ผู้เขียน หัวข้อ: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา  (อ่าน 35126 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #90 เมื่อ: กันยายน 07, 2014, 08:40:57 pm »
“ราเมนมาจิ” บะหมี่ญี่ปุ่นสไตล์ไทย รสเด็ดโดนใจ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 กันยายน 2557 13:06 น.


-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000100677-


ที่นั่งภายในร้าน

       เดี๋ยวนี้ร้านอาหารญี่ปุ่นในบ้านเรามีให้เลือกชิมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านซูชิ ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ร้านข้าวแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่น หรือร้านราเมน ซึ่งก็คือบะหมี่ญี่ปุ่น นั่นเอง
       
       อย่างพวกร้านราเมน ก็มีให้เลือกชิมหลากหลายสไตล์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นราเมนแบบญี่ปุ่นแท้ๆ หรือราเมนแบบประยุกต์ให้เข้ากับความชอบของคนไทย เหมือนกับที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะชวนมาลองชิมในวันนี้ เป็นร้านบะหมี่ญี่ปุ่นที่ปรับรสชาติให้เข้ากับลิ้นของคนไทย ซึ่งร้านนี้มีชื่อว่า “ราเมนมาจิ”


คุณเอ เจ้าของร้านและเชฟผู้ปรุงความอร่อย

       ร้าน “ราเมนมาจิ” เปิดสาขาแรกอยู่ที่ จ.ราชบุรี แต่ตอนนี้มาเปิดอีกหนึ่งสาขาที่ ถ.ประชาชื่น เพื่อให้คนกรุงได้ชิมความอร่อยกัน อย่างที่บอกว่าเป็นร้านราเมน หรือร้านบะหมี่ญี่ปุ่นที่ปรับปรุงสูตรและรสชาติให้จัดจ้านแบบที่คนไทยชอบ ซึ่งนอกจากจะมีราเมนให้ชิมแล้ว ที่นี่ก็ยังมีข้าวหน้าต่างๆ แบบญี่ปุ่น เมนูเส้น และมีสเต๊กให้ชิมกันด้วย โดยมี คุณมนตรี บูชิกานนท์ หรือ คุณเอ เป็นเจ้าของร้านและผู้ปรุงความอร่อย
       
       สำหรับเมนูอร่อยอย่างแรกที่ได้ชิมนั่นก็คือ ราเมนต้มยำกุ้งน้ำข้น (69 บาท) เมนูนี้เป็นเมนูยอดฮิตของร้าน ทางร้านจะใช้เส้นราเมนเส้นตรง กลม ขนาดไม่ใหญ่มาก นำมาลวกแค่พอสุก ส่วนน้ำซุปนั้นเป็นซุปต้มยำเข้มข้นใส่พริกเผา แล้วก็ใส่กุ้งเทมปุระ ไข่ต้ม สาหร่ายวากาเมะ เห็ดหูหนู นารูโตะ ต้นหอมซอย และน้ำมันกระเทียมเจียว ลองชิมราเมนชามนี้รสชาติเข้มข้นแบบต้มยำไทยๆ หอมอร่อยเข้ากันกับกุ้งเทมปุระที่มาแบบกรอบนอกนุ่มใน


ราเมนต้มยำกุ้งน้ำข้น

       ถัดมาเป็น ราเมนหมูชาชู (69 บาท) เมนูนี้จะใช้น้ำซุปกระดูกหมูต้มเคี่ยวรวมกับโครงไก่และเครื่องปรุงต่างๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนได้ที่ ส่วนหมูชาชูก็จะใช้หมูสามชั้นมันน้อยนำมามัดแล้วต้มในน้ำซอสที่เตรียมปรุงรสไว้จนรสชาติซอสซึมถึงเนื้อใน เวลาเสิร์ฟจัดมาในถ้วย ใส่เส้นราเมนลวกสุก ใส่น้ำซุปร้อนๆ พร้อมกับไข่ไก่ นารูโตะ สาหร่ายวากาเมะ ต้นหอมซอย และน้ำมันกระเทียมเจียว ราเมนหมูชาชูหอมกลิ่นน้ำซุป รสชาติหอมหวานกลมกล่อมอร่อยคล่องคอ เนื้อหมูชาชูนุ่มได้รสชาติ ไม่มันมากเกินไป


ราเมนหมูชาชู

       ส่วนเมนูเส้นอีกหนึ่งอย่างที่แนะนำให้ลองชิมคือ ยากิโซบะหมู (69 บาท) เมนูนี้ก็ใช้เส้นราเมนแบบเดียวกัน นำไปผัดกับซอสยากิโซบะที่ทางร้านปรุงมาเป็นพิเศษ ใส่เนื้อหมู กะหล่ำปลี เห็ด แครอท และต้นหอม โรยหน้าด้วยสาหร่าย ชิมยากิโซบะเส้นนุ่มเหนียวอร่อย รสชาติหวานหอมอมเปรี้ยวนิดๆ


ยากิโซบะหมู

       ทางด้านเมนูข้าวก็น่ากินดี อย่าง ข้าวแกงกะหรี่หมูตุ๋น (69 บาท) ที่เป็นเมนูรสชาติไทยผสมญี่ปุ่น จะใช้หมูสันนอกมาตุ๋นกับเครื่องแกงกะหรี่นานถึง 2 ชั่วโมง โดยเลือกใช้แกงกะหรี่ไทยผสมกับของญี่ปุ่น ตุ๋นรวมกับแครอทและมันฝรั่ง ได้ที่แล้วตักเสิร์ฟพร้อมกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ แกงกะหรี่กลิ่นหอมๆ เนื้อหมูนุ่มเปื่อยอร่อยถูกปาก


ข้าวแกงกะหรี่หมูตุ๋น

       เมนูอร่อยของร้านยังมีให้เลือกชิมอีกหลายอย่าง อาทิ ข้าวหน้าหมูตุ๋น (69 บาท) ข้าวหน้าปลาแซลมอน (149 บาท) สเต๊กหมู/เนื้อ (129 บาท) หรือถ้ากระเพาะใหญ่ก็ต้องชิม ซุปเปอร์ราเมนชามยักษ์ (239 บาท) แล้วมาปิดท้ายด้วยของหวาน บานาน่าคาราเกะ (69 บาท) ที่เป็นกล้วยหอมชุบเกล็ดขนมปังทอด เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีม ปิดท้ายมื้ออร่อยมื้อนี้
       
       ใครที่อยากอร่อยตามแบบ “ผ่านมาแวะกิน” ก็ต้องมาชิมกันเองที่ร้าน “ราเมนมาจิ” ทั้งที่ ถ.ประชาชื่น และที่สาขาราชบุรี



บานาน่าคาราเกะ
       

       
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       ร้าน “ราเมนมาจิ” ตั้งอยู่ที่ 49/50 ประชาชื่นนนทบุรี ซอย 8 ถนนประชาชื่น อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางจากแยกบางเขน ใช้ถนนงามวงศ์วานตรงมาถึงแยกพงษ์เพชร ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนประชาชื่น ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงซอยประชาชื่นนนทบุรี ซอย 8 (ทางซ้ายมือ) ตรงข้ามกับ ม.ธุรกิจบัณฑิต ให้เลี้ยวเข้าซอยแล้วตรงไปอีกประมาณ 100 เมตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางขวามือ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. โทร. 08-1205-9989 www.facebook.com/ramenmachibangkok


รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ราเมนมาจิ"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 กันยายน 2557 13:07 น.
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000100670-



ชื่อร้าน : ราเมนมาจิ
       
       ประเภทอาหาร : อาหารญี่ปุ่น
       
       เมนูจานเด่น : ราเมนต้มยำกุ้งน้ำข้น,ราเมนหมูชาชู,ยากิโซบะหมู,ข้าวแกงกะหรี่หมูตุ๋น,บานาน่าคาราเกะ
       
       บรรยากาศร้าน : ห้องแถว
       
       ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 49/50 ประชาชื่นนนทบุรี ซอย 8 ถนนประชาชื่น อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางจากแยกบางเขน ใช้ถนนงามวงศ์วานตรงมาถึงแยกพงษ์เพชร ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนประชาชื่น ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงซอยประชาชื่นนนทบุรี ซอย 8 (ทางซ้ายมือ) ตรงข้ามกับ ม.ธุรกิจบัณฑิต ให้เลี้ยวเข้าซอยแล้วตรงไปอีกประมาณ 100 เมตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางขวามือ
       
       สถานที่จอดรถ : ไม่มี
       
       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
       
       เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-1205-9989
       
       www.facebook.com/ramenmachibangkok
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #91 เมื่อ: กันยายน 15, 2014, 06:00:41 am »
“ก๋วยเตี๋ยว 5 ใบเถา” อร่อยจัดเต็มเกาเหลา-ก๋วยเตี๋ยว-หมูกรอบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    14 กันยายน 2557 13:10 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000105477-



ที่นั่งด้านในร้าน

        “ผ่านมาแวะกิน” เคยไปลองชิมก๋วยเตี๋ยวจากหลายๆ ร้าน แต่ละร้านก็จะมีวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในชามแตกต่างกันไป อย่างร้านล่าสุดที่ได้ไปลองลิ้มนี้ เขาใส่หมูกรอบลงไปในก๋วยเตี๋ยวด้วย ซึ่งหมูกรอบนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในเมนูที่ทำได้ยาก มีเคล็ดลับและวิธีการทำหลายขั้นตอน แต่ร้านนี้เขาก็ทำออกมาได้อร่อยถูกใจ
       
       ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวที่ไปลองชิมในวันนี้มีชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยว 5 ใบเถา” ตั้งอยู่ริมถนนเจริญนคร และร้านนี้ถือว่าเป็นร้านเก่าแก่อีกร้าน เพราะว่าเขาเปิดขายกันมา 40 กว่าปีแล้ว เหตุที่ชื่อว่าก๋วยเตี๋ยว 5 ใบเถา ก็เพราะว่าอาม่าที่เป็นคนเปิดขายก๋วยเตี๋ยวคนแรกนั้นมีลูกสาวอยู่ 5 คน


ก๋วยเตี๋ยวแห้ง

        ที่ร้านนี้แม่จะมีก๋วยเตี๋ยวเป็นตัวชูโรง แต่เมนูเด็ดอีกอย่างของร้านก็คือ “หมูกรอบ” ซึ่งลูกค้าที่มากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ ก็มักจะสั่งหมูกรอบมากินเล่นคู่กันไปด้วย
       
       แต่ก่อนจะชิมหมูกรอบนั้น มาลองชิมก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ กันก่อนดีกว่า เริ่มจาก ก๋วยเตี๋ยวแห้ง (45 บาท พิเศษ 55 บาท) ซึ่งจะมีเส้นให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ บะหมี่ เกี้ยมอี๋ และวุ้นเส้น ส่วนเครื่องเคราห็จะใส่ทั้งหมูกรอบ หัวใจ ตับ ไส้ ฮือก้วย ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา และหมูหมัก ที่แต่ละอย่างจะต้องคัดสรรมาเป็นอย่างดี เครื่องในก็นำมาล้างทำความสะอาดแล้วต้มให้สุก กินแล้วอร่อยดีไม่มีกลิ่นคาว ส่วนเนื้อหมูก็ต้องนำมาหมักให้ได้ที่ก่อนจะลวกให้สุก ลูกชิ้นก็คัดมาอย่างดี เคี้ยวเด้งโดนใจ แต่ถ้าใครชอบก๋วยเตี๋ยวน้ำก็สั่งมาเป็น ก๋วยเตี๋ยวน้ำ (45 บาท พิเศษ 55 บาท) จะได้เครื่องเคราครบครันแบบนี้ พร้อมกับน้ำซุปหอมหวานกลมกล่อม


ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

        ถัดมาลองชิม ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (45 บาท พิเศษ 55 บาท) ที่ใส่เครื่องเคราเหมือนกับก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ แต่เพิ่มหมึกกรอบลงไปด้วย ใส่ซอสแดงที่ปรุงรสชาติมาอร่อยแล้ว พอคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำซุปหอมๆ ก็ยิ่งกินอร่อย แทบไม่ต้องปรุงเลยทีเดียว
       
       ส่วนเกาเหลาของที่นี่ก็เป็น เกาเหลาเลือดหมู (45 บาท พิเศษ 55 บาท) ที่ใส่เครื่องทั้งหมูหมัก หมูกรอบ หัวใจ ตับ ไส้ กระเพาะ เซี่ยงจี้ และเลือดหมูชิ้นโตๆ ใส่มาพร้อมกับจิงจูฉ่าย เครื่องในแต่ละอย่างหั่นชิ้นโต เนื้อหมูนุ่มๆ เลือดหมูก็นิ่ม น้ำซุปหอมหวาน กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็ยิ่งอร่อย


เกาเหลาเลือดหมู

        แต่สำหรับใครที่ชอบกินหมูกรอบ แนะนำให้สั่ง หมูกรอบ (จานละ 50 บาท กิโลกรัมละ 500 บาท) มากินคู่กัน หมูกรอบของที่นี่จะใช้หมูสามชั้นส่วนท้องที่คัดมาเป็นพิเศษ นำมาล้างแล้วต้มกับน้ำ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย พอสุกแล้วก็ยกขึ้นมาทาเกลือเฉพาะส่วนหนัง พักทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยนำไปทอดด้วยเตาถ่าน จนเสร็จสรรพออกมาเป็นหมูกรอบเนื้อนุ่มหนังกรอบ มีรสชาติเค็มนิดๆ แต่ไม่มัน กินคู่กันกับซีอิ้วดำหอมๆ อร่อยถูกปากมากๆ
       
       ที่ร้านนี้ยังมีอีกเมนูอร่อยก็คือ กวยจั๊บ (45 บาท พิเศษ 55 บาท) เป็นกวยจั๊บน้ำใส กินแล้วอร่อยคล่องคอ นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำหวานๆ เย็นๆ ให้ดื่มชื่นใจ ทั้ง โอเลี้ยง (10 บาท) ชาดำเย็น (10 บาท) กระเจี๊ยบ (10 บาท) และ มะพร้าว (20 บาท)
       
       ก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ กินเข้าคู่กับหมูกรอบที่กรอบนอกนุ่มใน มาชิมกันได้ที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยว 5 ใบเถา” แห่งนี้เท่านั้น


หมูกรอบ


       
       ร้าน “ก๋วยเตี๋ยว 5 ใบเถา” ตั้งอยู่ที่ 622 ซ.เจริญนคร 20 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. การเดินทางจากวงเวียนใหญ่ มุ่งหน้ามาที่ถนนลาดหญ้า ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสำนักงานเขตคลองสาน แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเจริญนคร ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางขวามือจะเห็นซอยเจริญนคร 20 ส่วนร้านตั้งอยู่บริเวณปากซอย ติดริมถนน ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 05.00-14.30 น. โทร. 0-2438-6840 , 08-1655-2560 (เฉพาะหลัง 15.00 น. เป็นต้นไป)


        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000105477
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
“ผัดวุ้นเส้นใส่แหนมและกระเทียมดอง” เมนูประยุกต์สำหรับคนชอบรสจัดจ้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    3 ตุลาคม 2557 17:52 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000111823-





หลายคนคงเคยกินเมนูผัดวุ้นเส้น ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเพราะรสชาติจืดไป “ครัววันหยุด” เลยมีเมนูผัดวุ้นเส้นแบบใหม่มาให้ลองทำกัน นั่นคือ “ผัดวุ้นเส้นใส่แหนมและกระเทียมดอง” ที่จะใช้วุ้นเส้นผัดใส่แหนม ให้รสชาติความเปรี้ยว เติมด้วยกระเทียมดองรสชาติออกหวานๆ แถมยังผัดใส่พริกที่เพิ่มความเผ็ดจี๊ดจ๊าดลงไปด้วย

“ผัดวุ้นเส้นใส่แหนมและกระเทียมดอง” เมนูประยุกต์สำหรับคนชอบรสจัดจ้าน
        ส่วนผสม
       วุ้นเส้น 80 กรัม (นำไปแช่น้ำจนนิ่ม)
       แหนม 200 กรัม
       กระเทียมดอง 30 กรัม
       ไข่ไก่ 1 ฟอง
       น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
       ซีอิ้วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมันหอย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
       กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
       พริกชี้ฟ้าโขลก 1 ช้อนชา
       หอมใหญ่ (หัวเล็ก) 1 หัว
       ต้นหอมซอย 2 ต้น
       น้ำมันพืชสำหรับผัด
       
       วิธีทำเริ่มจากตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนดีแล้วใส่กระเทียมสับและพริกโขลกลงไปผัดให้หอม ใส่แหนมลงไปผัด จากนั้นใส่กระเทียมดองและหอมใหญ่ลงไป ผัดไปพอหอมสุกดี ใส่ไข่ไก่ผัดให้พอสุก แล้วใส่วุ้นเส้นลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมันหอย และซีอิ้วขาว ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันจนวุ้นเส้นสุกดี ใส่ต้นหอมซอยลงไปผัดให้ทั่วๆ จากนั้นปิดไฟ แล้วตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย



http://www.youtube.com/watch?v=SkAS9jCt-IE#t=22

-http://www.youtube.com/watch?v=SkAS9jCt-IE#t=22-

“ผัดวุ้นเส้นใส่แหนมและกระเทียมดอง” เมนูประยุกต์สำหรับคนชอบรสจัดจ้าน
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
“เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู ต.จันทร์เพ็ญ” ก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ด ในย่านของอร่อย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    5 ตุลาคม 2557 12:22 น.


-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000114395-




ด้านหน้าร้าน

        หลายคนบอกว่า ย่านตลาดพลู เป็นย่านที่มีของอร่อยมากมาย “ผ่านมาแวะกิน” ก็เลยต้องตามไปพิสูจน์สักครั้ง ซึ่งเมื่อไปถึงก็เห็นมีร้านอาหารมากมาย ทั้งที่เป็นร้านมีที่นั่งสบายๆ และร้านรถเข็นริมทาง ซึ่งแต่ละร้านก็มีลูกค้าแวะเวียนมาตลอดเวลา
       
       อย่างร้านที่เราเลือกชิมวันนี้ ก็คือร้าน “เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู ต.จันทร์เพ็ญ” ซึ่งร้านนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่มีลูกค้าแวะเวียนมาชิมเสมอ เนื่องจากชื่อเสียงความอร่อยที่เลื่องลือ เพราะเขาเปิดขายกันมากว่า 60 ปีแล้ว โดยปัจจุบัน มี คุณครรชิต นิตยานนท์ เป็นผู้ดูแลความอร่อย


เกาเหลารวม พร้อมข้าวสวย

        พอเข้ามาถึงร้านแล้วก็จะได้กลิ่นความหอมหวนของน้ำซุปที่ลอยมาเตะจมูก ทำให้ท้องเริ่มร้อง เราก็เลยขอลองชิมเมนูแรก เริ่มจัดหนักด้วย เกาเหลา (60-80 บาท) เกาเหลาถ้วยนี้ใส่เครื่องมาครบทุกอย่าง มีทั้วเนื้อสด ที่ใช้เนื้อวัวส่วนลูกมะพร้าวมาหมักแล้วลวกพอสุก เนื้อเปื่อยก็จะใช้เนื้อสามชั้นมาต้มกับเครื่องเทศต่างๆ นอกจากนี้ยังใส่ตับวัว หัวใจ ไส้ ม้าม ปอด ขอบกระด้ง เอ็นแก้ว และเนื้อกรอบ เป็นเนื้อน่องติดเอ็นที่เคี้ยวแล้วจะกรุบๆ แล้วก็ยังใส่ลูกชิ้นเนื้อ-ลูกชิ้นเอ็นอีกด้วย ส่วนน้ำซุปก็ได้จากการต้มเนื้อเปื่อยสามชั้นกับกระดูก เคี่ยวคนได้ที่ ออกมาเป็นน้ำซุปที่หอมหวานกลมกล่อม เนื้อสดก็นุ่ม เนื้อเปื่อยได้รสชาติ เครื่องในไม่คาว กินกับ ข้าวเปล่า (7 บาท) ที่เสิร์ฟมาร้อนๆ ทั้งอิ่มทั้งอร่อยโดนใจ


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเส้นหมี่

        แต่ถ้าใครชอบก๋วยเตี๋ยว มาลองชิม ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเส้นหมี่ (50 บาท พิเศษ 60 บาท) ที่ใส่เครื่องเครามาครบทุกอย่างเช่นกัน หรือหากใครชอบ-ไม่ชอบอะไรก็สามารถสั่งทางร้านได้เลย เส้นหมี่ที่ลวกมาจนสุก กินเข้ากันกับน้ำซุปหอมหวาน เข้ากับเนื้อสด เนื้อเปื่อย เครื่องในต่างๆ หรือจะสั่งเป็น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อแห้งเส้นเล็ก (50 บาท พิเศษ 60 บาท)
       
       จากเนื้อเปื่อยธรรมดา ทางร้านนำมาพัฒนาเป็น ข้าวกะเพราเนื้อเปื่อย (50 บาท) ที่ใช้เนื้อเปื่อยที่ตุ๋นมาจนได้ที่ นำมาผัดกับเครื่องกะเพราแบบไทยๆ ราดบนข้าวสวยร้อนๆ เนื้อเปื่อยที่นุ่มเปื่อยได้รสชาติอยู่แล้ว ผสานกับรสชาติเข้มข้น หอมเผ็ดของพริกและกะเพรา ทำให้ได้กะเพราที่รสชาติเข้มข้นอร่อยมากๆ


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อแห้งเส้นเล็ก

        กินของคาวกันแล้ว ที่ร้านนี้เขาก็มีของหวานให้ชิมด้วย ซึ่งเป็นขนมหวานไทยๆ ที่มีให้เลือกชิมวันละประมาณ 12 เมนู อย่างวันที่เรามาก็มีเมนูเด่นๆ มาให้ชิม 3 อย่าง คือ มันต้มขิง (15 บาท) ที่จะใช้มันเทศมาติมกับน้ำขิง ให้ความแน่นหวานอร่อยของมันเทศ เพิ่มความหอมและเผ็ดร้อนนิดๆ จากขิง
       
       ปลากริมเผือกทรงเครื่อง (15 บาท) สูตรของที่นี่จะใส่ทั้งแห้ว เผือก และมะพร้าวอ่อน ที่ร้านจะนวดแป้งเอง คั้นน้ำกะทิสดๆ ใหม่ๆ ออกมาเป็นปลากริมที่หอมมันอร่อยกำลังดี แล้วยังมี เต้าส่วน (15 บาท) ที่ทางร้านใช้ถั่วเขียวซีกมานึ่ง แล้วกวนรวมกับแป้ง เวลาจะกินก็ตักกะทิราดลงไป ได้เต้าส่วนที่หอมหวานมันอร่อย


ข้าวกะเพราเนื้อเปื่อย

        นอกจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อแล้ว ที่ร้านก็ยังมีข้าวตามสั่งให้เลือกสั่งกันได้ตามชอบ อาทิ ข้าวผัดปู (50 บาท) ข้าวผัดกุ้ง (50 บาท) ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (40 บาท) เป็นต้น และยังมีเครื่องดื่มสมุนไพรที่ทางร้านชงเอง ทั้ง เก๊กฮวย โอเลี้ยง ชาดำเย็น และ กระเจี๊ยบ (แก้วละ 15 บาท) ให้ดื่มเย็นๆ ชื่นใจด้วย


ขนมหวานไทยๆ มีให้เลือกกินทุกวัน

       
       “เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู ต.จันทร์เพ็ญ” ตั้งอยู่ที่ 1117 ถ.เทอดไท แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. การเดินทางจากวงเวียนใหญ่ มุ่งหน้ามาที่ถนนเพชรเกษม จากนั้น เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทอดไท วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือจะเห็นป้ายสถานีรถไฟตลาดพลู เลยทางเข้าสถานีรถไฟมาเล็กน้อย จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือติดถนน มีป้ายให้เห็นชัดเจน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. โทร. 0-2891-4042


.
        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เสาะหาของอร่อย “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา-ยำ-เบเกอรี่-ขาหมูรสเด็ด” ซอยเซนต์หลุยส์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    10 ตุลาคม 2557 15:25 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000116814-



เบเกอรี่โฮมเมดร้าน “ร้านพิซซ่ากะเค้ก Homemade”
        ถ้าเอ่ยถึงแหล่งศูนย์รวมโรงเรียน โรงพยาบาลใจกลางเมืองอย่าง "เซนต์หลุยส์" คงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ด้วยย่านแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ชุมชนชาวจีน รวมไปถึงศาลเจ้า โบสถ์คริสต์ มัสยิด (คลิก!! อ่านเรื่องเที่ยวย่านเซนต์หลุยส์) ต่างก็ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ จึงทำให้เซนต์หลุยส์เป็นย่านใจกลางเมืองแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้ที่ไหนๆ


ซอยเซนต์หลุยส์ในวันฝนพรำ
       


ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาต้มยำร้านหยูง้วน
        นอกจากเซนต์หลุยส์จะเป็นแหล่งศูนย์รวมสถานที่สำคัญต่างๆ ไว้แล้ว ที่นี่ก็ยังเรียกได้ว่าเป็นแหล่งที่มีของกินอร่อยๆ ตั้งอยู่มากมายทีเดียว ชนิดที่ว่ากินกันอย่างไรก็ไม่ครบทุกร้าน และการมาเยือนเซนต์หลุยส์ของเรานั้นก็เพื่อมาลองลิ้มชิมรสกับร้านต่างๆ ในย่านนี้ ทว่าโชคไม่ดีเอาเสียเลย เนื่องจากวันที่เรามานั้นฝนตกหนักทำให้เราไม่สามารถเดินไปยังร้านต่างๆ ได้ แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจะให้เสียเที่ยวก็กระไรอยู่ เราจึงเดินไปบริเวณศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า (บริเวณปากซอยจันทน์ 18/7 แยก 7) เพื่อนำร้านเด่นๆ ในละแวกนั้นมาแนะนำกัน แต่จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปอ่านกันเลย


ร้านค้าเรียงรายมากมายที่ซอยเซนต์หลุยส์
       


ไอศกรีมโฮมเมดรสละมุน
        เริ่มจากด้านข้างศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า เมื่อหันหน้าเข้ากับศาลเจ้ามองมาทางด้านซ้ายมือจะพบกับร้าน “หยูง้วน โภชนา” ร้านนี้เป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่เปิดขายมายาวนานหลายสิบปี ความโดดเด่นของก๋วยเตี๋ยวที่ร้านหยูง้วนจะแตกต่างจากร้านอื่นๆ ตรงที่ลูกชิ้นปลาของที่นี่จะเป็นลูกชิ้นปลาทำเอง มีทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นรักบี้ ลูกชิ้นกุ้ง ปลาเส้น โดยลูกค้าสามารถเลือกสั่งได้ตามชอบใจ มีบริการทั้งเกาเหลา เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เย็นตาโฟ หรือก๋วยเตี๋ยวต้มยำก็มีขาย นอกจากนี้แล้วหากใครชื่นชอบการกินลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ก็สามารถสั่งลูกชิ้นลวกมากินเป็นชามๆ ต่างหากได้


กุ้งพล่ารสจัดจ้าน
       


เค้กแบล็คฟอเรส.

        ถัดมาอีกด้านของศาลเจ้าฯ ในช่วงตอนเย็นๆ ประมาณ 5 โมงจะมีร้านยำรสเด็ดแห่งซอยเซนต์หลุยส์มาตั้ง ชื่อว่า “ร้านยำเจ๊อ้วน (by อ้อค่ะ)” ในตอนเย็นๆ ไปจนถึงดึก ร้านนี้จะเต็มไปด้วยลุกค้ามากมาย ทั้งมานั่งกินที่ร้าน และต่อคิวซื้อใส่ถุงกลับบ้าน ซึ่งยำที่ร้านนี้นั้นมีให้เลือกกินกันถึง 20 อย่าง ความโดดเด่นอยู่ที่เจ้าของร้านจะเลือกใช้ของทะเลสดๆ โดยจะสั่งของทะเลคัดพิเศษส่งตรงสด ใหม่ทุกวัน โดยเมนูเด่นๆ นั้นก็มียำสามกรอบ กุ้งพล่า หมูมะนาว ยำหมูนุ่ม ยำถั่วพู ให้ได้เลือกกินกันตามชอบใจ


ลูกชิ้นกุ้งลวก
       


บานอฟฟี่

        ตรงกันข้ามกับร้านยำเจ๊อ้วน จะเป็นที่ต้องของ “ร้านพิซซ่ากะเค้ก Homemade” สำหรับร้านนี้นั้นเป็นร้านเหมาะสำหรับมานั่งกินชิลล์ๆ มีเมนูให้เลือกชิมหลายอย่างด้วยกัน อาทิ พิซซ่าโฮมเมด โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะใส่อะไรลงไปบ้าง หรือจะแต่งหน้าพิซซ่าเองก็สามารถทำได้ ไอศกรีม เครื่องดื่ม เค้ก หรือจะเป็นอาหารกินเล่นที่นี่ก็มีให้เลือก หากใครชอบกินไอศกรีมก็ขอแนะนำไอศกรีมลิ้นจี่กินคู่กับเจลลี่รสสตรอเบอร์รี่สีแดงสด ไอศรีมลิ้นจี่รสอมเปรี้ยว หอมรสลิ้นจี่เข้ากันดีกับเจลลี่ เหมาะสำหรับคลายร้อนได้ดี หากใครชอบกินเค้กที่นี่ก็มีให้เลือกหลายชนิด ทั้งบานอฟฟี่ เค้กแบล็คฟอเรส บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก ฯลฯ หรือจะเลือกสั่งของกินเล่นอย่างเกี๊ยวห่อชีส สลัด ไก่กรอบ หมูบาร์บีคิว ปอเปียะแฮมชีส มาลองลิ้มกันก็ได้


เกี๊ยวห่อชีส เมนูกินเล่น
       


ยำหมูนุ่ม

        ถัดจากร้านพิซซ่ากะเค้กไปประมาณ 2-3 คูหา จะเป็นที่ตั้งของ “ร้านขาหมู จ.ส.100” หรือ “ขาหมูเลิศรส” เจ้าดัง ที่ไม่ว่าใครมาเซนต์หลุยส์นั้นต้องมากิน แต่น่าเสียดายวันที่เรามานั้นร้านปิด โดยร้านนี้เป็นร้านขาหมูเก่าแก่ที่เปิดขายมานานหลายสิบปี เปิดขายตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงบ่าย ความโดดเด่นของขาหมูที่นี่คือขาหมูจะตุ๋นมาแบบเปื่อยๆ กินเข้าไปจะได้รสสัมผัสที่นุ่ม ตามด้วยความหอม หวาน มันของขาหมู ว่ากันว่าอร่อยนักเชียว
       
       และนี่ก็เป็นเพียงร้านเด่นๆ ที่ตั้งอยู่ในละแวกใกล้กับศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า หากใครมาแถวเซนต์หลุยส์ก็ลองมาแวะชิมกันดูได้ แต่นอกจากร้านเหล่านี้แล้ว ซอยเซนต์หลุยส์ยังมีร้านอาหารอื่นๆ อีกหลายร้าน หากคราวหน้ามีโอกาสมาเซนต์หลุยส์อีกคงต้องไปสืบเสาะหาร้านอร่อยไปลองลิ้มอีกเป็นแน่




คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด

“หยูง้วน (เล่าหยู)” ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเนื้อนุ่ม เคี้ยวเด้ง โดนใจ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    26 ตุลาคม 2557 13:05 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000122178-


ที่นั่งภายในร้าน

        ถึงแม้ว่าบ้านเราจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ ให้ไปลองมากมาย แบบที่ว่ากินยังไงก็คงไม่มีวันครบ แต่ “ผ่านมาแวะกิน” ก็ยังไม่เบื่อที่จะมาลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ อยู่เสมอ
       
       อย่างที่ร้านนี้ “หยูง้วน (เล่าหยู)” ก็เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ซอยเซนต์หลุยส์ 3 ย่ารวมของอร่อยอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ


ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ

        อย่างที่บอกว่าร้านนี้เขาเปิดขายมานานแล้ว ปัจจุบันมี คุณสิทธิชัย ทองจันทรา เป็นเจ้าของร้าน โดยเน้นขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ทีเด็ดอยู่ที่ลูกชิ้นปลาจะทำเองสดๆ ใหม่ๆ ทุกวัน ซึ่งใช้ส่วนผสมจากปลา 3 อย่าง คือ ปลาดาบ ปลาอินทรี และปลาหางเหลือง
       
       เมนูแรกที่เราลองชิมก็คือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ซึ่งที่ร้านจะมีให้เลือกเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เส้นหมี่ และวุ้นเส้น ใส่ลูกชิ้นที่ทางร้านทำเองทั้งลูปชิ้นปลากลม ฮือก้วย ลูกชิ้นปลารักบี้ และลูกชิ้นกุ้ง ใส่มาในน้ำซุปกระดูกหมูที่ต้มเคี่ยวรวมกับกระดูกปลาจนได้ที่ ในก๋วยเตี๋ยวต้มยำจะปรุงรสใส่มะนาว พริกป่น ถั่วป่น และมีเนื้อหมูต้มหั่นเป็นชิ้นใส่ลงมาให้ด้วย รสชาติน้ำซุปต้มยำเข้มข้น หอมกลิ่นมะนาว พริก และถั่ว ลูกชิ้นปลาเคี้ยวเด้งอร่อย


บะหมี่แห้ง

        อีกเมนูเปลี่ยนมาชิม บะหมี่แห้ง (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่ใช้เส้นบะหมี่เหลืองและถั่วงอกมาลวกให้พอสุก ใส่ลูกชิ้นทุกอย่าง ใส่เนื้อหมูลวกหั่นเป็นชิ้น คลุกเคล้าเข้ากับกระเทียมเจียวให้ได้กลิ่นหอม รองด้านล่างด้วยผักกาดหอมเล็กน้อย คลุกเคล้าบะหมี่ให้เข้ากันแล้วลองชิมรสชาติก็อร่อยกลมกล่อมดีอยู่แล้ว แต่ถ้าใครชอบแบบมีรสชาติก็ปรุงเพิ่มอีกเล็กน้อย ก็ได้ลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวแห้งอร่อยๆ เข้ากันกับลูกชิ้นเคี้ยวเด้งโดนใจ


ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

        ส่วนเมนู ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) จานนี้ก็ใส่ลูกชิ้นมาแบบครบเครื่องเช่นกัน แถมยังมีหมึกกรอบเป็นชิ้นให้เคี้ยวกรึบ ส่วนซอสเย็นตาโฟก็เลือกสรรมาเป็นอย่างดี รสชาติกลมกล่อมอร่อยครบรส เมื่อมารวมกับน้ำซุปหอมหวานแล้วก็ได้ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟรสดีถูกปาก
       
       แต่ใครที่ชอบกินลูกชิ้นมากๆ ขอแนะนำให้สั่ง ลูกชิ้นปลาลวก - ลูกชิ้นกุ้งลวก (เริ่มที่ 40 บาท) มาลองชิม เพราะลูกชิ้นของที่นี่จะทำเอง อย่างลูกชิ้นปลากลม ก็จะใช้เนื้อปลาดาบ ปลาอินทรี และปลาหางเหลืองมาผสมกัน แล้วปรุงรสตามสูตรของทางร้าน ส่วนลูกชิ้นกุ้งก็จะใช้เนื้อกุ้งทะเลและกุ้งขาวมาผสมกันแล้วนวดปรุงรส


ลูกชิ้นปลาลวก
        ส่วนลูกชิ้นปลารักบี้ จะใช้เนื้อปลาดาบ ปลาอินทรี และปลาหางเหลือง มาผสมกับเนื้อหมู นวดแล้วปรุงรส และยังมี ฮือก้วย ที่ใช้เนื้อปลาดาบและปลาอินทรีย์นวดปรุงรส แล้วปั้นเป็นเส้นๆ นำมาต้ม แล้วทอดอีกครั้ง ซึ่งลูกชิ้นของที่นี่แต่ละอย่างจะเคี้ยวเด้งถูกปาก กินอร่อยแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเพิ่มเลย
       
       เมนูอื่นๆ ของร้านก็ยังมีให้เลือกชิมอีกหลายอย่าง อาทิ ข้าวหน้าไก่ (50 บาท) บะหมี่ไก่เทอริยากิ (50 บาท) หรือจะเป็นของว่างกินเล่น เกี๊ยวกุ้งทอด (30 บาท) หนังปลาทอด (30 บาท) เป็นต้น
       
       ใครที่อยากมาลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอร่อยๆ ที่ลูกชิ้นเคี้ยวเด้งไม่คาวแบบนี้ ต้องมากันที่ร้าน “หยูง้วน (เล่าหยู)”


ลูกชิ้นกุ้งลวก


       
       ร้าน “หยูง้วน (เล่าหยู)” ตั้งอยู่ที่ 314-316 ซอยจันทน์ 18/7 (เซนต์หลุยส์ 3) แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. การเดินทางจากถนนสาทร เลี้ยวเข้าซอยสาทร 11 ตรงมาเรื่อยๆ จนเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง จะถึงซอยจันทน์ 18/7 จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน ก่อนถึงศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ร้านเปิดทุกวัน (หยุดวันพุธปลายเดือน เดือนละ 1 วัน) เวลา 09.00-22.00 น. โทร. 0-2286-0004, 08-1933-2632

        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #96 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2014, 06:40:40 pm »
“โพธิ์พระยา” ก๋วยเตี๋ยว-กวยจั๊บ สูตรลับต้นตำรับความอร่อย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    16 พฤศจิกายน 2557 15:17 น.


-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000131505-



ทางเข้าด้านหน้าร้าน

        ช่วงเวลารีบๆ เร่งๆ ใครๆ ก็มักจะหาร้านอาหารที่สามารถสั่งของอร่อยมากินได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เวลานาน แต่ก็ต้องยังมีความอร่อยถูกปากอยู่เหมือนเดิม เหมือนครั้งที่ “ผ่านมาแวะกิน” ต้องไปธุระแถวๆ ศาลายา ก็เลยขอแวะหาของอร่อยง่ายๆ กินแถวๆ หน้า ม.มหิดล ศาลายา เสียหน่อย
       
       จนมาเจอกับร้าน “โพธิ์พระยา” ในซอยศาลายา 3 ที่นี่เปิดขายก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ หลากหลายอย่าง ก็เลยไม่พลาดที่จะมาลิ้มลอง
       
       ร้าน “โพธิ์พระยา” แห่งนี้ แม้จะเพิ่งมาเปิดที่ศาลายา แต่สูตรความอร่อยนั้นได้รับการสืบทอดมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวสูตรดั้งเดิมที่ อ.โพธิ์พระยา จ.อ่างทอง ที่เปิดขายมา 30 กว่าปีแล้ว ซึ่งเมนูเด็ดๆ ของที่นี่ก็จะเน้นกวยจั๊บ และก๋วยเตี๋ยวที่เป็นสูตรอร่อยเฉพาะตัว ก๋วยเตี๋ยวและกวยจั๊บของร้านนี้ จะใส่เกี๊ยวทอดกรอบลงไปด้วยทุกชาม แต่ถ้าใครมานั่งกินที่ร้าน ก็สามารถสั่งเกี๊ยวกรอบมาเพิ่มได้ฟรีอีกด้วย


ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำแดงตุ๋นยาจีน

        อย่างเมนูแรก ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำแดงตุ๋นยาจีน (35 บาท) หมูแดงของที่นี่จะใช้หมูส่วนสันในที่นุ่มอร่อย มาหมักกับเครื่องปรุงสูตรเฉพาะ ก่อนจะนำไปจี่ในน้ำมันให้พอสุก ส่วนน้ำซุปก็เป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่ตุ๋นรวมกับเครื่องเทศจีนหลายชนิดจนได้ที่ พอซดน้ำจะได้ความหอมหวานกลมกล่อม เนื้อหมูแดงก็นุ่มอร่อยไม่มัน ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยวก็มีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่ บะหมี่ วุ้นเส้น และมาม่า


กวยจั๊บหมูตุ๋น

        ส่วนอีกเมนูก็เป็นเมนูเด็ดเช่นกัน กวยจั๊บหมูตุ๋น (40 บาท) เมนูนี้จะใช้หมูขั้วตับนำมาตุ๋นกับเครื่องยาจีนจนเปื่อยนุ่มได้ที่ ส่วนน้ำซุปก็เป็นซุปกระดูกหมูยาจีน ใส่เต้าหู้แข็งทอดที่นำมาตุ๋นในน้ำซุปแล้ว ใส่เลือดหมู และใส่ไข่พะโล้ลงไปด้วย ตัวเส้นก็เป็นเส้นกวยจั๊บที่ต้มมาแบบนิ่มกำลังดี ซดน้ำซุปหอมๆ หวานๆ ชิมหมูตุ๋นที่เปื่อยนุ่มหอมยาจีน เข้ากันกับเส้นกวยจั๊บนิ่มๆ แต่ไม่เละ


กวยจั๊บหมูกรอบไข่เยี่ยวม้า
        หรือถ้าไม่อยากกินหมูตุ๋น ก็แนะนำ กวยจั๊บหมูกรอบไข่เยี่ยวม้า (50 บาท) จานนี้จะใส่หมูกรอบแทนหมูตุ๋น โดยหมูกรอบของร้านนี้จะใช้หมูสามชั้นมาชุบแป้งที่ปรุงรสแล้วนำไปทอดให้สุก ใส่ไข่เยี่ยวม้าลงไปในชาม มีเลือดหมูและเต้าหู้พะโล้ใส่มาด้วย กวยจั๊บชามนี้หอมหวานน้ำซุปยาจีน มีหมูกรอบมาให้กินคู่กันอร่อยมากๆ
       
       ปิดท้ายอีกเมนูยอดฮิตที่ลูกค้าชอบสั่ง ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มย้ำน้ำข้น (50 บาท) ชามนี้ก็เลือกเส้นตามที่ชอบ ใส่ลงมาในน้ำซุปที่ปรุงมาเป็นต้มยำจัดจ้านแบบไทยๆ ใส่นมกับน้ำพริกเผา แล้วปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ ใส่หมูบดลวกพอสุก แล้วยังมีกระดูกซุปที่ตุ๋นจนเปื่อยแล้วใส่มาให้ด้วย รสชาติก๋วยเตี๋ยวเข้มข้นหอมมันจัดจ้าน แทะกระดูกซุปไปด้วยเพลินๆ แค่นี้ก็หมดชามแบบไม่รู้ตัว


ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มย้ำน้ำข้น

        นอกจากเมนูที่ลองชิมไปแล้ว ที่ร้านก็ยังมีเมนูอร่อยๆ ให้เลือกลิ้มลองอีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นยาจีน (40 บาท) ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นไข่เยี่ยวม้า (45 บาท) บะหมี่หมูกรอบ (35 บาท) ข้าวหมูแดงหมูกรอบ (50 บาท) เป็นต้น
       
       ซึ่งหากใครมาลองชิมที่ร้านตั้งแต่วันนี้-14 ธ.ค. 57 ทางร้านยังมีส่วนลดให้เมนูละ 5 บาท สำหรับคนที่แจ้งว่ามาจาก ASTV ผู้จัดการ
       
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       ร้าน “โพธิ์พระยา” ตั้งอยู่ที่ 200/214 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม การเดินทางใช้ถนนบรมราชชนนี แล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 (มุ่งหน้า ม.มหิดล) วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนถึงจุดกลับรถหอนาฬิกา เมื่อกลับรถแล้วให้ชิดซ้าย เลี้ยวเข้าซอยศาลายา 3 ตรงมาจนเจอสามแยก แล้วเลี้ยวขวา จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ สามารถจอดรถได้หน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น. โทร. 08-9350-0636


รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "โพธิ์พระยา"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    14 พฤศจิกายน 2557 16:34 น.

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000131503-



ชื่อร้าน : โพธิ์พระยา
       
       ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว,อาหารจานเดียว
       
       เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำแดงตุ๋นยาจีน,กวยจั๊บหมูตุ๋น,กวยจั๊บหมูกรอบไข่เยี่ยวม้า,ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มย้ำน้ำข้น
       
       บรรยากาศร้าน : ห้องแถว
       
       ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 200/214 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม การเดินทางใช้ถนนบรมราชชนนี แล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 (มุ่งหน้า ม.มหิดล) วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนถึงจุดกลับรถหอนาฬิกา เมื่อกลับรถแล้วให้ชิดซ้าย เลี้ยวเข้าซอยศาลายา 3 ตรงมาจนเจอสามแยก แล้วเลี้ยวขวา จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ
       
       สถานที่จอดรถ : ด้านหน้าร้าน
       
       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
       
       เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-9350-0636

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา
« ตอบกลับ #97 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2014, 06:08:25 am »
7 เมนูมาม่า จานเดียวทำง่าย อร่อยได้ในราคาประหยัด

-http://cooking.kapook.com/view103447.html-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เลิกกินมาม่าแบบฉีกซองแล้วเทน้ำร้อนเสียที เพราะวันนี้เรามีเมนูมาม่าเด็ด ๆ อีกหลากหลายเมนูมาฝาก ทั้งง่าย ทั้งประหยัด รับรองว่าเห็นแล้วต้องหิว !

          จะมีใครที่ไม่เคยกินมาม่าไหมเนี่ย ? ไม่ใช่แค่สิ้นเดือนเท่านั้นนะที่เราจะได้ฤกษ์แกะซองมาม่าออกมากิน เพราะมาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เราคุ้นเคยไม่ได้มีไว้แค่ฉีกซองเติมน้ำร้อนแล้วกินประทังชีวิตแค่สิ้นเดือนเท่านั้นนะคะ เพราะมาม่าซองละไม่กี่บาทสามารถนำไปทำเป็นเมนูอร่อย ๆ ได้อีกตั้งหลากหลายเมนู ไม่เชื่อก็ลองตามมาดู 7 เมนูมาม่า จานเดียวทำง่าย อร่อยได้ในราคาประหยัด ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝาก แล้วจะรู้ว่า มาม่านั้นมีดีกว่าที่คิด



 1. มาม่ายำปลากระป๋อง
         
          เริ่มต้นเมนูมาม่ากันด้วย มาม่ายำปลากระป๋อง เมนูเบสิก ๆ ที่เป็นการจับคู่หูเพื่อนซี้ยามสิ้นเดือนอย่างมาม่ากับปลากระป๋องมายำรวมกัน เพิ่มความแซ่บ ความอร่อย และแน่นเครื่องมากยิ่งขึ้น เป็นสูตรเด็ด ๆ มาจาก คุณ Am Nicha ส่วนผสมและเครื่องปรุงก็ไม่มีอะไรมา แป๊บเดียวก็ได้เมนูมาม่าง่าย ๆ อร่อย ๆ ไว้กินแล้ว (ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มาม่ายำปลากระป๋อง เมนูประหยัดสุดแซ่บแน่นเครื่อง)

 ส่วนผสม
         
          มาม่ารสต้มยำกุ้ง 2 ห่อ

          ปลากระป๋อง

          หอมใหญ่หั่นเป็นวง ๆ

          มะนาว 1 ซีก

          พริกขี้หนูซอย 3 เม็ด

          ผักชีเล็กน้อย สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ
         
          1. ต้มน้ำพอเดือดแล้วใส่เส้นมาม่าลงไปต้มสักครู่ จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ตักใส่ชาม เตรียมไว้
         
          2. เทปลากระป๋องใส่ชาม (เพราะถ้าเทลงไปในมาม่าเลยก็จะได้ทั้งเนื้อทั้งน้ำจะทำให้เลี่ยน) แล้วตักเนื้อปลาชิ้นสวย ๆ วางไว้บนเส้นมาม่า
         
          3. ใส่หอมใหญ่และพริกขี้หนูซอยวางลงไปให้สวยงาม ตามด้วยเครื่องปรุงมาม่า บีบมะนาวลงไป เทน้ำที่ต้มมาม่าลงไปให้พอท่วมเส้นนิด ๆ โรยผักชีเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ






2. ลาบมาม่า
         
          อีกหนึ่งเมนูมาม่าแซ่บ ๆ ที่อยากให้ลองนั่นก็คือ ลาบมาม่า จับเส้นมาม่ามาปรุงให้คล้ายกับลาบแบบอีสาน ที่สำคัญสูตรนี้ยังใส่ตับวัวเพิ่มความแซ่บและประโยชน์ที่มากขึ้นอีกด้วย เป็นสูตรมาจาก คุณนางสาวเซาะกราว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แถมวิธีทำก็ง่ายมาก ๆ ไม่ต้องปรุงรสให้เสียเวลาแค่ใช้ผงปรุงลาบ-น้ำตกซองเดียวก็อยู่แล้ว (ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลาบมาม่า ใส่ตับวัว เมนูสุดแซบทำง่ายสุด ๆ)

 ส่วนผสม
         
          เส้นมาม่า

          ตับวัว

          หอมแดงซอย

          มะนาว

          พริกชี้ฟ้า

          ต้นหอมผักชีซอย

          ผักชีฝรั่งซอย

          ผงปรุงลาบ-น้ำตกสำเร็จรูป

วิธีทำ
         
          1. ลวกเส้นมาม่าและตับวัวให้สุก ใส่ลงในอ่างผสม เตรียมไว้
         
          2. ใส่ส่วนผสมที่เหลือลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ






3. มาม่าปลาสลิดกรอบ
           
          อีกหนึ่งเมนูมาม่าที่ทำง่ายมาก ! ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่จับมาม่าลวกมาเติมเต็มความอร่อยด้วยปลาสลิดทอดกรอบกับผักอีกสัก 2-3 อย่าง ก็ได้เมนูมาม่าง่าย ๆ ชื่อว่า มาม่าปลาสลิดกรอบ หน้าตาดี๊ดีและได้ประโยชน์กว่าเดิม สูตรจาก iCooK (ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มาม่าปลาสลิด เปลี่ยนเมนูมาม่าให้มีสาระแบบง่าย ๆ)


 ส่วนผสม
         
          มาม่ารสชาติตามชอบ 1 ซอง

          หน่อไม้ฝรั่ง (หรือผักอื่น ๆ ตามชอบ)

          พริกชี้ฟ้าแดงหั่น

          ปลาสลิดทอดกรอบ

วิธีทำ
         
          1. ลวกมาม่ากับหน่อไม้ฝรั่งจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำจนแห้ง

          2. ใส่ผงปรุงรสมาม่าและพริกชี้ฟ้าแดงลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน

          3. วางปลาสลิดทอดกรอบบนเส้นมาม่า แต่งด้วยใบโหระพาให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ





4. มาม่าผัดขี้เมาหมูกรอบ
           
          ใครที่ชอบกินมาม่าผัดหรือผัดมาม่าก็ต้องมาดูเมนูนี้สักหน่อย เติมความอร่อยให้มากยิ่งขึ้นกับเมนู มาม่าผัดขี้เมาหมูกรอบ แค่นึกถึงกลิ่นหอม ๆ ของผัดขี้เมาก็ลอยมาแล้ว แถมยังมีหมูกรอบเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้นอีก สาวกมาม่าน่าจะนำไปลองทำดูสักหน่อยนะ รับรองจะติดใจ

 ส่วนผสม
         
          มาม่ารสชาติตามชอบ 1 ซอง

          กระเทียม 3-5 กลีบ

          พริกขี้หนูแดง ปริมาณตามชอบ

          น้ำมันพืชสำหรับผัด

          หมูกรอบ 100 กรัม

          ข้าวโพดอ่อน (หั่นเฉียง) 50 กรัม

          ผักคะน้า (หั่นเฉียง) 1 ต้น

          พริกหยวกสีเขียว-แดง (หั่นเฉียง) อย่างละ 1 เม็ด

          ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

          น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

          น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

          ใบกะเพราเด็ดเป็นใบ 1 ต้น

วิธีทำ
           
          1. ต้มมาม่าในน้ำเดือดจนนิ่ม ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้

          2. โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูเข้าด้วยกันพอหยาบ เตรียมไว้

          3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง พอร้อนใส่กระเทียมกับพริกที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม จากนั้นใส่หมูกรอบ ข้าวโพดอ่อน พริกหยวก และคะน้าลงผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำลงไปเล็กน้อยตามด้วยมาม่าที่ต้มไว้ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบแล้วใส่ใบกะเพราลงผัดพอทั่ว ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ





5. มาม่าผัดขี้เมา (เจ)
           
          ถ้าใครอยากกินเมนูมาม่าผัดแบบไร้เนื้อสัตว์ดูบ้าง หรือใครที่กินมังสวิรัติประจำทุกวันพระหรือทุกวันเกิดก็คงจะต้องจัดเมนู มาม่าผัดขี้เมาเจ จานนี้เลย ที่นอกจากจะทำง่าย อิ่มท้อง และได้บุญเพราะไม่มีเนื้อสัตว์เลยสักนิดแล้ว มาม่าผัดขี้เมาจานนี้ยังมีแคลอรี่ต่ำอีกด้วย เป็นสูตรมาจาก คุณ Heng_Sunshine สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มาม่าผัดขี้เมาเจ เมนูเจง่าย ๆ กลิ่นหอมชวนหิว)

 ส่วนผสม
         
          บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ห่อ

          เต้าหู้แข็ง (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 1/2 ก้อน

          เห็ดหอม (แช่น้ำสับละเอียด) 3 ดอก

          พริกขี้หนูสวน (ทุบพอแตก) 1 ช้อนโต๊ะ

          กะหล่ำปลี (หั่นเป็นชิ้น) 1 ถ้วย

          ข้าวโพดอ่อน (หั่นเป็นชิ้น) 4 ดอก

          เห็ดหูหนูดำ (หั่นเป็นเส้น) 3 ช้อนโต๊ะ

          พริกชี้ฟ้า (หั่นเป็นเส้น) 1 เม็ด

          พริกไทยอ่อน 5 ช่อ

          ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต๊ะ

          ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง

          น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

          น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ
         
          1. ลวกเส้นมาม่าจนสุกพอคลายตัว ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วใส่น้ำมันพืชลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เคล้าให้เข้ากัน เตรียมไว้
         
          2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง ใส่เต้าหู้ลงทอด ตามด้วยเห็ดหอม ทอดพอเหลือง ตักใส่จาน เตรียมไว้
         
          3. เทน้ำมันจากการทอดเต้าหู้ออกให้เหลือแค่พอขลุกขลิกแล้วลดไฟลง ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนแล้วใส่พริกขี้หนูลงไปผัด จากนั้นใส่กะหล่ำปลี ข้าวโพดอ่อน และเห็ดหูหนูดำลงไปผัด
         
          4. ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ ผัดจนเริ่มมีกลิ่นหอม ใส่เส้นมาม่าลงไปผัด ใส่ซอสปรุงรสที่เหลือ ตามด้วยน้ำตาลทรายผัดให้เข้ากัน
         
          5. สุดท้ายใส่พริกไทยสด พริกชี้ฟ้าแดง และใบกะเพรา จากนั้นเปิดไฟแรงขึ้น แล้วรีบผัดจนเข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ






6. เบอร์เกอร์มาม่า
         
          ใครจะไปเชื่อว่าจะนำเส้นมาม่ามาทำเป็นเบอร์เกอร์ได้ แต่ได้เห็นเมนู ชีสเบอร์เกอร์เส้นมาม่า แล้วจะอึ้ง เป็นสูตรมาจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1738964 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เป็นการนำเส้นมาม่ามาใช้แทนแป้งเบอร์เกอร์ สอดไส้ด้วยเบอร์เกอร์เนื้อบด และเติมออฟชั่นให้แน่นคล้ายกับเบอร์เกอร์ทั่ว ๆ ไป แค่นึกภาพตามก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ มาดูวิธีแปลงร่างมาม่าให้เป็นเบอร์เกอร์สุดเก๋กันเลยดีกว่า (ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเบอร์เกอร์เส้นมาม่า เมนูสุดล้ำทำเองได้)

 ส่วนผสม
         
          เส้นมาม่า (ห่อใหญ่) 1 ห่อ

          ไข่ไก่ (ฟองใหญ่) 1 ฟอง

          เกลือป่น เล็กน้อย

          น้ำตาลทราย เล็กน้อย

          เนื้อบดหรือหมูบด 100 กรัม

          เบคอนสับ 2 เส้น

          พาร์มีซานชีส 1 ช้อนโต๊ะ

          เกล็ดขนมปัง 2 ช้อนโต๊ะ

          ไข่แดง 1 ฟอง

          เกลือป่นและพริกไทยป่น เล็กน้อย

          มายองเนส

          ซอสมะเขือเทศ

          มัสตาร์ด

          หอมใหญ่หั่นเป็นเส้น ๆ 1/2 หัว

          เนย 2 ช้อนชา

          น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

          เกลือป่นและพริกไทยป่น

          ไข่ไก่ 1 ฟอง

          ผักคอดหรือผักสลัดตามชอบ

          น้ำสลัดซีซาร์

          ชีสแผ่น

วิธีทำ
         
          1. นำเส้นมาม่าไปต้มอย่าให้เละมาก เทน้ำออกจนหมดแล้วตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ใส่เกลือป่นและน้ำตาลทรายเล็กน้อย เคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะทรงกลมที่รองด้วยพลาสติกถนอมอาหาร ทำทั้งหมด 2 ถ้วย แล้วนำมาซ้อนทับกัน นำไปแช่เย็นหรือช่องแช่แข็งประมาณ 10-15 นาที
         
          2. ผสมเนื้อบดกับเบคอนสับ พาร์มีซานชีส เกล็ดขนมปัง และไข่แดง ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น เคล้าผสมให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมแบน ห่อด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำเข้าแช่เย็น เตรียมไว้
         
          3. ทำซอสโดยผสมซอสมะเขือเทศ มายองเยส และมัสตาร์ดเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
         
          4. ผัดหอมใหญ่กับเนย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น และพริกไทยป่น ผัดจนนิ่มและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
         
          5. นำเส้นมาม่าออกจากพิมพ์ นำไปทอดด้วยไฟกลาง
         
          6. จากนั้นทอดเนื้อบดด้วยไฟแรงจนสุก
         
          7. ทำไข่น้ำโดยต้มน้ำกับน้ำส้มสายชูเล็กน้อย พอน้ำเริ่มเดือดให้ตอกไข่ใส่ลงไป ระวังอย่าให้แตก ต้มประมาณ 2 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
         
          8. ประกอบเบอร์เกอร์เข้าด้วยกันโดยวางเนื้อบดลงบนมาม่าบัน ตามด้วยชีส ทาซอสให้ทั่ว ประกบด้วยมาม่าบันอีกแผ่น ทับด้วยไข่น้ำ เสิร์ฟพร้อมหัวหอมผัด ผักสลัดราดน้ำสลัดซีซาร์





7. พิซซ่ามาม่า
         
          อีกหนึ่งเมนูที่จับเส้นมาม่าบ้าน ๆ มาดัดแปลงให้กลายเป็นเมนูใหม่ที่ดูดีและหรูหรากว่าเดิมกับเมนู พิซซ่ามาม่า ใช้เส้นมาม่าแทนแผ่นแป้งพิซซ่านั่นเอง ช่วยประหยัดงบประมาณไปได้เยอะเลยทีเดียว ทำก็ง่ายอีกด้วย เป็นเมนูมาม่าไอเดียเก๋ ๆ มาจาก คุณ yoyomax12 - the diet free zone สมาชิกเว็บไซต์ยูทูปดอทคอม (ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  พิซซ่ามาม่า ทางเลือกใหม่สุดง่าย เอาใจคนชอบพิซซ่า)

ส่วนผสม
         
          บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ห่อ

          ไข่ไก่ 2 ฟอง

          นมสด 1/4 ถ้วย

          เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

          ริคอตต้าชีส 1 ถ้วย

          ซอสพิซซ่า หรือซอสพาสต้า 1 ถ้วย

          มอสซาเรล่าชีสขูด 1 ถ้วย

วิธีทำ
         
          1. ต้มเส้นมาม่าในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
         
          2. ตีผสมไข่ไก่กับนมสด และเกลือจนเข้ากันดี แล้วใส่เส้นมาม่าลวกสุกลงไป ใช้ส้อมคลุกเคล้าให้ทั่ว ตักใส่ลงในพิมพ์วงกลม ใช้ส้อมเกลี่ยให้ทั่ว จากนั้นนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 425 องศาฟาเรนไฮต์ นานประมาณ 10 นาที นำออกจากเตาอบ
         
          3. ทาริคอตต้าชีสด้านบนมาม่าให้ทั่ว ตามด้วยซอสพิซซ่า เกลี่ยให้ทั่ว แล้วโรยมอสซาเรล่าชีสขูดลงไป นำเข้าอบต่ออีกประมาณ 15 นาทีจนชีสละลาย และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล นำออกจาเตา วางพักทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที  ก่อนตัดเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ

           บอกแล้วว่า เมนูมาม่าแต่ละจานที่เรานำมาเสิร์ฟ เด็ดโดนใจ น่ากิน น่าลองทำทุกเมนู ใครสนใจเมนูไหนก็รีบ ๆ เข้ามาจดสูตรกันให้ไวเลย


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ "รสเด็ด" และอีกหลากหลายร้านอร่อยไม่ไกลทุ่งทานตะวันเกษตร–นวมินทร์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005999-



ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเด็ด ร้าน “รสเด็ด”

        หากใครที่มีโอกาสแวะมาชม "ทุ่งทานตะวันเกษตร -นวมินทร์" ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังโรงเรียนสตรีวิทยา ตั้งเป็นแนวยาวอยู่ริมถนนประเสริฐมนูกิจหรือที่เรียกกันว่าถนนเกษตร -นวมินทร์ และกำลังมองหาร้านอาหารเพื่อเติมพลังหลังจากไปชมทุ่งทานตะวันมาหรือกำลังจะไปชมทุ่งทานตะวัน หากถามคนละแวกนั้นว่ามีร้านไหนน่าสนใจ หลายคนก็จะแนะนำให้มาชิมที่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเด็ดที่ ร้าน “รสเด็ด” ที่ตั้งอยู่ถนนเสนานิคม1 ซึ่งก็ไม่ไกลมากเพียงเลี้ยวเข้ามาในซอยเสนานิเวศน์ จากแยกซอยเสนานิเวศน์
       
       (คลิกติดตามเรื่อง “ชวนไปยิ้มแฉ่งแข่งทานตะวันกลางกรุง ณ ทุ่งทานตะวัน เกษตร -นวมินทร์” ได้ที่ลิงค์นี้  -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005914-)


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รสเด็ด และอีกหลากหลายร้านอร่อยไม่ไกลทุ่งทานตะวันเกษตร–นวมินทร์
ลูกชิ้นเอ็นเนื้อปิ้งราดน้ำจิ้มรสเด็ด ร้าน “รสเด็ด”

        ร้าน “รสเด็ด” เป็นร้านขายเตี๋ยวเนื้อที่เปิดขายมาแล้วกว่า 20 ปี ทางร้านมีเส้นหลากหลายให้ได้เลือกสั่ง พร้อมเสิร์ฟกับเนื้อสด เนื้อเปื่อย ลูกชิ้นเนื้อที่ถูกปรุงจนได้รสเด็ด หรือสามารถเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ในส่วนของน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวนั้นก็กลมกล่อมหอมน้ำต้มกระดูกสูตรพิเศษของทางร้าน อร่อยจนไม่ต้องปรุงสมกับชื่อของทางร้านรสเด็ดจริงๆ และหากใครที่ไม่กินเนื้อทางร้านก็มีก๋วยเตี๋ยวหมูให้ได้ชิมกันด้วย อีกทั้งยังมีลูกชิ้นปิ้งราดน้ำจิ้มรสเด็ดให้ได้ลองลิ้มชิมรส โดยมีให้เลือกทั้งลูกชิ้นเนื้อ-เอ็นเนื้อ ลูกชิ้นหมู-เอ็นหมู


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รสเด็ด และอีกหลากหลายร้านอร่อยไม่ไกลทุ่งทานตะวันเกษตร–นวมินทร์
ขนมจีนน้ำเงี้ยว ร้าน “สุโขทัยหม้อดิน”

        และที่ละแวกเสนานิคม1 ก็ยังมีร้านอาหารอื่นๆ ให้ได้ลองชิมกันอีกด้วย อาทิ ร้าน “สุโขทัยหม้อดิน” ที่มีเอกลักษณ์คือ ได้นำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นชาวสุโขทัย โดยใช้หม้อดินที่เป็นเครื่องปั้นดินเผาจาก อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย มาเป็นภาชนะเสิร์ฟเมนูอาหารของทางร้าน เช่น ขนมจีน ของหวานและก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย
       
       (คลิกติดตามเรื่องกินร้าน “สุโขทัยหม้อดิน”” ได้ที่ลิงค์นี้ -http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031414-)


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รสเด็ด และอีกหลากหลายร้านอร่อยไม่ไกลทุ่งทานตะวันเกษตร–นวมินทร์
ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก+กากหมู ร้าน “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ”

        หรือที่ ร้าน “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ที่มีก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาสูตรดั้งเดิม รสชาติแซบ จี๊ดจ๊าด ให้ได้มาลองชิม ร้านนี้ก็เปิดขายมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือแบบอยุธยาที่นำมาปรับปรุงรสชาติให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และมีให้เลือกกินทั้งหมูและเนื้อ แยกหม้อกัน นอกจากนี้ ทางร้านยังมีผักสดให้เลือกหยิบกันได้ตามชอบ ทั้งใบโหระพา ผักชีฝรั่ง และถั่วงอกดิบ
       
       (คลิกติดตามเรื่องกินร้าน “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ได้ที่ลิงค์นี้  -http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9550000154441-)
       
       มีร้านอาหารมากมายใกล้ๆ ทุ่งทานตะวันแบบนี้ ก็สามารถโพสท่าถ่ายรูปกับดอกทานตะวันได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวหมดพลัง เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้องสถานที่เติมพลังกันอีกต่อไป
       
       **************************************************************************************************************
       
       ร้านรสเด็ด อยู่ที่ ซอยเสนานิเวศน์ 1 ถนนเสนานิคม 1 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10310 เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น. โทร.0-2578-1912





คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” คั่วไก่เจ้าเก่า กรอบนอกนุ่มใน อร่อยโดนใจคนชิม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000002135-




ที่นั่งของร้าน

        ว่ากันว่า แถวๆ ซอยสวนมะลิ ย่านพลับพลาไชยนั้น เป็นย่านของร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่อร่อยๆ อยู่หลายร้าน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ “ผ่านมาแวะกิน” ชื่นชอบเหมือนกัน ยิ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วที่คั่วบนเตาถ่าน ก็จะยิ่งหอมหวนชวนอร่อยมากยิ่งขึ้น
       
       ซึ่งร้านที่จะชวนมาชิมมื้อนี้ เขาก็เปิดขายก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่มานมนานแล้ว ร้านนี้ชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” อยู่ในซอยเทวีวรญาติ


“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” คั่วไก่เจ้าเก่า กรอบนอกนุ่มใน อร่อยโดนใจคนชิม
ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ทำใหม่ๆ จากเตาถ่าน

        ความอร่อยโดดเด่นของร้านนี้อยู่ที่การใช้เตาถ่านร้อนๆ ไฟแรงๆ คั่วเส้นจนหอมและกรอบนอกนุ่มใน โดยจะใช้เทคนิคส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่แต่ละจานนั้นออกมาอร่อยโดนใจ
       
       ที่ร้านนี้จะมีเส้นให้เลือก 3 อย่าง คือ ส้นใหญ่ เส้นหมี่ และบะหมี่ ซึ่งลูกค้าก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้นำเส้นไปผัดเป็นก๋วยเตี๋ยวคั่ว หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำ


“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” คั่วไก่เจ้าเก่า กรอบนอกนุ่มใน อร่อยโดนใจคนชิม
เมนูคั่วอบ ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปด้านบน

        อย่างเมนูเด็ดของร้านก็ต้องยกให้ ก๋วยเตี๋ยวคั่วอบ (50 บาท) ซึ่งเราเลือกเป็นเส้นใหญ่คั่วอบ จานนี้จะใส่มาทั้งไก่ที่เลือกใช้เนื้อไก่ล้วนๆ ส่วนสะโพก นำมาเลาะหนังออก แล้วหมักด้วยสูตรของทางร้าน และยังใส่หมึกกรอบ ที่เลือกมาเป็นอย่างดี วิธีการทำก๋วยเตี๋ยวคั่วอบก็คือ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ใส่ไก่ลงไปผัด ใส่หมึกกรอบ แล้วใส่เส้นใหญ่ลงไปผัดคั่วให้กรอบนอกนุ่มใน ใส่ไข่ไก่ แล้วปรุงรส ผัดคั่วต่อจนได้ที่ จากนั้นตอกไข่อีกฟองลงไปด้านบน ปิดฝาเพื่ออบไข่ให้สุกเล็กน้อย เสร็จแล้วเสิร์ฟพร้อมกับผักกาดหอม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย


“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” คั่วไก่เจ้าเก่า กรอบนอกนุ่มใน อร่อยโดนใจคนชิม
ก๋วยเตี๋ยวคั่วอบ

        ก๋วยเตี๋ยวคั่วอบมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ กลิ่นหอมหวนชวนกินเลยทีเดียว ลองชิมเส้นที่กรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นกระทะจากการคั่วบนเตาถ่าน เนื้อไก่ก็นุ่มหอมมีรสเค็มนิดๆ เวลากินคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน ไข่อบที่ยังเยิ้มๆ คลุกเคล้าเข้ากับเส้นใหญ่กรอบนอกนุ่มใน ช่วยเพิ่มความมันและความหอม ลองปรุงรสเพิ่มอีกนิดด้วยซอสพริก พริกป่น และน้ำส้มพริกดอง ช่วยเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นขึ้นอีกนิด ก๋วยเตี๋ยวคั่วอบจานนี้อร่อยถูกปากจริงๆ


“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” คั่วไก่เจ้าเก่า กรอบนอกนุ่มใน อร่อยโดนใจคนชิม
ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

        หันมาชิม ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (40 บาท) กันดูบ้าง จานนี้ก็มีวิธีการผัดคั่วเหมือนๆ กัน คือต้องใส่ไก่ลงไปคั่วก่อน ตามด้วยหมึกกรอบและเส้นใหญ่ที่จะคั่วจนกรอบนอกนุ่มใน ใส่ไข่ลงไปแล้วผัดคั่วจนได้ที่ เสร็จแล้วก็ตักเสิร์ฟพร้อมกับผักกาดหอมได้เลย ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่จานนี้ก็หอมหวน รสชาติกลมกล่อม เส้นกรอบนอกนุ่มในเช่นกัน
       
       นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนู ก๋วยเตี๋ยวอบ (40 บาท) ก็คือก๋วยเตี๋ยวคั่วที่ไม่ใส่ไข่ลงไปผัดคั่วพร้อมกับเส้น แต่จะตอกไข่ใส่ด้านบนทีหลัง แล้วปิดฝาอบ และยังมี ก๋วยเตี๋ยวน้ำ (40 บาท) ที่จะลวกเส้นที่ลูกค้าเลือก ใส่ไก่และหมึกกรอบ มาในน้ำซุปร้อนๆ ที่เคี่ยวจนได้รสกลมกล่อม หรือจะเลือก ก๋วยเตี๋ยวลวก (40 บาท) ที่เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง ก็อร่อยเช่นกัน
       
       ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” แห่งนี้ ต้องลองมาชิมให้ได้สักครั้ง จะได้ลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่กรอบนอกนุ่มในแบบไม่เหมือนใคร

        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง” ตั้งอยู่ที่ 266/1 ซ.เทวีวรญาติ แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศักตรูพ่าย กทม. การเดินทางจากห้าแยกพลับพลาไชยตรงมาที่ถนนหลวง มุ่งหน้า รพ.กลาง สังเกตทางขวามือจะเห็นซอยเล็กๆ เป็นซอยแรกจากห้าแยก ให้เดินเลี้ยวเข้าซอย ตรงเข้าไปเล็กน้อยแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปจนเจอสามแยก จะเห็นร้านตั้งอยู่ตรงหัวมุมขวามือ ในละแวกร้านไม่มีที่จอดรถ แต่สามารถไปจอดที่วัดเทพศิรินทร์แล้วเดินมาได้ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 16.00-22.30 น. โทร.0-2222-4047 ร้านมีอีกสาขา คือ สาขาสะพานขาว ตั้งอยู่ในซอยลูกหลวง 8 อยู่ติดกับก๋วยเตี๋ยวญวน





คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)