ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
เตือนใจ ให้ระมัดระวังและเป็นอุทาหรณ์ เพื่อป้องกันตนเองสำหรับผู้หญิง
sithiphong:
แจ้งจับพ่อเลี้ยงขืนใจลูกเลี้ยงวัย 7 ขวบ ในที่พักกลางสวนยางเมืองตรัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2557 18:50 น.
-http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000077637-
ตรัง - พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศลูกเลี้ยงวัย 7 ขวบคาที่พักในสวนยาง ก่อนที่เหยื่อจะบอกครูที่โรงเรียนให้รับรู้ แล้วประสานผู้เป็นแม่เข้าแจ้งความ ขณะที่ผู้ต้องหาปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้ลงมือกระทำ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (9 ก.ค.) พ.ต.ต.สมยศ สมบัติมาก หัวหน้า สภ.บ้านหนองตรุด อ.เมืองตรัง พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กลอนสม พนักงานสอบสวน สภ.บ้านหนองตรุด ได้นำกำลังเข้าควบคุมตัว นายประสิน หรือสิน นุ่นแก้ว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ที่ 1 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.แพ็ค อายุ 7 ปี มาทำการสอบสวน หลังจากได้ถูก น.ส.เจริญ จันดำ อายุ 40 ปี ผู้เป็นภรรยาแจ้งความร้องทุกข์ว่า สามีได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.แพ็ค ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง เหตุเกิดภายในกงสีที่พักในสวนยางพารา หมู่ที่ 6 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากในวันเวลาดังกล่าว นายประสิน หรือสิน ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ได้บังคับให้ ด.ญ.แพ็ค ดูดหัวนม และอวัยวะเพศของตัวเอง ก่อนที่ต่อมาจะนำอวัยวะเพศของตนเองสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของ ด.ญ.แพ็ค จนสำเร็จความใคร่ จำนวน 1 ครั้ง กระทั่งต่อมาหนูน้อยได้นำเรื่องดังกล่าวไปบอกให้ครูที่โรงเรียนรับทราบ แล้วประสานแม่ของ ด.ญ.แพ็ค เพื่อนำตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในชั้นสอบสวน นายประสิน หรือสิน ยังคงให้การปฏิเสธ ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหนองตรุด ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นไม่ยินยอม แล้วควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
sithiphong:
นักโทษข่มขืน เลือกเหยื่ออย่างไร พร้อมวิธีเอาตัวรอด
-http://hilight.kapook.com/view/104859-
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก iurban
นักโทษข่มขืน 100 คน เลือกเหยื่ออย่างไร ? ชี้ส่วนมากเลือกผู้หญิงผมยาว เดินทางคนเดียว ถอดเสื้อผ้าง่าย และเดินคุยโทรศัพท์ พร้อมวิธีเอาตัวรอดในเวลาคับขัน
เป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ทราบ สำหรับ “เหตุการณ์ข่มขืน” ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งปัจจัยของเหตุร้ายดังกล่าวมีอยู่มากมาย บ้างก็เพราะคนร้ายดื่มสุราของมึนเมา บ้างก็เพราะเสพยาเสพติด แต่เคยสงสัยกันไหมว่า คนร้ายเลือกลักษณะเหยื่อที่จะลงมือข่มขืนอย่างไร.. แล้วสถานการณ์ไหน สถานที่ใด ที่เป็นใจให้ก่อเหตุร้ายดังกล่าว วันนี้ (9 กรกฎาคม 2557) เราขอนำบทความของ คุณ Jiraz Pipatwasin ที่ได้รวบรวมไอเดียในการเอาตัวรอดสำหรับผู้หญิง และข้อมูลจากผลวิจัยที่ถามนักโทษข่มขืน 100 คนว่า พวกเขาเลือกเหยื่ออย่างไรมาฝากกัน ถึงแม้สมัยนี้สังคมอาจจะโหดร้าย มีอันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่หากเราดูแลตัวเองในเบื้องต้น ก็น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว
“นักโทษข่มขืน 100 คนเลือกเหยื่อยังไง จากภาควิชาอาชญวิทยา (และไอเดียเอาตัวรอด)
ในสังคมที่เราไม่สามารถควบคุมให้สื่อลดความรุนแรงทางการยั่วยุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ หลายสื่อเองก็เห็นแก่เรตติ้งมากกว่าสังคมจนกลายเป็นเรื่องปกติ อาจไม่มีประโยชน์เมื่อเรามาเรียกร้องความยุติธรรมภายหลังเกิดเหตุ ผู้หญิงจึงควรจะเรียนรู้และรู้จักดูแลตัวเอง ไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในภาวะความเสี่ยง ผมลองรวบรวมบทความที่เห็นว่ามีประโยชน์กับผู้หญิงทุกคน อย่างน้อยจะได้เป็นไอเดียในการเอาตัวรอด เมื่อจำเป็น
จาก นางสาวอลิสา แสงขำ นักศึกษาปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ ภาควิชาอาชญวิทยา เก็บข้อมูลจากนักโทษข้อหาข่มขืนจากคุกบางขวางและลาดยาว จำนวน 100 คน พบว่าการเลือกเหยื่อของนักโทษได้ผลดังนี้
84% เลือกผู้หญิงที่เดินไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย
มือถือสามารถนำไปขายต่อได้ หรืออ่านการ์ตูน หรือหนังสืออื่นขณะเดินเพราะไม่ได้ระวังตัว
87% เลือกผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าถอดง่าย
แต่หากพบผู้หญิงถูกใจแต่สวมเสื้อผ้าที่ต้องใช้เวลา ถอดนาน เขาจะกลับมาดักรอเป็นครั้งที่สองพร้อมกรรไกรหรือคัตเตอร์
90% เลือกผู้หญิงผมยาว
คือหางเปีย หางม้าปล่อยตามธรรมชาติ เพราะกระชากจากข้างหลังได้ง่าย
96% เลือกผู้หญิงที่เดินทางไปไหนมาไหนเวลากลางคืน
เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ มีประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกตอนกลางคืนโดยไม่คำนึงว่าต้อง เป็นผู้หญิงสวยหรือหุ่นดี ขอให้มี..เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอ มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าหากเวลานั้นเป็นเวลา ที่เขาต้องการปลดปล่อยแล้ว เขาไม่เลือกว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย วัว ควาย
99% เลือกผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว
มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งทำทีเป็นวินมอเตอร์ไซค์รับผู้หญิงคนที่ถูกใจจากกลุ่ม เพื่อนของเธอที่เดินด้วยกันไปข่มขืน
80% สามารถข่มขืนได้ในการกระทำครั้งแรกโดยใช้อุปกรณ์ของผู้หญิงนั่นเอง
เป็นอุปกรณ์ช่วยประกอบการกระทำผิด เช่น เข็มขัด ลูกกุญแจ กระจกส่องหน้า (ต้องทุบให้แตกเป็นแหลมคมก่อน)
70% เลิกล้มความตั้งใจ
หากผู้หญิงคนนั้นจ้องหน้าเขาแล้วเริ่มต้นสนทนาสั้น ๆ กับเขาก่อน ขณะที่เขาเข้าประชิดตัว เช่น โทษค่ะ กี่โมงแล้ว
วิธีป้องกันตัวหากโดนหื่นลากลงข้างทาง
1. ร้อยละ 90 ผู้หญิงหมดสิทธิ์ใช้ศิลปะป้องกันตัว เพราะคนร้ายจะซุ่มรอทีเผลอ ที่โดนบ่อย ๆ คือล็อกแขนไขว้หลัง มืออุดปากแล้วกระชากหรือลากเข้าข้างทาง ถ้าคนร้ายเตรียมตัวมาดี ก็จะมีอาวุธจี้ไม่ให้เหยื่อขัดขืน แน่นอนว่าน้อยคนที่เห็นมีด ปืนแล้วจะกล้าใช้วิชาที่เรียนมา
2. เมื่อโดนลากเข้าข้างทาง คุณก็จะโดนต่อยท้องเพื่อให้จุกจนไม่มีแรงดิ้นและตบปากหรือต่อยหน้าเพื่อให้กลัว, เจ็บหรือกึ่ง ๆ หมดสติ จากนั้นถ้าคนร้ายหื่นแบบชาญฉลาดก็จะหาของมาอุดปากคุณไว้ ถ้าคุณนุ่งกระโปรงมา มันอาจถอด ก.ก.น. มาอุดปาก…ซวยแท้ ๆ
3. เมื่อคนร้ายเห็นคุณไม่มีแรงดิ้น ก็จะทำการถลกส่วนล่างคุณออกโดยท่าที่นิยมคือนั่งคร่อมเอว เอาเข่ากดแขนส่วนบนคุณไว้ ทำให้ไม่มีแรงมากพอจะผลักแถมยังจุกอยู่อีกต่างหาก
4. จากนั้นเมื่อฐานยิงโล่งโจ้ง คนร้ายก็จะงัดจรวดออกมาเตรียมปฏิบัติการ จังหวะนี้ถ้าคุณโชคดียังมีสติอยู่ให้พยายามเซฟแรงไว้รอข้อต่อไป
5. เมื่อคนร้ายพยายามสอดใส่ ให้คุณรวบรวมพลังที่มี “ขมิบ” ไว้ครับ ตะบองแข็งหรือจะสู้แรงโล่เนื้อ คนร้ายก็จะเริ่มเสียสมาธิเพราะจ้องจะลงรู อย่างเดียว ให้คุณอาศัยจังหวะนี้ซึ่งคนร้ายมักจะเผลอลืม กดแขนให้คว้าลูกป๋องแป๋งเลยคับ โดนลูกเดียวไม่เป็นไร อย่าตกใจปล่อยมือเพื่อกำใหม่ ให้ได้ 2 ลูก จากนั้นบีบให้เต็มที่เลยคับ เอาเล็บจิกด้วยยิ่งดี ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครคิด จะฆ่าคุณในตอนนี้หรอก รับรองร้องเสียงหลง ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
6. หลังจากนั้น อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งคิดหนี พิจารณาดูคนร้ายให้ดีก่อน ประเมินสถานการณ์ว่าที่เราทำไปหยุดมันได้ หรือยัง ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ตายตอนโดนข่มขืนแต่จะมาตายตอนนี้ล่ะ เพราะจะหนีอย่างเดียว ตัวเองก็วิ่งไม่ไหว คนร้ายก็ยังลุกขึ้นมาตามทุบหัวเอาได้ ดังนั้นหาก เห็นว่าคนร้ายหมดสภาพแน่ ๆ และชุมชนอยู่ไม่ไกลจึงค่อยหนี
7. ทีนี้ถ้าคนร้ายแค่เสียจังหวะ คืออาจจะลงไปนอนงอก่องอขิงอยู่แป๊บเดียวและมีทีท่าจะลุกขึ้นมาสิ่งที่ คุณต้องทำคือ รีบหาอาวุธให้เร็วที่สุด ได้แก่ ไม้ ก้อนหิน ปากกา คัตเตอร์ สเปรย์ ปืน ฯ ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็ ส้นตรีน นี่แหละ ถีบเข้าไปที่บริเวณต่อไปนี้
ที่เดิม (นั่นแหละ) แต่ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้เพราะคนร้ายมักจะกุมไว้
หน้าแข้งหรือกลางแสกหน้าคนตัวโต ๆ ตาย เพราะส้นตรีนผู้หญิง ๆ มีเยอะ ยิ่งใส่ส้นสูงด้วย อูย
กกหู ขมับทุบรัว ๆ เลยครับ (ไม่แนะนำ ท้ายทอยหรือคาง เพราะโดนยาก)
ถ้ามีก้อนหินโต ๆ ทุบกลางหน้าแข้งเลยครับ รับรองเดี้ยง ร้องลั่น
ที่สุดท้าย อาจจะโหดหน่อยแต่ถ้าทำได้ เวิร์คแน่นอน ทุบ ”นิ้วเท้า” โดยเฉพาะนิ้วเล็ก ๆ ตั้งแต่นิ้วกลางถึงนิ้วก้อยนี่ล่ะ ทุบผัวะเข้าไปอย่าใจอ่อน เอาให้เละไปเลย ถ้าทำดีคนร้ายอาจจะเจ็บถึงสลบ
…จากนั้นรีบจัดเครื่องแต่งกาย คว้าสิ่งของมีค่าวิ่งให้เร็วที่สุด รอดแล้วเจ้าข้าเอ๊ย..
ด้านบนนี้เป็นบทความที่รวบรวมจากในอินเทอร์เน็ต โดยหวังว่าอย่างน้อยจะเป็นประโยชน์กับผู้หญิงที่ได้อ่านบ้าง เพื่อจะได้เพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดมากขึ้นครับ
sithiphong:
เปิดจดหมายถึง คสช.-รฟท. จากเหยื่อถูกข่มขืนบนรถไฟ 13 ปีก่อน
-http://hilight.kapook.com/view/104840-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สาว ป.โท เหยื่อที่ถูกพนักงานการรถไฟข่มขืนบนรถไฟเมื่อ 13 ปีก่อน ร่อนจดหมายถึง คสช. และ รฟท. ถามความรับผิดชอบและเรียกร้องให้มีมาตรการลงโทษคนร้ายคดีข่มขืนอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ได้มีการนำเสนอจดหมายเปิดผนึกจากผู้เสียหายที่ถูกพนักงานการรถไฟฯ ข่มขืนบนรถไฟเมื่อ 13 ปีก่อน ส่งตรงจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ถึง หัวหน้า คสช. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการลงโทษคนร้ายคดีข่มขืนอย่างจริงจัง รวมถึงถามหาความรับผิดชอบจากการรถไฟที่คดีของเธอยังไม่สิ้นสุด และไม่ได้รับการเยียวยาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก โดยมีข้อความทั้งหมด ดังนี้
เรียน ท่านสื่อมวลชน ผ่านไปยัง หัวหน้า คสช./การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ความรับผิดชอบต่อผู้โดยสาร ในคดีข่มขืนบนรถไฟ
วันนี้ ดิฉันได้รับข่าวสารจากทางเมืองไทย แค่ได้อ่านหัวข้อข่าวว่า มีเหตุข่มขืนแล้วฆ่าบนรถไฟสายใต้ ดิฉันก็รู้สึกเจ็บและปวดที่หัวใจผู้ถูกกระทำอย่างรุนแรง "มันเกิดขึ้นอีกแล้วหรือ ?" "ทำไมฉัน ไม่เป็นคนสุดท้าย ? ทำไมต้องเป็นน้องเขา ? ทำไม ?"
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเอง เมื่อ 13 ปีที่แล้ว หากท่านยังจำกันได้ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2544 เกิดคดีข่มขืนหญิงสาวปริญญาโทบนตู้นอน บนขบวนรถไฟสายใต้ คดีนี้เป็นข่าวครึกโครม การรถไฟฯ ได้ไล่ผู้กระทำผิดออกจากงาน และศาลอาญาได้ตัดสินจำคุกจำเลยเป็นเวลา 9 ปี ส่วนในคดีแพ่ง ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ได้ตัดสินให้การรถไฟฯ และจำเลย ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดให้แก่โจทก์ นับจากวันนั้นถึงวันนี้ 13 ปีผ่านไปแล้ว แต่คดีก็ยังไม่ถึงที่สุด ดิฉันก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย เพราะการรถไฟฯ ได้ยื่นฎีกาขอทุเลาคดี และทำให้การเยียวยาของดิฉันได้รับความล่าช้าออกไปเรื่อย ๆ
หลายท่านคงไม่รู้ว่า หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนชีวิต และสุขภาพดิฉันไปตลอดกาลอย่างสิ้นเชิง ท่านรู้หรือไม่? ดิฉันต้องถูกบีบบังคับให้ออกจากงานที่กำลังไปได้ดี เพราะในสายตาของผู้บริหาร ดิฉันได้นำความเสื่อมเสียมาสู่องค์กร เพราะในการเดินทางครั้งนั้น ดิฉันไปทำงานในนามของบริษัท ดิฉันต้องเข้าโรงพยาบาลทางจิตติดต่อกันมาหลายปี มีอาการประสาทหลอน ควบคุมสติไม่ได้ ต้องเข้าบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่อง ทุกคืนวัน ดิฉันมีอาการฝันร้าย ผวาและหวาดกลัวคนรอบข้าง ไม่ไว้วางใจผู้คน
วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า นานนับหลายปี ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีอาการสั่นของมือ และเมื่อมีเหตุการณ์อะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจ แม้แต่เพียงเล็กน้อย ดิฉันจะมีภาวะตระหนก ควบคุมตนเองไม่ได้ และหลายต่อหลายครั้งถึงกับหน้ามืดเป็นลมหมดสติ ซึ่งอาการเหล่านี้แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานถึง 13 ปี ดิฉันก็ยังประสบความยากลำบากที่จะมีชีวิตเยี่ยงคนปกติ ด้วยความอ่อนแอทางสุขภาพจิตและการต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องหลายปี ทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การต้องประสบกับความอับอายในสังคม ทำให้ดิฉันต้องระเห็จมาตั้งต้นชีวิตใหม่ในต่างประเทศอย่างยากลำบาก และรอคอยกระบวนการยุติธรรมที่ถูกทำให้ล่าช้า อย่างไม่เห็นแก่มนุษยธรรมของท่าน
หลังจากอ่านหัวข้อข่าว ดิฉันรู้สึกแย่มาก น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว รู้สึกว่าหัวใจถูกบีบอย่างแรง มันเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว เพิ่งเกิดขึ้น และมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ดิฉันไม่สามารถที่จะถ่ายทอดความรู้สึกนี้เป็นตัวอักษรได้ เพราะมันเจ็บปวดเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้ ดิฉันทราบข่าวเวลา 3 ทุ่มของประเทศกรีซ หลังจากนั้น ดิฉันหมดสติ มาเริ่มรู้สึกตัวประมาณเที่ยงคืน แต่ดิฉันก็พยายามฝืนที่จะพิมพ์จดหมายฉบับนี้ เพราะต้องการสื่อสารถึงคนในสังคมไทย ว่าถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้สังคมนี้มีความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ต้องคอยระแวงว่า "ใคร คือรายต่อไป"
จากคดีของดิฉัน ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทางการแพทย์ ทางกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม แต่นั่นก็ยังไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง เพราะคดีข่มขืนก็ยังเกิดขึ้นอีกแทบทุกวัน
ดิฉันคาดหวังให้มีบทลงโทษที่รุนแรง ในคดีข่มขืน และมีการป้องกัน บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นจริงจัง เพราะมันอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้เหตุนี้เกิดขึ้นน้อยลง จนไม่เกิดขึ้นเลย........จะเป็นไปได้มั้ยคะ ขอฝากไปถึงท่านผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่จะสามารถทำให้เกิดบทลงโทษที่รุนแรงมากกว่านี้ หรือว่าต้องรอให้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของท่านก่อน
ดิฉันขอแสดงความเสียใจกับบิดาและมารดาของน้องที่เสียชีวิต ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสีย เพราะดิฉันก็ได้เสียมารดา เนื่องจากผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับดิฉันเช่นกัน ดิฉันอยากจะบอกว่าน้องเขาไปดีแล้ว น้องเขาโชคดีกว่าดิฉันเยอะ เพราะทุกวันนี้ดิฉันมีชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็น 10 กว่าปีที่ผ่านมา ดิฉันไม่เคยนอนหลับตอนกลางคืนเลย มันยากที่จะลืม
สุดท้ายนี้ ดิฉันขอฝากข้อความไปถึงท่านผู้มีอำนาจในบ้านเมือง, ผู้ว่าการการรถไฟฯ คนปัจจุบัน ว่า ท่านมั่นใจเหรอคะ ว่า 117 ปี ของการรถไฟฯ ไม่เคยมีคดีร้ายแรง มีแต่อนาจาร ดิฉันไม่ทราบว่า ท่านมาบริหารองค์กรนี้ได้อย่างไร ท่านไม่เคยทราบเลยหรือคะ ว่า องค์กรของท่านเคยเกิดเหตุคดีข่มขืนบนรถไฟสายใต้ ขณะที่รถไฟยังวิ่ง โดยผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานขององค์กรของท่านเอง ท่านไม่เคยทราบเลยหรือคะ ท่านคิดว่า ท่านสมควรที่จะเป็นผู้บริหารองค์กรนี้ต่อไปหรือคะ คดีของดิฉัน 13 ปีแล้วค่ะ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรคะ ชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างตลอดกาลของดิฉัน การรถไฟฯ เห็นว่า การเยียวยาชดใช้ช่วยเหลือความเสียหายมันตีเป็นตัวเงินเมื่อเทียบกับชีวิตของดิฉันได้หรือคะ ทำไมต้องใช้เวลาเตะถ่วงถึง 13 ปี จนบัดนี้ ดิฉันมีลูกชายวัยเด็กที่ดิฉันต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู ด้วยสุขภาพทั้งกายทั้งจิตที่บอบช้ำอย่างหนัก แต่สำหรับท่าน เงินเพียงเล็กน้อยเท่านี้เท่าที่ศาลท่านสั่งให้ชดใช้ ท่านคิดว่ามากไปหรือคะ ช่วยกรุณาตอบดิฉันด้วย
และเหตุการณ์ของน้องแก้มที่เพิ่งเกิดขึ้น ท่านจะพูดว่าอะไรคะ ท่านจะดำเนินการอย่างไร ไล่พนักงานคนนั้นออก แล้วก็จบ เหมือนคดีของดิฉันใช่มั้ยคะ คำว่า "ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ที่ท่านผู้ว่าฯ คนก่อนโน้นเคยกล่าวกับดิฉัน ท่านก็กำลังจะกล่าวคำนี้เช่นกัน กับมารดาของน้องแก้มใช่มั้ยคะ .....ดิฉันอยากถามว่า ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของท่าน ท่านจะกล่าวคำว่าอะไร ????????????
เรื่องเล่าเช้านี้ ผู้เสียหายคดีพนง.รถไฟล่วงละเมิดปี44 ส่งจม.เปิดผนึกวอนเพิ่มบทลงโทษ (9ก.ค.57)
-http://www.youtube.com/watch?v=nrKZ-XhF8W8-
คลิป เรื่องเล่าเช้านี้ ผู้เสียหายคดีพนง.รถไฟล่วงละเมิดปี44 ส่งจม.เปิดผนึกวอนเพิ่มบทลงโทษ (9ก.ค.57) โพสต์โดยคุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
sithiphong:
.
ไม่มีหลักประกันอะไรที่เมื่อติดคุกแล้วออกมา จะไม่กระทำผิดอีก
ถ้าไม่อย่างนั้น ต้องเดิมพันกัน หากผู้ที่ข่มขืนทุกคนออกมาจากคุกแล้ว กระทำผิดแบบเดิมคือไปข่มขืนอีก
ต้องให้นักสิทธิฯยิงตัวตายไป
ขอภาวนาให้ผู้ที่ถูกข่มขืน เป็นคนที่รักของนักสิทธิฯทุกๆคน
แล้วก็ไม่ต้องจับผู้ที่ข่มขืน
-------------------------------------------------------
นักสิทธิฯ ไม่เห็นด้วย ข่มขืนต้องประหาร ชี้แก้ปัญหาไม่ถูกจุด
-http://hilight.kapook.com/view/104853-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
นักสิทธิฯ ไม่เห็นด้วย ข่มขืนต้องประหาร ชี้แก้ปัญหาไม่ถูกจุด ยกตัวอย่างฆ่าตัดตอน มองให้โอกาสกลับตัวสร้างโอกาสมากกว่า
จากกระแสสังคมที่เรียกร้องให้เพิ่มบทลงโทษ "ข่มขืนต้องประหาร" กรณีพนักงานรถไฟ "วันชัย แสงขาว" ลงมือฆ่าข่มขืนน้องแก้ม เหยื่อสาววัย 13 ปี ขณะหลับใหลบนรถไฟ ก่อนที่จะนำร่างของเหยื่อสาวพาดตรงหน้าต่างและผลักออกไปอย่างไม่ไยดี..
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ กล่าวในวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ว่า ส่วนตัวนั้นไม่เห็นด้วยกับการประหารชีวิตเพื่อลงโทษผู้กระทำ เพราะไม่อยากให้สังคมมีมุมมองว่าคนที่ผิดต้องตายตกตามกันไป และการฆ่าคนคนหนึ่งก็ไม่ใช่ว่าปัญหาจะถูกแก้ไข
โดยนางอังคณา ได้ยกตัวอย่างกรณีที่สมัยรัฐบาลในอดีตสมัยหนึ่ง เคยประกาศทำสงครามกับยาเสพติด ทำให้มีการฆ่าตัดตอนกันอย่างมากมาย มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,500 ศพ สนองนโยบายดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ทำปัญหายาเสพติดหมดไปหรือลดลงเลย ตนมองว่าการให้โอกาสผู้กระทำผิดได้กลับตัวเป็นคนดี ยังมีโอกาสสร้างประโยชน์ได้มากกว่า
ทั้งนี้ หากเราศึกษาคดีข่มขืนที่เกิดขึ้น จะพบว่ามีสาเหตุที่นำไปสู่การก่อเหตุข่มขืนซ้ำ ๆ ซาก ๆ ไม่เรื่องเมาสุรา ก็เรื่องยาเสพติด ซึ่งถ้าเราปรับทัศนคติคนในสังคมให้รู้สึกถึงคุณค่าของผู้หญิงหรือความเสมอภาคทางเพศ ต่อไปทุกคนก็คงอยู่ร่วมกันโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ขณะเดียวกัน ในหลายประเทศมองว่าการฆ่าข่มขืนเข้าลักษณะความผิดเดียวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ต้องโทษประหารเท่านั้น แต่ก่อนที่ประเทศต่าง ๆ จะลงโทษผู้ต้องหาในอัตราสูงสุดนั้น ต้องผ่านการไต่สวนในกระบวนการยุติธรรมจนชัดเจนว่าเป็นการกระทำโดยสันดานจริง ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรุงเทพธุรกิจ
sithiphong:
ถูกใจมาก
ตอนที่มันมองหน้า
น่าจะต่ออีกชุดใหญ่
:25: :25: :25: :25: :25:
-----------------------------------------------
วันชัย แสงขาว โดนโบก คลิปตำรวจตบกะโหลกสั่งสอน
-http://hilight.kapook.com/view/104890-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ poy oa สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
วันชัย แสงขาว โดนโบก คลิปชอตเด็ด ตำรวจตบกะโหลกคนร้ายฆ่าน้องแก้ม ชาวเน็ตแห่กดไลค์และแชร์เป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในแฟนเพจ "Princessof Rain" ได้แชร์คลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตบกะโหลก นายวันชัย แสงขาว หรือเกม ผู้ต้องหาข่มขืนแล้วฆ่าน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี จนเสียชีวิต ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ จุดเกิดเหตุที่สถานีรถไฟวังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการโพสต์คลิปดังกล่าวปรากฏว่าชาวเน็ตเข้าไปกดไลค์และร่วมแสดงความคิดเห็นถูกอกถูกใจกันอย่างมากมายทีเดียว
จนท.สอบสวน เม้งแตก ตบกะโหลก "ไอ้เกม" ผู้ต้องหาข่มขื่น "น้องแก้ม"
-http://www.youtube.com/watch?v=3ohw071zLYE-
คลิป จนท.สอบสวน เม้งแตก ตบกะโหลก "ไอ้เกม" ผู้ต้องหาข่มขื่น "น้องแก้ม" โพสต์โดยคุณ poy oa
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ทีนิวส์
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version