ผู้เขียน หัวข้อ: มิลินทปัญหา  (อ่าน 107301 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #150 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 05:58:29 am »

เหตุให้เจริญความรู้ ๘ ประการ

" ข้าแต่พระนาคเสน เหตุจะให้ความรู้ดีขึ้นมีอยู่ ๘ ประการ คือ

๑. เจริญด้วยวัยอายุ
๒. ความได้ยศศักดิ์
๓. การชอบการซักไซ้ไต่ถาม
๔. ไม่คบพวกเดียรถีย์

๕. การนึกถูกทาง
๖. การสนทนาเรื่องต่าง ๆ
๗. มากด้วยความรักในเหตุผล
๘. อยู่ในประเทศอันสมควร"

"ข้าแต่พระนาคเสน ภูมิภาคนี้ประกอบด้วยองค์ ๘ อีกอย่างหนึ่ง โยมก็เป็นเพื่อนร่วมคิดอย่างเยี่ยมในโลก โลกนี้ยังเป็นไปอยู่ตราบใด โยมยังมีชีวีตอยู่ตราบใด ก็จะรักษาความลับไว้ให้ได้ตราบนั้น

ความรู้ย่อมเจริญขึ้นด้วยเหตุ ๘ อย่างนี้ ศิษย์ผู้ปฏิบัติชอบเหมือนอย่างทุกวันนี้หาได้ยาก ส่วนอาจารย์ก็ควรปฏิบัติชอบให้ประกอบด้วยคุณของอาจารย์ ๒๕ ประการ



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #151 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 06:14:12 am »


คุณของอาจารย์ ๒๕ ประการ

๑. ดูแลศิษย์เนือง ๆ
๒. รู้จักคนที่ควรคบและไม่ควรคบ
๓. รู้ว่าศิษย์ประมาทหรือไม่ประมาท
๔. รู้เวลาที่ศิษย์นอน
๕. รู้เวลาศิษย์เจ็บไข้

๖. รู้ว่าศิษย์ได้อาหารหรือยังไม่ได้
๗. รู้คุณวิเศษต่าง ๆ
๘. รู้จักแจกแบ่งอาหารให้ศิษย์
๙. รู้จักปลอบศิษย์ไม่ให้กลัว
๑๐. สอนให้ศิษย์ประพฤติตามเยี่ยงอย่างคนดี

๑๑. ต้องรู้จักรอบ ๆ บ้าน
๑๒. ต้องรู้จักรอบ ๆ วิหาร
๑๓. ไม่ควรเล่นหัวตลกคะนองกับศิษย์
๑๔. ควรรู้จักอดโทษศิษย์
๑๕. ควรตั้งใจทำดีต่อศิษย์

๑๖. ควรประพฤติให้เป็นระเบียบต่อศิษย์
๑๗. ไม่ควรปิด ๆ บัง ๆ ศิษย์
๑๘. สอนความรู้ให้ศิษย์สิ้นเชิง
๑๙. ควรคิดอยากให้ศิษย์รู้ศิลปะ
๒๐. ควรคิดแต่ทางที่จะให้ศิษย์เจริญ

๒๑. ควรคิดอยากให้ศิษย์ชอบเรียน
๒๒. ควรมีจิตอันเมตตาต่อศิษย์
๒๓. ไม่ควรทิ้งศิษย์เวลามีอันตราย
๒๔. ไม่ควรประมาทกิริยาต่อศิษย์
๒๕. ควรประคองศิษย์ผู้พลั้งพลาด

ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า คุณของอาจารย์มีอยู่ ๒๕ ประการ ดังที่ว่านี้ ขอพระผู้เป็นเจ้าจงประพฤติชอบต่อโยม ด้วยคุณธรรมเหล่านี้ ศิษย์ผู้เป็นเช่นโยมนี้หาได้ยาก ความสงสัยใหญ่ได้มีอยู่แก่โยมเพราะ " เมณฑกปัญหา "คือปัญหาอันเปรียบดัวยแพะชนกัน สมเด็จพระภควันต์ได้ทรงแสดงไว้แล้ว ต่อไปข้างหน้าจักมีการถือผิดกัน ทะเลาะกันในเมณฑกปัญหานั้น อาจารย์ผู้ถูกปรวาที ( ฝ่ายตรงข้าม ) ไต่ถาม เมื่อรู้ก็จะแก้ได้ จะจำแนกแจกเนื้อความได้ จักทำลายปัญหาที่เป็นข้อเป็นปมออกได้ ต่อไปข้างหน้าพระภิกษุผู้เหมือนกับพระผู้เป็นเจ้าจักหาได้ยาก ขอพระผู้เป็นเจ้าจงให้จักษุ ให้ปัญหาแก่โยมไว้ เพื่อจะข่มเสียซึ่งคำที่เป็นเสี้ยนหนามต่อพระศาสนา"

พระนาคเสนเถระรับว่า
" ดีแล้ว มหาบพิตร "

แล้วจึงแสดงคุณแห่งอุบาสก ๑๐ ว่า
" มหาบพิตร คุณของอุบาสกมีอยู่ ๑๐ ประการ คืออะไรบ้าง?



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #152 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 06:17:04 am »


คุณแห่งอุบาสก ๑๐ ประการ

๑. เป็นผู้ร่วมสุขร่วมทุกข์กับพระภิกษุสงฆ์
๒. รักษากายวาจาดี
๓. ถือธรรมะเป็นใหญ่
๔. ยินดีในการจำแนกแจกทาน
๕. พยายามเพื่อให้รู้คำสอนของพระพุทธเจ้า

๖. เป็นผู้มีความเห็นถูก
๗. เป็นคนเชื่อกรรม
๘. ไม่ถือผู้อื่นว่าดีกว่าพระพุทธเจ้า
๙. ยินดีในความพร้อมเพรียง
๑๐. ไม่เป็นคนลวงโลก มีแต่นับถือพระรัตนตรัยโดยตรง

ขอถวายพระพร คุณของอุบาสกทั้ง ๑๐ นี้ มีอยู่ในมหาบพิตรแล้ว การที่มหาบพิตรเล็งเห็นความเสื่อมเสียแห่งพระพุทธศาสนามุ่งแต่ความเจริญแล้วนั้น เป็นการสมควรแท้ อาตมภาพถวายโอกาสแก่มหาบพิตร ขอมหาบพิตรจงทรงไต่ถามตามพระทัยเถิด"


จบตอนปรารภเมณฑกปัญหา


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #153 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 08:58:51 am »


   

เมณฑกปัญหา
วรรคที่ ๑


ปัญหาที่ ๑ ว่าด้วยการบูชาพระพุทธเจ้า

ลำดับนั้น พระเจ้ามิลินท์จึงทรงดำริว่า พระนาคเสนให้โอกาสแก่เราแล้ว ครั้งทรงดำริดังนี้แล้ว จึงทรงหมอบลงในที่ใกล้เท้าของพระนาคเสน แล้วทรงประนมอัญชลีขึ้นที่พระเศียรแล้วตรัสว่า

" ข้าแต่พระนาคเสน พวกเดียรถีย์กล่าวว่า ถ้าพระพุทธเจ้ายังทรงยินดีต่อการบูชาอยู่ ก็ยังไม่ชื่อว่าปรินิพพาน ยังเกี่ยวข้องอยู่กับโลก ยังติดอยู่ในโลก ยังสาธารณะอยู่กับโลก การบูชาพระพุทธเจ้าก็ไม่เป็นหมัน ยังมีผลอยู่ ถ้าพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับโลกแล้ว หลุดพ้นไปจากภพทั้งปวงแล้ว การบูชาพระพุทธเจ้าก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะผู้ปรินิพพานแล้ว ย่อมไม่รู้จักยินดีต่อสิ่งใด การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ไม่รู้จักยินดีก็เป็นหมัน ไม่มีผลอันใด

ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ปัญหานี้เป็น อุภโตโกฏิ สองเงื่อนสองแง่ ไม่ใช่วิสัยของผู้มีความคิดสติปัญญาน้อยเลย เป็นวิสัยของผู้มีความคิดสติปัญญามาก ขอพระผู้เป็นเจ้าจงทำลายข่ายคือทิฏฐินี้เสีย พระผู้เป็นเจ้าสามารถทำลายข่าย คือ ทิฏฐินี้ได้โดยแท้ ปัญหานี้ได้มาถึงพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ขอพระผู้เป็นเจ้าจงให้ดวงตา คือปัญญาแก่พระชินบุตรทั้งหลายในอนาคต เพื่อจะได้ข่มเสียซึ่งถ้อยคำอันเป็นหลักตอในพระพุทธศาสนา พระคุณเจ้า
"

ลำดับนั้น พระนาคเสนเถระจึงตอบว่า
" มหาราชะ ขอถวายพระพร มหาบพิตรพระราชสมภาร สมเด็จพระพิชิตมารปรินิพพานแล้วจริง พระองค์เมื่อยังไม่ปรินิพพาน ก็ไม่ทรงยินดีต่อการบูชา เพราะว่าได้ทรงสละความยินดีเสียที่ภายใต้ไม้ศรีมหาโพธิโน้นแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงพระพุทธเจ้า ผู้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว "

ข้อนี้สมกับที่ พระสารีบุตร ผู้เป็นพระธรรมเสนาบดีได้กล่าวไว้ว่า
" พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้เสมอกับพระพุทธเจ้า ผู้ไม่มีผู้เสมอเหมือน ผู้อันเทพยดา มนุษย์ทั้งหลายสักการบูชาแล้วนั้น ย่อมไม่ทรงยินดีต่อสักการบูชาเลย อันนี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย "

" ดังนี้ ขอถวายพระพร "
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า

" ข้าแต่พระนาคเสน ธรรมดาบุตรก็ย่อมสรรเสริญบิดา บิดาก็ย่อมสรรเสริญบุตร ข้อนี้ไม่เป็นเหตุให้ข่มขี่ถ้อยคำของผู้อื่นได้ ข้อนี้ยังเชื่อฟังไม่ได้ก่อน ขอพระผู้เป็นเจ้าจงกล่าวถึงเหตุการณ์ทั้งปวง
เพื่อให้ถ้อยคำของพระผู้เป็นเจ้ามั่นคงเพื่อทำลายเสียซึ่งข่าย คือ ทิฏฐินี้เถิด "


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2011, 09:26:46 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #154 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 09:08:22 am »


อุปมาเหมือนกองไฟใหญ่

ขอถวายพระพร พระตถาคตเจ้าได้ดับขันธปรินิพพานแล้วจริง พระองค์นั้นย่อมไม่ทรงยินดีต่อการบูชา แต่เทพยดามนุษย์ทั้งหลายกระทำซึ่งพระอัฏฐิธาตุของพระพุทธเจ้า ผู้ไม่รู้จักทรงยินดีผู้ปรินิพพานแล้วนั้น ให้เป็นอารมณ์ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ย่อมได้สมบัติ ๓ ประการ ( คือมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ ) เนื้อความข้อนี้ควรทราบได้ด้วยอุปมา จะอุปมาเหมือนอะไร...เปรียบเหมือนกองไฟใหญ่ลุกรุ่งเรืองแล้วดับไป อาตมาขอถามว่ากองไฟใหญ่นั้น ยินดีต่อเชื้อไฟ คือหญ้าและไม่หรือ...มหาบพิตร ? "

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า กองไฟใหญ่นั้น ถึงจะยังลุกโพลงอยู่ ก็ไม่ยินดีต่อเชื้อ คือหญ้าและไม้ ไม่ต้องพูดถึงไฟที่ดับไปแล้ว เพราะไฟไม่มีเจตนาจะยินดีอย่างไร "

" ขอถวายพระพร เมื่อไฟนั้นดับไปแล้วโลกมิสูญจากไฟหรือ...พวกมนุษย์ที่ต้องการไฟก็ไม่สมหวังน่ะซิ ? "

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะว่าไม้ย่อมเป็นวัตถุที่จะให้เกิดไฟขึ้นได้ พวกที่ต้องการไฟก็เอาไม้มาสีกัน แล้วก็ทำให้เกิดไฟขึ้นได้ "

" ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นถ้อยคำของพวกเดียรถีย์ที่ว่า การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ไม่รู้จักยินดี เป็นของหมัน ไม่มีผลนั้นก็ผิดไป เพราะว่าพระพุทธเจ้าย่อมรุ่งเรืองอยู่ในหมื่นโลกธาตุด้วยพระพุทธรัศมี เหมือนกับกองไฟใหญ่ฉะนั้น ขอถวายพระพร

กองไฟใหญ่รุ่งเรืองแล้วดับไปฉันใด พระพุทธเจ้าก็ทรงรุ่งเรืองด้วยพระพุทธรังสีในหมื่นโลกธาตุ แล้วดับไปด้วยการดับขันธ์ฉันนั้น ไฟที่ดับแล้วย่อมไม่ยินดีต่อเชื้อ คือหญ้าและไม้ฉันใด เทพยดามนุษย์ทั้งหลายนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่รู้จักยินดีแล้ว ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ได้สมบัติ ๓ ประการฉันนั้น ด้วยเหตุนี้แหละ มหาบพิตร การสักการบูชาพระพุทธเจ้า ผู้ดับขันธปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่ทรงยินดีต่อสิ่งใด จึงไม่เป็นหมัน จึงมีผล "



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #155 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 09:15:00 am »


อุปมาเหมือนลมใหญ่

" ขอถวายพระพร ขอมหาบพิตรจงทรงสดับเหตุการณ์อื่นอีกให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้ ถ้ามหาบพิตรยังเคลือบแคลงสงสัยอยู่ ด้วยเหตุที่การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่ทรงยินดีว่า ไม่เป็นหมัน ยังมีผลอยู่นั้น อาตมภาพจะอุปมาถวาย กล่าวคือ ลมใหญ่พัดมาแล้วหายไป ขอถามว่า ลมที่หายไปแล้วนั้น จะกลับพัดมาอีกหรือไม่ ? "

" ไม่กลับพัดมาอีก ผู้เป็นเจ้า เพราะลมนั้นไม่มีความผูกใจ หรือการกระทำไว้ในใจที่จะพัดมาอีกเลย ด้วยเหตุว่า ลมนั้นไม่มีเจตนา "

" ขอถวายพระพร ลมที่หายไปแล้วนั้นชื่อว่าขาดหายไปด้วยหรือ ? "

" ไม่ขาดหายไป ผู้เป็นเจ้า คือมนุษย์เหล่าใดร้อนขึ้นมาแล้ว มนุษย์เหล่านั้นก็ทำให้ลมเกิดขึ้นด้วยใบตาล หรือด้วยเครื่องพัดอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามเรี่ยวแรงกำลังของตน แล้วกระทำให้ความร้อนนั้นหายไปด้วยลมนั้น "

" ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นคำที่พวกเดียรถีย์ว่า การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ดับขันธปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่รู้จักทรงยินดี เป็นของหมัน ไม่มีผลนั้นก็ผิดไป เพราะพระพุทธเจ้าได้พัดสัตว์โลกให้เย็นด้วยลมคือ พระเมตตาพรหมวิหาร อันเกษมศานต์ สุขุมเย็นใจ แผ่ไปทั่วหมื่นโลกธาตุเหมือนกับลมใหญ่พัดให้สัตว์โลกเย็นฉะนั้น

ลมใหญ่พัดมาแล้วหายไปฉันใด พระพุทธเจ้าก็พัดสัตว์โลกในหมื่นโลกธาตุ ให้เย็นด้วยเมตตาอันสุขุมยิ่ง แล้วก็ดับขันธ์ไปฉันนั้น

ลมที่หายไปแล้วกลับพัดขึ้นมาอีก ก็ไม่รู้สึกยินดีฉันใด ความยินดีของพระพุทธเจ้าผู้ทรงเกื้อกูลโลกก็สงบไปแล้วฉันนั้น พวกมนุษย์ที่ร้อน ที่มีอุปมาฉันใดเทพยดามนุษย์ทั้งหลายที่เร่าร้อนด้วยไฟกิเลส ๓ กอง ก็มีอุปมาฉันนั้น

ใบตาลและเครื่องพัด ย่อมเป็นเหตุให้ลมเกิดขึ้นฉันใด พระธาตุรัตนะ พระญาณรัตนะของพระพุทธเจ้า ก็เป็นเหตุให้ได้สมบัติ ๓ ประการ ฉันนั้น

เมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่หรือเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วก็ดี ผู้ใดสักการบูชาด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ผู้นั้นก็ได้ความรื่นเริงบันเทิงใจ พวกที่ปรารถนาสมบัติ ๓ ประการ ก็ได้สำเร็จสมความปรารถนา

พวกมนุษย์ที่ร้อนทำให้ลมเกิดขึ้นด้วยใบตาล หรือด้วยเครื่องพัดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ทำให้ความร้อนนั้นดับไปได้ฉันใด เทพยดา มนุษย์ทั้งหลาย บูชาพระธาตุรัตนะ และพระญาณรัตนะ ของพระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่ทรงยินดี ทำกุศลให้เกิดขึ้นแล้ว ก็ดับความเร่าร้อน ๓ ประการ ด้วยกุศลนั้น

ด้วยเหตุนี้แหละ มหาบพิตร จึงเป็นอันว่า การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่รู้จักทรงยินดี ไม่เป็นหมัน ยังมีผลอยู่ "

" ข้าแต่พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้ากล่าวบรรยายมากเกินไป ขอจงกล่าวเฉพาะใจความให้กระทัดรัดเถิด "


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #156 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 09:24:12 am »


อุปมาเหมือนเสียงกลอง

" ขอถวายพระพร ขอมหาบพิตรจงทรงสดับเหตุอื่นให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก เพื่อข่มขี่ถ้อยคำของผู้อื่นเสีย คือบุรุษคนหนึ่งตีกลองทำให้เกิดเสียงขึ้น เสียงกลองที่บุรุษนั้นทำให้เกิดขึ้นก็หายไป เสียงกลองที่หายไปแล้วนั้น ยินดีที่จะเกิดมาอีกหรือไม่ ? "

" ไม่ยินดี ผู้เป็นเจ้า เพราะว่าเสียงกลองนั้น ไม่มีความผูกใจหรือใส่ใจอันใด เมื่อดังขึ้นแล้วหายไปก็เป็นอันขาดเสียง แต่กลองนั้นยังเป็นของที่จะทำให้เกิดเสียงได้อยู่ เมื่อเหตุปัจจัยมีอยู่บุรุษก็ตีกลองให้เกิดเสียงได้อีก "

" ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือพระพุทธเจ้าทรงตั้งพระธาตุรัตนะ อันพระองค์ทรงอบรมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติ ญาณทัสสนะ ไว้แล้ว ทรงตั้งพระธรรมวินัยให้แทนพระองค์ไว้แล้ว จึงดับขันธปรินิพพานไป ไม่ใช่ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานไปแล้ว การได้สมบัติจะขาดไป คือสัตว์ทั้งหลายที่ถูกความทุกข์ในโลกบีบคั้นแล้ว ก็กระทำพระธาตุรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระวินัยรัตนะ ให้เป็นปัจจัยสืบต่อไปแล้ว ก็ทำให้เกิดสมบัติได้ตามปรารถนา เหมือนกับกลองทำให้เกิดเสียงได้ฉะนั้น ขอถวายพระพร

ถ้ากลองที่จะทำให้เกิดเสียงมีอยู่ เมื่อมีผู้ตีกลองก็ทำให้เกิดเสียงได้อีกฉันใด เมื่อพระธาตุรัตนะมีอยู่ ผู้ปรารถนาสมบัติกระทำพระธาตุรัตนะ ให้เป็นปัจจัยสืบต่อไป ก็ย่อมได้สมบัติฉันนั้น ด้วยเหตุอันนี้จึงชี้ให้เห็นว่า การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่รู้จักทรงยินดี ยังมีอานิสงส์ ยังมีผลอยู่ ข้อนี้สมกับที่สมเด็จพระศากยมุนีได้ตรัสไว้ว่า

" ดูก่อนอานนท์ ต่อไปข้างหน้าจะมีผู้กล่าวว่า ศาสนาไม่มีพระศาสดาแล้ว พระศาสดาของพวกท่านก็ต้องไม่มี ดังนี้ แต่ว่าอานนท์ไม่ควรเห็นอย่างนี้ คือธรรมวินัยอันใดที่เราแสดงไว้แล้ว บัญญัติไว้แล้ว ธรรมวินัยอันนั้นแหละ เมื่อเราล่วงไปแล้ว จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย "

ดังนี้ เพราะเหตุนี้แหละ มหาบพิตร จึงว่าคำที่พวกเดียรถีย์ว่า การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานแล้ว ผู้ไม่จักทรงยินดี เป็นของหมัน ไม่มีผลนั้น ผิดไป "



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #157 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 09:39:50 am »


อุปมาเหมือนแผ่นดินใหญ่

" ขอถวายพระพร ขอจงทรงสดับเหตุอย่างอื่นให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก เพื่อให้ทรงเข้าพระทัยว่าการบูชาพระพุทธเจ้า ผู้ปรินิพพานแล้วนั้น ยังมีอานิสงส์ ยังมีผลอยู่ คือแผ่นดินอันใหญ่นี้ย่อมยินดีว่า พืชทั้งปวงงอกงามขึ้นในตัวเราหรือไม่ ? "

" ไม่ยินดีเลย พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร เมื่อแผ่นดินอันใหญ่ไม่ยินดี เหตุใดพืชทั้งปวงนั้นจึงงอกงามขึ้น มีรากมั่นคง มีต้น มีแก่น กิ่งใบ ดอกผลเล่า ? "

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถึงแผ่นดินใหญ่จะไม่ยินดี.. ก็ดี ก็เป็นที่ตั้งแห่งพืชเหล่านั้น พืชเหล่านั้นจึงงอกงามขึ้นได้ "

" ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันว่าได้กำจัดถ้อยคำของพวกเดียรถีย์ให้หมดสิ้นไปแล้ว ด้วยอุปมาข้อนี้ ขอถวายพระพร พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้สมบูรณ์ด้วยวิชชาจรณะผู้เสด็จไปดี ผู้รู้ตลอดโลก เหมือนกับแผ่นดินอันใหญ่ คือแผ่นดินใหญ่ไม่รู้จักยินดีต่อพืชใด ๆ ฉันใด พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงยินดีต่ออะไรในโลกฉันนั้น ขอถวายพระพร พืชทั้งปวงนั้น ได้อาศัยแผ่นดินแล้วก็งอกงามขึ้น มีราก มีลำต้น กิ่งใบดอกผลฉันใด เทพยดามนุษย์ทั้งหลาย ได้อาศัยพระญาณรัตนะของพระพุทธเจ้า ผู้ปรินิพพานแล้วผู้ไม่ทรงยินดีต่อสิ่งใด ก็เกิดรากคือกุศลมั่นคงเกิดแก่นคือสมาธิธรรม มีกิ่งคือศีล มีดอกคือวิมุตติ มีผลคือโลกุตตรผล ฉันนั้น ดัวยเหตุอันนี้จึงชี้ให้เห็นว่า การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่เป็นหมันยังมีผลอยู่ "



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #158 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 09:43:52 am »


อุปมาเหมือนสัตว์เลี้ยง

" ขอถวายพระพร จงทรงสดับเหตุอื่นให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก คือ อูฐ โค ลา ช้าง กระบือ สัตว์ของเลี้ยง และมนุษย์ทั้งหลายเหล่านี้ ยินดีต่อหมู่หนอนที่มีอยู่ในท้องของตนหรือไม่ ? "

" ไม่ยินดีเลย พระผู้เป็นเจ้า "

" ในเมื่อไม่ยินดี เหตุไรหมู่หนอนเหล่านั้นจึงมีลูก หลาน เหลน เกิดขึ้นมากมายในท้องของสัตว์เหล่านั้น ? "

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุบาปกรรมของสัตว์เหล่านั้น ทำให้เกิดหมู่หนอนในท้องน่ะซิ "

" ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร สักการบูชาที่บุคคลกระทำต่อพระพุทธเจ้า จึงไม่เป็นหมัน ยังมีผลอยู่ เพราะพระธาตุรัตนะ พระญาณรัตนะ ของพระพุทธเจ้านั้น ยังมีกำลังแรงกล้าอยู่ "



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #159 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2011, 10:22:49 am »


อุปมาเหมือนกับโรคต่าง ๆ

" ขอมหาบพิตรจงทรงสดับเหตุอื่นให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก คือมนุษย์ทั้งหลายยินดีให้ฉัพพนวุติโรค คือโรค ๙๖ ประการ เกิดขึ้นในร่างกายของตนหรือไม่ ? "

" ไม่ยินดีเลย พระผู้เป็นเจ้า "

" ในเมื่อไม่ยินดี เหตุไรโรคเหล่านั้น จึงเกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์ ? "

" เหตุทุจริตที่เขาทำไว้ในปางก่อนน่ะซิ พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร ถ้าอกุศลที่เขาทำไว้ในชาติก่อน ทำให้ได้รับผลในชาตินี้ กุศลกรรม อกุศลกรรม ที่เขาทำไว้ในชาติก่อนก็ดี ในชาตินี้ก็ดี ก็ต้องไม่เป็นหมัน ยังมีผลอยู่ ถึงด้วยเหตุอันนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า การบูชาพระพุทธเจ้า ผู้ดับขันธปรินิพพานแล้ว ก็ไม่เป็นหมัน ยังมีผลอยู่"