่เคยมีบุคคลที่ "กายแก้ว" เลย 

นอกจากนี้ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ยังทรงศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างมาก ทรงสร้างพระพุทธรูปประดิษฐานตามห้วเมืองจักรวรรดิเขมรโบราณต่างๆ ในจารึกยังระบุถึงการประดิษฐานพระพุทธรูปในเมืองที่ปัจจุบันเป็นจังหวัดของไทย เช่น วัชรปุระ (เพชรบุรี) ชัยราชปุระ (ราชบุรี) สุวรรณปุระ (สุพรรณบุรี) เป็นต้น ไม่มีหลักฐานระบุว่าทรงมีความเชื่อในไสยศาสตร์ที่มีครูเป็นบุคคลรูปร่างเป็นอมนุษย์อย่างครูกายแก้ว

ในจารึกโบราณ เช่น จารึกพระขรรค์ได้เล่าว่าพระองค์ทรงสร้างพระพุทธรูปและวิหาร ในเมืองทั่วอาณาจักร รวมถึงเมืองเพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ละโวทัยปุระ (ละโว้หรือลพบุรี) ศรีชยสิงหปุระ (เมืองสิงห์ ในจังหวัดกาญจนบุรี) เพื่อประดิษฐาน "พระชยพุทธมหานาถ" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปในพุทธศาสนา ที่พระนามมีความหมายว่า "พระพุทธเจ้าที่เป็นที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่" พร้อมกับระบุว่า "พระราชาทรงสร้างพระชยพุทธมหานาถที่ทำให้เกิดมีความสุขขึ้น"

นั่นหมายความว่า ทรงศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างมาก จนส่งเสริมให้ประชาชนในดินแดนหัวเมืองกราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้า และให้พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งให้เกิดความสำเร็จจหรือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ หลักฐานเหล่านี้บางชี้ว่า พระองค์มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ (ที่พึ่ง) ไม่ได้มีครูไสยศาสตร์เป็นที่พึ่งเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าครูไสยศาสตร์ผู้นั้นมีรูปกายที่กึ่งคนกึ่งสัตว์

การสร้างเรื่องเล่าที่ไม่มีหลักฐานรองรับเกี่ยวกับ "ครูกายแก้ว" ยังไปไกลถึงขนาดอ้างภาพแกะสลักที่ปราสาทนครวัด ซึ่งเป็นภาพบุคคลที่นั่งชันเข่าถือวัตถุบางอย่างในมือ ซึ่งย้อยลงไปที่ด้านข้างไหล่ทำให้ดูเหมือนเป็นปีก ผู้ที่มีเจตนาโฆษณาเรื่องครูกายแก้วจึงอ้างว่านี่คือรูปครูกายแก้วที่มีปีก แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่เห็นไม่ใช่ปีก เพราะมีด้ามจับในมือ ที่สำคัญภาพนี้แกะสลักหลังยุคพระเจ้าชัยวรมันนานเกือบ 300 ปี

ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มักเกี่ยวกับการทำบุญทำทาน สร้างวัดและพุทธสถาน สร้างสถานรักษาพยาบาลให้ประชาชนโดยอาศัยยารักษาโรคและพลังจากพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะการประดิษฐานพระไภษัชยคุรุ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าที่มีพลังในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บตามคำสอนของพุทธศาสนามหายาน เพราะพระองค์ตั้งปณิธานที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ด้วยวิธีนี้ ทำให้การบูชาพระไภษัชยคุรุแพร่หลาย และนิยมเรียกกันว่า "พระหมอ"

"พระกริ่ง" ที่นิยมบูชาในไทยก็เป็นพระพุทธรูปแทนองค์พระไภษัชยคุรุนั่นเอง จึงเรียกว่า "พระหมอยา" และพระกริ่งรุ่นแรกที่เข้ามาไทยคือ "พระกริ่งปทุมสุริยวงศ์" ซึ่งนำมาจากกัมพูชา ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาเป็นประเทศราชของไทย

รายงานโดย ทีมข่าว The Better
.
.
Photo -  Jean-Pierre Dalbéra, CC BY 2.0)
.
.
TAGS: #ครูกายแก้ว #ชัยวรมัน #กัมพูชา #มู
.
.
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)