ผู้เขียน หัวข้อ: มิลินทปัญหา  (อ่าน 107310 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #270 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 10:00:37 am »

ปัญหาที่ ๕ ถามความมีชีวิตแห่งน้ำ

" ข้าแต่พระนาคเสน เวลาน้ำถูกความร้อนย่อมมีเสียงร้องต่าง ๆ น้ำมีชีวิตหรืออย่างไร ? "
" น้ำไม่มีชีวิต ขอถวายพระพร ก็แต่ว่าเวลาน้ำถูกความร้อนด้วยไฟ ก็ย่อมมีเสียง "

" ข้าแต่พระนาคเสน พวกเดียรถีย์บางพวกถือว่าน้ำมีชีวิต เขาจึงไม่ใช้น้ำเย็น ใช้แต่น้ำที่ต้มแล้วเท่านั้น ทั้งเขาติเตียนชาวพุทธว่าพวกสมณศากยบุตรเบียดเบียนของที่มีชีวิตอินทรีย์อันเดียว ขอพระผู้เป็นเจ้าจงปลดเปลื้องข้อครหานั้นเสียเถิด พระคุณเจ้าข้า "

" ขอถวายพระพร น้ำไม่มีชีวิตเลย ชีพหรือสัตว์ไม่มีอยู่ในน้ำ ก็แต่ว่าน้ำมีเสียงดังได้ด้วยกำลังความร้อนแห่งไฟ เปรียบเหมือนน้ำอันตกลงในบึง ในสระ ในหนอง ในซอกเขา ในบ่อน้ำ ในที่ลุ่ม ในสระโบกขรณี ก็มีเสียงดังฉะนั้น อีกประการหนึ่ง ขอมหาบพิตรได้ทรงสดับเหตุให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้ คือน้ำอันบุคคลใส่ลงไปในข้าวสาร แล้วยกขึ้นตั้งบนเตาไฟ น้ำจะมีเสียงดังไหม ? "
" ไม่มีเสียงดัง พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร เวลาภาชนะน้ำนั้น ถูกยกขึ้นตั้งบนเตาไฟ น้ำจะนิ่งสงบอยู่ไหม ? "
" ไม่นิ่งสงบ พระผู้เป็นเจ้า น้ำนั้นจะต้องเดือดมีฟองข้าวล้นออกไป "

" เพราะเหตุไร น้ำปกติจึงนิ่งสงบ ส่วนน้ำที่ร้อนด้วยไฟจึงเดือดพล่าน ? "
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า น้ำปกตินิ่งอยู่ ส่วนที่ร้อนด้วยไฟย่อมมีเสียงดัง เพราะกำลังความร้อนแห่งไฟ "

" ขอถวายพระพร ถึงเหตุอันนี้ก็เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า น้ำไม่มีชีวิต ขอพระองค์จงสดับเหตุให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก คือน้ำที่อยู่ในภาชนะน้ำในบ้าน เขาปิดไว้ไม่ใช่หรือ ? "
" ใช่ พระผู้เป็นเจ้า "

" ก็น้ำนั้นเดือดพล่านหรือไม่ ? "
" ไม่เดือด พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร มหาบพิตรได้เคยทรงสดับหรือไม่ว่า น้ำในมหาสมุทรเป็นลูกคลื่นมีเสียงดังลั่นอยู่เสมอ ? "
" เคยสดับ พระผู้เป็นเจ้า "


" ขอถวายพระพร เหตุไรน้ำในขันที่เขาปิดไว้ จึงไม่เป็นลูกคลื่น ไม่มีเสียงดัง ส่วนน้ำในมหาสมุทรมีลูกคลื่น มีเสียงดัง ? "
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า การที่น้ำในมหาสมุทรเป็นลูกคลื่น มีเสียงดังนั้น เพราะกำลังของลมพัดส่วนน้ำในขันน้ำที่เขาปิดไว้นั้น ไม่ถูกลมพัด "

" ขอถวายพระพร น้ำในมหาสมุทรเป็นลูกคลื่นมีเสียงดัง เพราะกำลังลมฉันใด น้ำที่ต้มบนเตาไฟก็มีเสียงดัง เพราะกำลังความร้อนฉันนั้น ขอถวายพระพร ธรรมดาหน้ากลองเขาย่อมหุ้มด้วยหนังแห้งไม่ใช่หรือ ? "
" ใช่ พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร กลองเป็นของมีชีวิตจิตใจหรือไม่ ? "
" ไม่มี พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร กลองไม่มีชีวิตจิตใจแต่เหตุไรจึงมีเสียงดัง ? "
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า กลองมีเสียงดังด้วยความพยายาม อันเกิดจากสตรีหรือบุรุษ "

" ขอถวายพระพร กลองมีเสียงดังได้ด้วยความพยามยามของสตรีหรือบุรุษฉันใด น้ำก็มีเสียงดังได้ด้วยความร้อนฉันนั้น เหตุอันนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า น้ำไม่มีชีวิตจิตใจ แต่มีเสียงดังได้เพราะความร้อนแห่งไฟ ขอถวายพระพร ปัญหาที่มหาบพิตรได้ตรัสถามมาแล้ว ก็ได้แก้ถวายดีแล้วทั้งนั้น จึงขอถามมหาบพิตรว่า น้ำในภาชนะทั้งปวงเมื่อถูกร้อนก็ดังเหมือนกันทั้งนั้น หรือดังเป็นบางภาชนะ ? "
" ไม่ดังเหมือนกันหมด ดังเป็นบางภาชนะ พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นอันว่ามหาบพิตรได้ทิ้งความเห็นของพระองค์ กลับเข้าหาความเห็นของอาตมาภาพแล้วว่า น้ำที่ไม่มีชีวิตจิตใจ ขอถวายพระพร
ถ้าน้ำในภาชนะทั้งปวงเมื่อถูกร้อนก็ดังเหมือนกันหมด คำกล่าวว่า น้ำมีชีวิตก็สมควร เพราะน้ำไม่ได้แยกออกไปเป็นสอง คือ มีชีวิตก็มี ไม่มีชีวิตก็มี ขอถวายพระพร

ถ้าน้ำมีชีวิต เวลาฝูงช้างลงเล่นน้ำ ดูดน้ำเข้าไปทางงวง แล้วใส่เข้าไปในปากไหลเข้าไปในท้อง น้ำก็ต้องมีเสียงร้อง หรือเวลาสำเภาใหญ่ ๆ บรรทุกเต็มไปด้วยสินค้าแล่นไปในมหาสมุทร น้ำที่ถูกสำเภาเบียดเสียด ก็ต้องมีเสียงร้อง หรือเวลาปลาใหญ่ ๆ ตัวยาวตั้งหลายร้อยโยชน์ คือ ปลาติมิติมิงคละ ดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำมหาสมุทร ถ้าน้ำมีชีวิตก็ต้องร้องเพราะเหตุน้ำไม่มีชีวิตจึงไม่ร้อง "

พระเจ้ามิลินท์ตรัสยกย่องว่า
" สาธุ...พระนาคเสน ปัญหาอันถึงซึ่งการแสดง พระผู้เป็นเจ้าได้แจงออกไว้ ด้วยการแจงสมควรแล้วทั้งนั้น เปรียบเหมือนแก้วมณีที่มีค่ามาก เมื่อส่งไปถึงนายช่างผู้ฉลาด เขาก็ทำให้ดียิ่งขึ้น หรือแก้วมุกดา แก่นจันทน์แดงอันน่าสรรเสริญฉะนั้น "


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #271 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 10:09:01 am »

ปัญหาที่ ๖ ถามถึงความเป็นพระอรหันต์แห่งคฤหัสถ์

ปัญหาข้อนี้ซ้ำกับ เมณฑกปัญหา วรรคที่ ๖ ปัญหาที่ ๓

ปัญหาที่ ๗ ถามถึงสิ่งที่ไม่มีในโลก

" ข้าแต่พระนาคเสน ในโลกนี้ย่อมปรากฏมีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสาวก พระเจ้าจักรพรรดิ พระเจ้าประเทศราช เทวดา มนุษย์ ผู้มีทรัพย์ ผู้ไม่มีทรัพย์ ผู้ไปดี ผู้ไปไม่ดี เพศหญิง เพศชาย กรรมดีกรรมชั่ว ผลของกรรมดีกรรมชั่ว สัตว์ที่เกิดในฟองไข่ เกิดในท้องแม่ เกิดในเหงื่อไคล เกิดขึ้นเอง ไม่มีเท้าก็มี มีเพียง ๒ เท้า ๔ เท้า หลายเท้าก็มี มีทั้งยักษ์ รากษส กุมภัณฑ์ อสูร ทานพ คนธรรพ์ เปรต ปีศาจ กินนร นาค ครุฑ ฤๅษี วิชาธร ช้าง ม้า โค กระบือ อูฐ ลา แพะ แกะ เนื้อ สุกร สิงห์ พยัคฆ์ เสือเหลือง หมี เสือดาว หมาไน สุนัขบ้าน สุนัขป่า นกต่าง ๆ ทอง เงิน มุกดา มณี สังข์ ศิลา ประพาฬ แก้วแดง แก้วลาย แก้วไพฑูรย์ เพชร แก้วผลึก เหล็ก ทองแดง แร่เงิน แร่สัมฤทธิ์ ผ้าป่าน ผ้าไหม ผ้าด้าย ป่าน ปอ ขนสัตว์ ข้าวไม่มีเปลือก ข้าวมีเปลือก ข้าวละมาน หญ้ากันแก้ ลูกเดือย หญ้าละมาน ถั่วเขียว ถั่วเหลือง งา ถั่วพู ต้นไม้ที่มีรากหอม มีแก่นหอม มีกระพี้หอม มีเปลือกหอม มีใบหอม มีดอกหอม มีผลหอม มีข้อหอม หญ้า เครือไม้ กอไม้ ต้นไม้ ดวงดาว ต้นไม้ใหญ่ แม่น้ำ ภูเขา ทะเล ปลา เต่า เป็นอันมาก สิ่งเหล่านี้มีปรากฏอยู่ในโลกทั้งนั้น สิ่งที่ไม่มีในโลก ถ้ามีอยู่ขอจงบอกให้แก่โยมด้วย "

พระนาคเสนตอบว่า
" ขอถวายพระพร สิ่งที่ไม่มีในโลกมีอยู่ ๓ ประการ คือ

๑. สิ่งที่มีเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ตาม จะไม่แก่ไม่ตาย ไม่มีในโลก
๒. ความเที่ยงแห่งสังขารทั้งหลายไม่มี
๓. เมื่อว่าตามปรมัตถ์แล้ว คำว่าสัตว์บุคคลไม่มี


รวมเป็นของไม่มีอยู่ในโลก ๓ อย่างนี้แหละ มหาบพิตร "
" สาธุ...พระนาคเสน ปัญหาข้อนี้พระผู้เป็นเจ้ากล่าวแก้ถูกต้องดีแล้ว "

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #272 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 10:25:19 am »

ปัญหาที่ ๘ ถามถึงความเผลอสติของพระอรหันต์

" ข้าแต่พระนาคเสน ความเผลอสติของพระอรหันต์มีอยู่หรือ ? "
" ขอถวายพระพร ไม่มี "

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระอรหันต์ต้องอาบัติบ้างหรือไม่ ? "
" ขอถวายพระพร ต้อง "

" ต้องเพราะวัตถุอะไร? "
" ขอถวายพระพร ต้องด้วยสำคัญผิดคือเวลาวิกาล เข้าใจว่าเป็นกาลก็มี ห้ามการรับประเคนแล้ว เข้าใจว่าไม่ได้ห้ามก็มี อาหารที่ไม่เป็นเดนภิกษุไข้ เข้าใจว่าเป็นเดนภิกษุไข้ก็มี "

" ข้าแต่พระนาคเสน ภิกษุย่อมต้องอาบัติด้วยอาการ ๒ คือ ด้วยความไม่เอื้อเฟื้อ ๑ ด้วยความไม่รู้ ๑ พระอรหันต์ต้องอาบัติด้วยความไม่เอื้อเฟื้อมีอยู่หรือ ? "
" ไม่มีเลย มหาบพิตร "

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าพระอรหันต์ยังต้องอาบัติอยู่ แต่ความไม่เอื้อเฟื้อย่อมไม่มีแก่พระอรหันต์ ถ้าอย่างนั้นความเผลอสติ ก็มีแก่พระอรหันต์น่ะซิ "
" ไม่มี มหาบพิตร เป็นแต่พระอรหันต์ยังต้องอาบัติอยู่ "

" ถ้าอย่างนั้น ขอพระผู้เป็นเจ้าจงให้โยมเข้าใจในข้อนี้ว่า เป็นเพราะอะไร ? "
" ขอถวายพระพร ลักษณะแห่งโทษมีอยู่ ๒ ประการ คือ

เป็นโลกวัชชะ ๑
เป็นปัณณัตติวัชชะ ๑


ที่เป็นโลกวัชชะ ( เป็นโทษทางโลก ) นั้นได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐
ที่เป็นปัณณัตติวัชชะ ( เป็นโทษทางพระวินัย ) นั้น ได้แก่ สิกขาบทที่ทรงบัญญัติ ไว้สำหรับพระภิกษุสาวกทั้งหลาย อย่าง วิกาลโภชนสิกขาบท คือการฉันอาหารในเวลาวิกาล เป็นโทษในทางพระวินัย แต่ไม่เป็นโทษทางโลก

หรือ การทำให้ภูตคามเคลื่อนที่ คือการตัดต้นไม้ใบหญ้า เป็นต้น เป็นโทษทางพระวินัย แต่ไม่เป็นโทษทางโลก
การว่ายน้ำเล่น เป็นโทษทางพระวินัย แต่ไม่เป็นโทษทางโลก
สิ่งที่เป็นโทษทางพระวินัยนี้แหละ เรียกว่า " ปัณณัตติวัชชะ "

ส่วนที่เป็นโทษทางโลกนั้น พระอรหันต์ไม่ทำอย่างเด็ดขาด สิ่งที่เป็นโทษทางวินัย เมื่อยังไม่รู้ก็ทำ เพราะว่าการรู้สิ่งทั้งปวงไม่ใช่วิสัยของพระอรหันต์ทั่วไป

สิ่งที่พระอรหันต์ไม่รู้ก็มี เช่น นามและโคตรแห่งสตรีบุรุษ พระอรหันต์รู้ได้เฉพาะวิมุตติ คือการหลุดพ้นก็มี
พระอรหันต์ขั้นอภิญญา ๖ ก็รู้เฉพาะในวิสัยแห่งตน สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าเท่านั้น จึงจะรู้หมด ขอถวายพระพร "
" ถูกต้อง พระนาคเสน "

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #273 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 11:07:56 am »

ปัญหาที่ ๙ ถามถึงความมีอยู่แห่งนิพพาน

พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า
" ข้าแต่พระนาคเสน สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยกรรม สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเหตุ สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยฤดู มีปรากฏอยู่ในโลกแล้ว สิ่งใดที่ไม่เกิดด้วยกรรม ไม่เกิดด้วยเหตุ ไม่เกิดด้วยฤดู ขอพระผู้เป็นเจ้าจงบอกสิ่งนั้นแก่โยม "

พระนาคเสนตอบว่า
" ขอถวายพระพร สิ่งที่ไม่เกิดด้วยกรรม ไม่เกิดด้วยเหตุ ไม่เกิดด้วยฤดูนั้น มีอยู่ ๒ คือ อากาศ ๑ นิพพาน ๑ "
" ข้าแต่พระนาคเสน ขอพระผู้เป็นเจ้าจงอย่าลบล้างคำของพระพุทธเจ้า ไม่รู้ก็อย่าแก้ปัญหานี้ "
" ขอถวายพระพร เหตุใดอาตมภาพจึงว่าอย่างนี้ และเหตุใดมหาบพิตรจึงห้ามอาตมภาพอย่างนี้ ? "

พระเจ้ามิลินท์ตรัสต่อไปว่า
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เพราะไม่ควรกล่าวว่า อากาศไม่เกิดด้วยกรรม ไม่เกิดด้วยเหตุ ไม่เกิดด้วยฤดู สมเด็จพระบรมครูได้ทรงบอกทางสำเร็จนิพพานให้แก่พระสาวก ด้วยเหตุหลายร้อยอย่าง พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า นิพพานไม่เกิดด้วยเหตุ "

พระนาคเสนเฉลยว่า
" ขอถวายพระพร สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ได้ทรงบอกทางสำเร็จนิพพานแก่พวกสาวกด้วยเหตุหลายร้อยอย่างจริง แต่ไม่ใช่ทรงบอกเหตุให้เกิดนิพพาน "

พระเจ้ามิลินท์ตรัสแย้งอีกว่า
" ข้าแต่พระนาคเสน ในข้อนี้เท่ากับโยมออกจากที่มืดเข้าไปสู่ที่มืด ออกจากป่าเข้าสู่ป่าอีก ออกจากที่รกเข้าสู่ที่รกอีก เพราะเหตุให้สำเร็จพระนิพพานมีอยู่ แต่เหตุให้เกิดนิพพานไม่มี ถ้าเหตุให้สำเร็จนิพพานมีอยู่ เหตุให้เกิดนิพพานก็ต้องมี เหมือนบิดามีอยู่ เหตุที่ให้เกิดบิดาก็ต้องมีอยู่ อาจารย์มีอยู่ เหตุที่ให้เกิดอาจารย์นั้นก็ต้องมีอยู่ พืชมีอยู่ เหตุให้เกิดพืชนั้นก็ต้องมีอยู่ หรือเมื่อยอดแห่งต้นไม้มีอยู่ ตอนกลางและรากก็ต้องมี "

พระนาคเสนตอบว่า
" ขอถวายพระพร มหาราชะ นิพพานเป็น อนุปาทานียะ คือไม่เป็นที่ตั้งแห่งอุปาทานเพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุ "
" ขอพระผู้เป็นเจ้าจงแสดงให้โยมเข้าใจว่า เหตุให้สำเร็จนิพพานมีอยู่ แต่เหตุให้เกิดนิพพานไม่มี "
" ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้น ขอมหาบพิตรตั้งพระโสตลงสดับ อาตมภาพจักแสดงถวาย คือบุรุษอาจจากที่นี้ไปถึงเขาหิมพานต์ได้ตามกำลังปกติหรือ ? "
" ได้ พระผู้เป็นเจ้า "

" ขอถวายพระพร บุรุษนั้นอาจนำภูเขาหิมพานต์ มาไว้ในที่นี้ได้กำลังตามปกติหรือ ? "
" ไม่อาจ พระผู้เป็นเจ้า "
" ขอถวายพระพร ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละคือบุคคลอาจบอกทางสำเร็จนิพพานได้ แต่ไม่อาจบอกเหตุให้เกิดนิพพานได้ "
" ขอถวายพระพร บุรุษอาจข้ามมหาสมุทรไปได้ ด้วยเรือตามกำลังปกติไหม ? "
" อาจได้ พระผู้เป็นเจ้า "
" ก็บุรุษนั้นอาจนำเอาฝั่งมหาสมุทรข้างโน้นมาตั้งไว้ข้างนี้ ด้วยกำลังตามปกติไหม ? "
" ไม่อาจ พระผู้เป็นเจ้า "

" ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือทางสำเร็จนิพพานนั้นอาจบอกได้ แต่ไม่อาจบอกเหตุให้เกิดนิพพานได้ เพราะนิพพานเป็น อสังขตธรรม " ( ธรรมที่ไม่มีอะไรปรุงแต่ง )
" ข้าแต่พระนาคเสน นิพพานเป็นอสังขตธรรม ไม่มีใครอาจบอกได้อย่างนั้นหรือ ? "

" อย่างนั้นมหาบพิตร นิพพานเป็นอสังขตธรรม ไม่มีอะไรตกแต่งได้ ไม่มีอะไรกระทำได้นิพพานเป็นของไม่ควรกล่าวว่า เกิดขึ้นแล้วหรือยังไม่เกิด หรือจักต้องเกิด ไม่ควรกล่าวว่า เป็นอดีต หรืออนาคต หรือปัจจุบัน ไม่ควรกล่าวว่า เป็นของต้องเห็นด้วยตา เป็นของต้องได้ยินด้วยหู รู้ด้วยจมูก ลิ้น กาย อย่างใดเลย "

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเป็นอย่างนั้นนิพพานก็เป็นความไม่มีเป็นธรรมดา เราพูดได้ว่านิพพานไม่มีอย่างนั้นซิ "

" ขอถวายพระพร นิพพานเป็นของต้องรู้ด้วยใจ พระอริยสาวกผู้ปฏิบัติชอบแล้ว ย่อมได้เห็นนิพพาน ด้วยใจอันบริสุทธิ์ อันสงบอันประณีต อันเที่ยงตรง อันไม่มีเครื่องกั้นกางอันไม่มีอามิส "


" ข้าแต่พระนาคเสน นิพพานนั้นเป็นเช่นไร ขอจงให้โยมเข้าใจด้วยคำอุปมา คือด้วยการเปรียบกับสิ่งที่มีอยู่ รู้อยู่ตามธรรมดา "
" ขอถวายพระพร ลมมีอยู่หรือ ? "
" มีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า "
" ถ้าอย่างนั้น ขอมหาบพิตรจงแสดงลมให้อาตมภาพเป็นด้วยสี สัณฐาน น้อย ใหญ่ ยาว สั้น "
" ไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า เพราะไม่ใครอาจจับต้องลมได้ แต่ว่าลมนั้นมีอยู่ "

" ขอถวายพระพร ถ้าไม่อาจชี้ลมได้ว่าลมมีสี สัณฐาน เล็ก ใหญ่ ยาว สั้น อย่างไรลมก็ไม่มีน่ะซิ ? "
" มี พระผู้เป็นเจ้า โยมรู้อยู่เต็มใจว่าลมมี แต่ไม่อาจแสดงลมให้เห็นได้ "
" ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร นิพพานมีอยู่จริง แต่ว่าไม่มีใครอาจแสดงให้เห็นได้ว่า นิพพานมีสี สัณฐาน เล็ก ใหญ่ ยาว สั้น อย่างไร "


" ข้าแต่พระนาคเสน โยมเข้าใจได้ดีตามข้ออุปมาแล้ว โยมยอมรับว่านิพพานมีจริง "

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #274 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 11:50:55 am »

ปัญหาที่ ๑๐ ถามถึงสิ่งที่เกิดจากกรรมและไม่เกิดจากกรรม

" ข้าแต่พระนาคเสน อะไรเกิดด้วยกรรม เกิดด้วยเหตุ เกิดด้วยฤดู และอะไรไม่เกิดด้วยกรรม ไม่เกิดด้วยเหตุ ไม่เกิดด้วยฤดู ? "

" ขอถวายพระพร พวกสัตว์ที่มีจิตใจทั้งสิ้นเกิดด้วยกรรม ไฟกับพืชทั้งสิ้นเกิดด้วยเหตุ แผ่นดิน ภูเขา น้ำ ลม ทั้งสิ้นเกิดด้วยฤดู อากาศ กับนิพพานไม่เกิดด้วยกรรม ไม่เกิดด้วยเหตุ ไม่เกิดด้วยฤดู นิพพาน ใคร ๆ ไม่ควรกล่าวว่า เกิดด้วยกรรม หรือเกิดด้วยเหตุ เกิดด้วยฤดู และไม่ควรกล่าวว่า เป็นของเกิดอยู่แล้ว หรือยังไม่เกิดหรือจักต้องเกิด ไม่ควรกล่าวว่า เป็นอดีต อนาคต หรือปัจจุบัน ไม่ควรกล่าวว่า เป็นของต้องรู้แจ้งด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย นอกจากเป็นของที่รู้ด้วยใจเท่านั้น แต่พระอริยสาวกผู้ปฏิบัติชอบแล้ว ย่อมเห็นนิพพานด้วยญาณอันบริสุทธิ์ "

" ข้าแต่พระนาคเสน ปัญหาอันน่ายินดีพระผู้เป็นเจ้าได้แก้ไขดีแล้ว ทำให้โยมสิ้นสงสัยแล้ว พระผู้เป็นเจ้าได้ชื่อว่า มาถึงความเป็นผู้เยี่ยมในคณะสงฆ์อันประเสริฐแล้ว "

จบวรรคที่

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #275 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 11:59:01 am »

                 

เมณฑกปัญหา วรรคที่ ๘
ปัญหาที่ ๑ ถามถึงความตายแห่งยักษ์


" ข้าแต่พระนาคเสน ยักษ์มีอยู่ในโลกหรือ ? "
" ขอถวายพระพร มี "

"ยักษ์จุติจากกำเนิดของยักษ์ไหม ? "
" ขอถวายพระพร จุติ "

" แต่เหตุไร เวลายักษ์ตายจึงไม่เห็นซากศพไม่ได้กลิ่นซากศพ? "
" ขอถวายพระพร ซากศพของยักษ์ที่ตายไปแล้วมีอยู่ แต่กลิ่นซากศพถูกลมพัดไปเสียด้วยว่าเวลายักษ์ตายแล้วนั้น ปรากฏว่าเป็นตั้กแตนก็มี เป็นหนอนก็มี เป็นมดก็มี เป็นยุงก็มี เป็นงูก็มี เป็นแมงป่องก็มี เป็นตะขาบก็มี เป็นสัตว์เกิดจากฟองไข่ก็มี เป็นเนื้อป่าสัตว์ป่าก็มี"

" ข้าแต่พระนาคเสน ผู้อื่นนอกจากผู้มีความรู้อย่างพระผู้เป็นเจ้า ย่อมแก้ปัญหาข้อนี้ไม่ได้ "

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #276 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 12:12:04 pm »

ปัญหาที่ ๒ ถามเรื่องไม่ทรงบัญญัติสิกขาบท

" ข้าแต่พระนาคเสน พวกอาจารย์ของพวกแพทย์ปางก่อนมีอยู่ เช่น นารทะ ๑ ธัมมันตริกะ ๑ อังคีรสะ ๑ กปิละ ๑ กัณฑรัตติกามะ ๑ อตุละ ๑ บุพพกัจจายตนะ ๑ อาจารย์เหล่านั้นทั้งสิ้น รู้จักความเกิดขึ้นแห่งโรคต้นเหตุแห่งโรค แดนเกิดแห่งโรค สมุฏฐานแห่งโรค กิริยาอาการแห่งโรค การรักษาโรครักษาหายและไม่หายได้โดยเร็วพลันว่า ในร่างกายจักมีโรคเกิดขึ้นเท่านี้ รู้ได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับจับกลุ่มด้ายแล้วม้วนไปตามลำดับฉะนั้น อาจารย์เหล่านั้นทั้งสิ้นไม่ใช่พระสัพพัญญู ส่วนสมเด็จพระบรมครูเจ้าเป็นพระสัพพัญญูทรงรู้อนาคตได้สิ้นว่า ในเรื่องนั้นจะต้องบัญญัติสิกขาบทเท่านั้น แต่เหตุใดจึงไม่ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ให้สิ้นเชิงทีเดียว ต่อเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว มีพวกมนุษย์ติเตียนแล้ว จึงทรงบัญญัติสิกขาบท ? "

พระนาคเสนตอบว่า
" ขอถวายพระพร พระตถาคตเจ้าทรงทราบแล้วว่า ในสมัยนี้เมื่อมนุษย์เหล่านี้ติเตียนเราจักต้องบัญญัติสิกขาบท ๑๕๐ สิกขาบทกว่า ๆ แต่ว่าพระตถาคตเจ้าทรงเล็งเห็นว่า ถ้าเราจักบัญญัติสิกขาบทไว้ให้ครบทีเดียวมหาชนก็จักร้อนใจว่า ในศาสนานี้มีสิ่งที่จะต้องรักษาอยู่มาก เป็นการยากที่จะบรรพชาในศาสนาของพระสมณโคดม ถึงพวกอยากบรรพชาก็จักไม่บรรพชา ทั้งจักไม่มีผู้เชื่อฟังถ้อยคำของเรา พวกที่ไม่เชื่อฟังถ้อยคำของเราก็จักไปเกิดในอบาย เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว มีความเสียหายปรากฏขึ้นแล้ว เราจึงบัญญัติสิกขาบท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นอย่างนี้ จึงไม่ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ล่วงหน้าทีเดียว ขอถวายพระพร "

" อย่างนั้น พระนาคเสน เป็นอันพระตถาคตเจ้าทรงเล็งเห็นเรื่องนี้ได้ดีแล้ว ถ้ามีผู้ได้ยินได้ฟังว่า มีสิ่งที่จะต้องรักษาในพระพุทธศาสนาอยู่มาก ก็จักสะดุ้งกลัว จักไม่มีผู้บรรพชาโยมยอมรับว่าถูกต้อง อย่างที่พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนา "

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #277 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 12:16:24 pm »

ปัญหาที่ ๓ ถามถึงมลทินแห่งดวงอาทิตย์

" ข้าแต่พระนาคเสน ดวงอาทิตย์นี้แผ่รัศมีแรงกล้าอยู่เป็นนิจ หรือว่าบางเวลาก็อ่อนไป ? "
" ขอถวายพระพร ดวงอาทิตย์นี้แผ่รัศมีแรงกล้าอยู่ทุกเวลา"

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าดวงอาทิตย์นี้แผ่รัศมีแรงกล้าอยู่ทุกเวลา เหตุไรบางเวลาจึงร้อนน้อย บางเวลาจึงร้อนมาก ? "

" ขอถวายพระพร เหตุว่าดวงอาทิตย์ถูกโรค ๔ อย่าง ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งบีบคั้นจึงร้อนน้อยไป โรค ๔ อย่างนั้น ได้แก่ หมอก ๑ ควัน ๑ เมฆ ๑ ราหู ๑ "

" น่าอัศจรรย์ ! พระนาคเสน ถึงดวงอาทิตย์อันมีเดชกล้าก็ยังมีโรค ไม่ต้องพูดถึงสัตว์เหล่าอื่น การจำแนกปัญหานี้ ผู้อื่นนอกจากผู้มีความรู้ดังพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ไม่อาจจำแนกได้ "

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #278 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 12:26:00 pm »

ปัญหาที่ ๔ ถามเรื่องความร้อนแห่งดวงอาทิตย์

" ข้าแต่พระนาคเสน เหตุไฉนดวงอาทิตย์จึงต้องแผ่รัศมีแรงกล้าในฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนไม่แผ่รัศมีแรงกล้า ? "

" ขอถวายพระพร เพราะในฤดูร้อนมีผงธุลีน้อย มีฝุ่นละอองในท้องฟ้าน้อย มีหมอกหนา มีลมแรงกล้า สิ่งเหล่านี้ปิดรัศมีแห่งดวงอาทิตย์ไว้ เพราะฉะนั้น ในฤดูร้อนดวงอาทิตย์จึงแผดแสงน้อยไป ส่วนในฤดูหนาว เบื้องต่ำแผ่นดินเย็นเบื้องบนมีเมฆใหญ่ตั้งขึ้น มีผงธุลีมากส่วนละอองสงบนิ่งอยู่ไม่เที่ยวไปในท้องฟ้า ท้องฟ้าปราศจากมลทิน ลมบนอากาศพัดอ่อน ๆ เมื่อเป็นอย่างนั้น ดวงอาทิตย์ก็บริสุทธิ์รัศมีแห่งดวงอาทิตย์ก็แรงกล้า เพราะพ้นจากเครื่องขัดขวาง ส่วนที่ประกอบเครื่องขัดขวางมีเมฆ เป็นต้น ย่อมทำให้รัศมีแห่งดวงอาทิตย์ไม่แรงกล้า ด้วยเหตุนี้แหละ ดวงอาทิตย์จึงเปล่งรัศมีแรงกล้าในฤดูหนาว ไม่เปล่งรัศมีแรงกล้าในฤดูร้อน ขอถวายพระพร "

" ข้าแต่พระนาคเสน เป็นอันว่า ดวงอาทิตย์พ้นจากเครื่องกีดขวางทั้งหลาย จึงแผ่รัศมีแรงกล้า ถ้าประกอบด้วยเมฆ เป็นต้น ก็ไม่แผ่รัศมีแรงกล้า"

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มิลินทปัญหา
« ตอบกลับ #279 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 12:31:32 pm »

ปัญหาที่ ๕ ถามถึงเรื่องทานของพระเวสสันดร

" ข้าแต่พระนาคเสน พระโพธิสัตว์ทั้งหลายย่อมให้บุตรภรรยาเป็นทานเหมือนกันหมดหรือ หรือให้เฉพาะพระเวสสันดรเท่านั้น ? "
" ขอถวายพระพร เหมือนกันหมด ไม่เฉพาะแต่พระเวสสันดร"

" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ถ้าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ให้ทานบุตรภรรยาเหมือนกันหมดก็ขอถามว่าให้ด้วยความยินยอมของบุตรภรรยาเหล่านั้นหรือไม่? "
" ขอถวายพระพร สำหรับภรรยายินยอมแต่ทว่าบุตรนั้นที่ยังเป็นทารกอยู่ ก็ร้องไห้เพราะยังไม่รู้จักอะไร ถ้ารู้จักความดีแล้วก็ยินดีตาม ไม่ร้องไห้รำพันเช่นนั้น "