ผู้เขียน หัวข้อ: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก  (อ่าน 89763 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #120 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 03:11:18 pm »



๘๒. สี่ทิศก็ล้วนเป็นภูเขา

ชายหนุ่มคนหนึ่งขณะที่อายุได้ 27 ปี ก็ละทิ้งตำแหน่งอำมาตย์
เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ไปเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ท่านหนึ่ง
พระอาจารย์มอบหน้าที่ดูแลสวนผักใกล้กับบริเวณวัด
ฝึกปฏิบัติธรรมท่ามกลางการใช้แรงงานไปด้วย

วันหนึ่งมีพระในวัดรูปหนึ่งหลงนึกว่าตัวเองรู้แจ้งแล้ว
สามารถลงจากเขาไปธุดงค์ท่องเที่ยวได้แล้ว
เลยไปขออำลากับพระอาจารย์ เพราะการจะลงจากเขา
ต้องให้พระอาจารย์อนุญาตเสียก่อน



“สี่ทิศก็ล้วนแต่เป็นภูเขา เจ้าจะไปทางไหน?” พระอาจารย์ถาม
พระรูปนั้นไม่ทราบความหมายที่แฝงอยู่ในคำเหล่านั้น จึงหันหลังกลับวัดไป

ขณะที่เดินไปเรื่อยเปื่อยก็มาถึงแปลงผัก พระที่ดูแลสวนผักกำลังดายหญ้าอยู่
เห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของศิษย์พี่จึงถามขึ้นว่า “ศิษย์พี่ ท่านทุกข์ร้อนด้วยเรื่องอันใด?”
ศิษย์พี่จึงเล่าเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นให้ฟัง

พระดูแลสวนผักคิดได้ทันทีว่า “สี่ทิศล้วนเป็นภูเขาคือ “หนักและยากลำบาก ทุกหน
แห่งล้วนแต่เป็นอุปสรรค” พระอาจารย์ต้องการทดสอบถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจ
แต่ศิษย์พี่ไม่เข้าใจถึงคำชี้แนะ เลยพูดขึ้นมาว่า

“กอไผ่ถึงขึ้นมาหนาแน่นอย่างไร
ก็ไม่อาจขวางน้ำมิให้เล็ดลอดผ่านไปได้
ภูเขาถึงสูงอย่างไร
ก็มิอาจขวางก้อนเมฆให้ผ่านไปได้”

ศิษย์พี่ผู้นั้นนึกว่าคำตอบนี้ตอบพระอาจารย์แล้ว พระอาจารย์ต้องชมชอบ
แล้วอนุญาตให้ลงจากเขาได้เป็นแน่ แต่เมื่อพระอาจารย์ฟังแล้วชะงักสักครู่
ขมวดคิ้วแล้วจ้องมองตาเขม็งพลางพูดว่า “คำตอบนี้เจ้าไม่ได้คิดขึ้นมาเอง
ใครเป็นคนช่วยเจ้าคิด?”

พระรูปนั้นรู้ว่าพระอาจารย์รู้ความจริงแล้ว จึงเอ่ยถึงชื่อพระที่ดูแลสวนผัก
“พระที่ดูแลสวนผัก ต่อไปต้องมีดีแน่ เจ้าฝึกฝนต่อไปเถิด แม้พระรูปนั้น
ยังไม่ได้เอ่ยถึงว่าจะลงจากเขาเลย แล้วเจ้ายังจะลงจากเขาอีกหรือเปล่า?”

                         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2014, 05:22:52 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #121 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 03:19:27 pm »


         

๘๓. ฟังเสียงไข่ไก่

ที่มณฑลเสฉวนมีครอบครัวแซ่หม่าอยู่ครอบครัวหนึ่ง หาเลี้ยงชีพด้วย
การทำกระด้งสำหรับฟัดข้าวมาหลายชั่วคนแล้ว เมื่อมาถึงรุ่นลูกที่ชื่อ
“หม่าจู่” หม่าจู่เป็นผู้ที่มีหน้าตาและโหงวเฮ้งดี ผู้เป็นพ่อคิดว่าไม่สมควร
ให้ลูกที่มีลักษณะดีเช่นนี้ประกอบอาชีพเป็นช่างทำกระด้งต่อไปจึงพาไป
ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์เซนชื่อดังท่านหนึ่ง ยังอีกเมืองหนึ่ง

สองปีให้หลังท่านหม่าจู่ก็สามารถเข้าถึงธรรมได้ เลยคิดจะกลับไปที่บ้านเกิด
เพื่อเผยแพร่ธรรมะโปรดเพื่อนบ้านและญาติพี่น้อง เมื่อคนในหมู่บ้าน
ได้ข่าวว่ามีพระที่เข้าถึงธรรมชั้นสูงมาแสดงธรรม จึงสร้างเวทีไว้เพื่อแสดง
ธรรม พร้อมกับคอยชะเง้อว่าเมื่อไหร่พระท่านจะเดินทางมาถึง

เมื่อพระรูปนั้นเดินทางมาถึง และทุกคนเห็นว่าเป็นลูกชายของช่างทำกระด้ง
ทุกคนก็ทำหน้าสงสัย และไม่เชื่อว่าท่านจะเข้าถึงธรรมชั้นสูง เลยพากันแยกย้าย
กลับไป ท่านหม่าจู่รู้สึกสังเวชใจจนรำพึงออกมาว่า “เรียนธรรมะไม่กลับบ้าน
กลับบ้านธรรมะไม่หอม”

ท่านเลยตัดสินใจจะไปเผยแพร่ธรรมะต่อที่อื่น ขณะที่กำลังจะเดินทางต่อ
ไปที่อื่น พี่สะใภ้ของเขาวิ่งมาขอให้เขาแสดงธรรมให้ฟัง ท่านหม่าจู่ไม่คิดว่า
พี่สะใภ้จะต้องการฟังธรรมจริงๆ จึงชี้ไปที่กองกะด้งแล้วพูดว่า
“ตั้งใจประกอบอาชีพดั้งเดิมของเราดีกว่า อย่าหาเรื่องยุ่งยากเลย”

แต่พี่สะใภ้ของเขายังยืนยันที่จะฟังธรรม เมื่อท่านหม่าจู่เห็นความตั้งใจจริงของ
พี่สะใภ้จึงพูดว่า “หยิบไข่มาแขวนไว้ ทุกๆเช้าและเย็นให้แนบหูไปฟังไว้ เมื่อไหร่
ที่ไข่นั้นมีเสียง เจ้าก็จะบรรลุธรรม”

พี่สะใภ้ของเขาจึงปฏิบัติตามที่เขาสั่ง ฟังทุกวันเป็นเดือน เป็นปี แม้จะฟัง
อย่างไรไข่นั้นก็ไม่มีเสียง ชาวบ้านเห็นเช่นนั้นจึงพากันด่าว่าท่านหม่าจู่ปฏิบัติ
ธรรมนอกรีต สอนพี่สะใภ้ปฏิบัตินอกลู่นอกทาง แต่พี่สะใภ้ของเขาไม่สนใจ
เสียงซุบซิบของชาวบ้าน ยังคงปฏิบัติอย่างนั้นเรื่อยมา ไม่รู้เวลาผ่านไปกี่ปี
ขณะที่กำลังตั้งใจฟังอย่างแน่วแน่ พลันมีเสียงดัง “แผล่ะ” ไข่ไก่ที่แขวนไว้
หล่นลงมาแตก วินาทีนั้นพี่สะใภ้ของเขาก็รู้ธรรมระดับหนึ่ง

                     


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #122 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 03:23:52 pm »

           

๘๔. จิตที่เคารพนบนอบ

มีชายหนุ่มคนหนึ่งก่อนที่จะได้มาปฏิบัติธรรม อยากจะเป็นนักแกะสลัก
พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียง จึงได้ตั้งใจจะมาขอคำชี้แนะจากพระอาจารย์ท่าน
หนึ่ง เพื่อจะได้ทราบถึงเรื่องราวและรายละเอียดต่างๆของพระพุทธรูป

พระอาจารย์เมื่อพบเขาแล้วก็ไม่พูดอะไร เพียงแต่ให้เขาไปตักน้ำที่บ่อ
ขณะที่พระอาจารย์เห็นการกระทำต่างๆเมื่อเขาตักน้ำและเทน้ำออกมา
จึงตวาดออกมาด้วยเสียงดังลั่น และไล่เขาออกจากวัดไป ลูกศิษย์คนอื่นๆ
เห็นแล้วรู้สึกสงสารและเห็นใจ จึงช่วยกันขอร้องและวิงวอนให้เขาอยู่ค้าง
ที่วัดสักคืน แล้วพรุ่งนี้ค่อยให้เขาไป



กลางดึก มีผู้มาเรียกให้เขาไปพบกับพระอาจารย์ พระอาจารย์พูดขึ้นด้วย
เสียงอันอ่อนโยนว่า “บางทีเจ้าอาจจะไม่รู้ว่าเมื่อกลางวันเจ้าโดนด่าด้วย
เรื่องอะไร ตอนนี้จะเฉลยให้เจ้าฟัง พระพุทธรูปเป็นสิ่งที่ผู้คนเคารพและ
สักการบูชา ดังนั้นพระพุทธรูปที่ถูกผู้คนกราบไหว้ ผู้ที่จะแกะสลักจะต้อง
มีจิตที่เคารพนบนอบศรัทธาด้วยความจริงใจก่อน ถึงจะแกะพระพุทธรูป
ที่น่าเลื่อมใสศรัทธาออกมาได้ ตอนกลางวันข้าเห็นเจ้าตักน้ำหกรดออกมา
มากมาย แม้จะเป็นส่วนน้อย แต่ก็เป็นสิ่งที่สวรรค์ให้มา แต่เจ้าเหมือนกับ
ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ คนที่ไม่รู้จักถนอมและปล่อยสิ่งต่างๆไปอย่าง
ไร้ประโยชน์ จะแกะสลักพระพุทธรูปที่ดีได้อย่างไร?”

ชายหนุ่มนั้นเมื่อได้คำชี้แนะจากพระอาจารย์รู้สึกซาบซึ้งและขอบพระคุณ
พระอาจารย์มาก และรู้สึกสำนึกถึงความผิดพลาดของตัวเอง จึงมาขอสมัคร
เป็นลูกศิษย์ และที่สุดก็กลายเป็นนักแกะสลักพระพุทธรูปทีมีชื่อเสียงคนหนึ่ง



นิทานเซนเป็นเพียงเรื่องเล่าบอกต่อกันมา
เขามีคัมภีร์และบทเรียนของเขาอีกต่างหาก

         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 06:34:28 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #123 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 04:07:17 pm »




๘๕. สรรพสิ่งกับข้าคือสิ่งเดียวกัน

ครั้งหนึ่งพระอาจารย์เซนท่านหนึ่งพนันกับลูกศิษย์ว่า ถ้าหากใคร
สามารถเปรียบเทียบตัวเองเป็นสิ่งที่ต่ำทรามที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะ

อาจารย์ : ข้าคือลาตัวหนึ่ง
ลูกศิษย์ : ข้าคือก้นของลา
อาจารย์ : ข้าคือขี้ที่อยู่ในก้นของลา
ลูกศิษย์ : ข้าคือหนอนในขี้ของลา

พระอาจารย์ไม่สามารถจะเปรียบเทียบต่อไปได้อีก จึงถามต่อว่า
“เจ้าทำอะไรอยู่ในขี้?”
“ข้าหลบร้อนรับความสบายอยู่ในนั้น” ลูกศิษย์ตอบ

สำหรับเราๆท่านๆ ที่ๆคิดว่าเป็นสถานที่สกปรกที่สุด
แต่สำหรับชาวเซนแล้ว มักจะเป็นที่ที่อยู่ได้อย่างอิสระสบายๆ
เพราะว่าจิตใจของพวกเขาสะอาดและสงบ
จนไม่อาจมีสิ่งใดเปรียบเทียบได้ ไม่มีราคีใดๆมาติดเกาะ
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใด ก็เป็นดินแดนแห่งความสะอาดสงบ
อยู่ในสถานที่ใดก็สามารถหลุดพ้นได้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 11:40:09 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #124 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 04:23:32 pm »


           

๘๖. สุนัขจิ้งจอกกับกระต่าย

ขณะที่ศิษย์และอาจารย์เดินทางไปที่แห่งหนึ่ง
เห็นสุนัขจิ้งจอกกำลังไล่ล่ากระต่ายอยู่
พระอาจารย์พูดขึ้นว่า “ในอดีตพูดต่อๆกันมาว่า
กระต่ายส่วนใหญ่ที่มีสติดีมักจะหนีสุนัขจิ้งจอกได้พ้น
ตัวนี้ก็ย่อมจะหนีพ้น”

“เป็นไปไม่ได้ สุนัขจิ้งจอกวิ่งเร็วกว่ากระต่าย” ลูกศิษย์ตอบ
“เดี๋ยวกระต่ายก็จะหลบหนีพ้นได้เอง” พระอาจารย์ยังยืนกรานว่าได้
“ท่านอาจารย์ ทำไมถึงยืนยันแน่นอนอย่างนี้”
“เพราะว่า สุนัขจิ้งจอกกำลังไล่ล่าอาหารมื้อเย็น
แต่กระต่ายกำลังวิ่งหนีเอาชีวิต” พระอาจารย์ตอบ

เป็นที่น่าเสียดายว่า คนส่วนใหญ่ปล่อยให้เวลาผ่านไป
อย่างสุนัขจิ้งจอกล่ากระต่าย จนเวลาล่วงเลยถึงวัยกลางคน
อ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้วก็ทิ้งอาหารมื้อเย็นของตนเอง

แม้ว่าจะมีผู้วิ่งหาอาหารมื้อเย็นได้ ก็จะรู้สึกว่าต้องเสีย
ค่าตอบแทนอย่างมากมายถึงจะล่ากระต่ายมาได้สักตัว
และก็จะรู้สึกหมดแรงอ่อนล้าคอตก

กิริยาท่าทางของผู้บำเพ็ญภาวนาไม่ควรจะให้
เป็นเหมือนกับสุนัขจิ้งจอกไล่ล่ากระต่าย
แต่ควรเป็นกระต่ายที่วิ่งหนีเอาชีวิต

ควรจะหันกลับมาที่กายใจมุ่งไปข้างหน้า
หากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว ก็จะต้องเสียชีวิตและ
เข้าไปอยู่ในปากของสุนัขจิ้งจอก

                                

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2013, 10:13:00 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #125 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 05:43:33 pm »


           

๘๗.ศีล สมาธิ ปัญญา ของสองสำนัก

หลังจากที่สังฆปรินายกองค์ที่ห้า ยกบาตรและจีวรให้แก่ท่านเว่ยหล่างแล้ว
ท่านชินเชาและศิษย์ร่วมสำนักกลุ่มหนึ่งมุ่งไปทางทิศเหนือสร้างสำนักขึ้นมาใหม่

หลังจากที่ท่านเว่ยหล่างหลบหนีจากการไล่ล่าผ่านไปถึง 15 ปีก็กลับมา
ตั้งสำนักใหม่อยู่ทางใต้

ครั้งหนึ่งท่านชินเชาได้ให้ภิกษุรูปหนึ่งมาฟังการบรรยายธรรมของท่านเว่ยหล่าง
เมื่อท่านเว่ยหล่างทราบแล้วจึงถามภิกษุรูปนั้นว่า
“อาจารย์ของท่านสอนลูกศิษย์ว่าอย่างไรบ้าง?”
“ท่านอาจารย์มักจะสอนเสมอว่า ขณะที่นั่งสมาธิต้องประสานพลังรวมเป็นหนึ่ง
วิปัสสนาสภาวะที่สะอาดและสงบ ต้องหมั่นนั่งสมาธิวิปัสสนา อย่านอนและพักผ่อน

ท่านเว่ยหล่างฟังแล้วพูดต่อว่า “การประสานพลังรวมเป็นหนึ่ง แล้ววิปัสสนา
ไม่ใช่การภาวนาที่แท้จริงของเซน แต่กลับเป็นจุดเสียของการภาวนาแบบเซน
เป็นการทรมานร่างกาย การนั่งสมาธิตลอดเวลาไม่นอน จะช่วยให้รู้จักหลักธรรม
ได้อย่างไร?”

แล้วท่านเว่ยหล่างก็ถามต่อว่า “ได้ยินมาว่า ท่านอาจารย์ของเจ้าสอนเรื่อง
ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่รู้ว่าเขาอธิบายความหมายของคำเหล่านั้นว่าอย่างไร?”

“การละเว้นจากการกระทำชั่วทั้งปวงคือ ศีล
การปฏิบัติแต่ความดีคือปัญญา การชำระจิตของตนให้บริสุทธิ์เรียกว่า สมาธิ
แล้วไม่ทราบว่าท่านสอนลูกศิษย์ของท่านว่าอย่างไรบ้าง?

“ข้าไม่ได้มีวิธีการใดที่แน่นอนในการสอน แต่จะดูตามจริตและความสามารถ
แล้วก็ชี้แนะจุดบกพร่องเพียงเล็กน้อย ศีลสมาธิและปัญญาในการสอนของข้า
แตกต่างจากอาจารย์ของเจ้า” ท่านเว่ยหล่างตอบ
“คำสอนของอาจารย์เจ้าใช้สำหรับสั่งสอนแนะนำสานุศิษย์แห่งสำนักมหายาน
ส่วนคำสอนของข้าใช้สำหรับสอนสานุศิษย์แห่งสำนักสูงเลิศ

ความสามารถในการเรียนรู้ของคนเราต่างกัน ความไวในการรู้แจ้งก็ต่างกัน
การแสดงธรรมของข้าไม่เคยเหออกไปจากภาวะที่แท้แห่งจิต
รูปธรรมและสภาวธรรมทั้งหลายย่อมก่อเกิดมาจากภาวะที่แท้แห่งจิต
และทั้งหมดนั้นก็เป็นผลพวงมาจากการกระทำของจิตทั้งนั้น
นี่คือศีล สมาธิ ปัญญา ที่แท้จริง”

                       


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #126 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 06:24:28 pm »

     

๘๘. ขอร้องให้ประตูและรองเท้าให้อภัย

ขณะที่พระอาจารย์ท่านหนึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่
มีชายคนหนึ่งผลักประตูเข้ามาอย่างแรง แล้วปิดประตูกลับไปอีก
แล้วเตะรองเท้ากระเด็นไปแล้วเปิดประตูเข้ามาอีก
พระอาจารย์พูดขึ้นว่า “รอเดี๋ยวไม่ต้องเข้ามาก่อน
ไปขอให้ประตูและรองเท้าให้อภัยเสียก่อน”

“ท่านพูดอะไร? ข้าเคยได้ยินมาว่า คนของนิกายเซนล้วนแต่เป็นคนบ้า
เมื่อก่อนเคยนึกว่านี่เป็นเพียงคำร่ำลือ คำพูดของท่านช่างน่าขัน
ทำไมข้าจะต้องไปขอให้ประตูและรองเท้าให้อภัย ใครจะรับได้
และรองเท้านั่นก็เป็นของข้าเอง”

“เจ้าออกไป แล้วไม่ต้องกลับมาอีก เจ้าบันดาลโทสะกับกับรองเท้าได้
แล้วทำไมจะขอร้องให้พวกมันให้อภัยไม่ได้ ตอนที่เจ้าโกรธ
เจ้าไม่ได้คิดแม้แต่นิดเดียวว่าการระบายอารมณ์กับรองเท้าเป็นเรื่อง
ที่โง่เขลาที่สุด

หากเจ้าไปเกี่ยวเนื่องกับความโกรธได้ ทำไมไม่ไปเกี่ยวเนื่องกับความรัก
เกี่ยวเนื่องคือเกี่ยวเนื่อง ความโกรธเป็นความเกี่ยวเนื่อง
ขณะที่เจ้าปิดประตูด้วยความโกรธ เจ้าก็ไปเกี่ยวเนื่องด้วยกับประตู
การกระทำของเจ้าเป็นความผิดพลาด ไม่ใช่ทางแห่งคุณธรรม
ประตูบานนั้นไม่ได้ทำอะไรให้เจ้า เจ้าออกไปก่อน แล้วก็ไม่ต้องเข้ามา”

เหมือนดังสายฟ้าฟาดลงมา ชายผู้นั้นเข้าใจถึงความนัยของทั้งหมด
“หากเจ้าบันดาลโทสะได้ทำไมเจ้าไม่ไปรักล่ะ เจ้าออกไป”

แล้วชายคนนั้นก็ไปลูบๆประตู น้ำตาไหลนองหน้า เขาไม่สามารถกดข่ม
ไม่ให้น้ำตาไหลออกมาได้ เมื่อเขาคำนับขอขมารองเท้า เขารู้สึกถึง
การเปลี่ยนแปลงไปทั่วสรรพางค์กายของตนเอง

                 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 06:37:02 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #127 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 06:57:29 pm »

         

๘๙. ลมแปดทิศโหมมาไม่หวั่นไหว

ซูตงพอ เป็นอำมาตย์ใหญ่ และเป็นนักประพันธ์ชื่อดัง
เขียนหนังสือไว้มากมายทั้งทางโลกและทางธรรม
มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว

ซูตงพอ เป็นศิษย์ของพระอาจารย์เซนชื่อดังรูปหนึ่ง
วันหนึ่งคิดจะแสดงว่าตนปฏิบัติถึงขั้นล้ำลึกแล้ว
จึงเขียนเป็นโศลกว่า

ค้อมหัวคำนับฟ้าเหนือฟ้า
แสงเจิดจ้าสาดส่องเหล่าเวไนย
ลมแปดทิศโหมมาไม่หวั่นไหว
นั่งนิ่งในดอกบัวสีม่วงทอง

เขียนเสร็จแล้วให้คนรับใช้นำไปให้พระอาจารย์
พระอาจารย์อ่านแล้วก็เขียนใส่ด้านหลังโศลกว่า “ ผายลม “
( เป็นศัพท์สแลงแปลว่า เพ้อเจ้อ ไร้สาระ)

เมื่อ ซูตงพอ อ่านแล้ว ให้บันดาลโทสะยิ่งนัก
นั่งเรือข้ามฟากไปหาพระอาจารย์ทันที
พระอาจารย์รู้อยู่แล้วว่า ซูตงพอ ต้องมา จึงสั่งลูกศิษย์ไว้แล้วว่า
วันนี้ไม่รับแขก ซูตงพอ ยิ่งเดือดดาลเพิ่มขึ้นไปอีก
ถือวิสาสะเดินไปที่ห้องพักพระอาจารย์
ขณะที่กำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตู
เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งติดไว้ที่หน้าประตูว่า

ลมแปดทิศโหมมาไม่หวั่นไหว
แต่ลมตดเดียวซัดท่านมาถึงนี่

ซูตงพอ เลยรู้สึกตัว และอดขบขันตัวเองไม่ได้
หลังจากนั้นจึงมีคำพังเพยมาจนถึงทุกวันนี้ว่า
“ จงเอาเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่าง ซูตงพอ “

เอาเยี่ยงที่ฝักใฝ่ธรรมะ แตกฉานอภิธรรม
แต่อย่าเอาอย่างที่ การปฏิบัติยังไปไม่ถึงไหน

                 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 05:19:01 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #128 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 07:46:12 pm »




๙๐. ร้องไห้คร่ำครวญ

ขณะที่พระอาจารย์ท่านหนึ่งธุดงค์ผ่านบ้านของหญิงชราท่านหนึ่ง
สองสามวันที่ผ่านมาก็เห็นหญิงชรานั่งร้องไห้อยู่ทุกวัน จึงเข้าไปถามว่า
“ทำไมท่านถึงต้องร้องไห้ทุกวัน มีเรื่องทุกข์ร้อนอันใดหรือ?
ลองเล่าให้ฟังหน่อยซี เผื่อจะช่วยเหลืออะไรท่านได้”

หญิงชรานั้นเล่าให้ฟังว่า “ข้าพเจ้ามีลูกสาวสองคน ลูกสาวคนโตแต่งงาน
ไปกับคนขายรองเท้า ลูกสาวคนเล็กแต่งไปกับคนขายร่ม

ขณะที่เป็นหน้าแล้งข้าพเจ้าก็คิดถึงลูกสาวคนเล็กต้องขายร่มไม่ได้แน่นอน
ดังนั้นจึงรู้สึกปวดร้าวในใจ

แล้วขณะที่ฝนตก ย่อมจะต้องไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อรองเท้า
เป็นแน่ คิดๆแล้วข้าพเจ้าก็อดร้องไห้ไม่ได้”

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้าคิดอย่างนี้ไม่ถูกหรอก” พระอาจารย์กล่าว

“คนเป็นแม่เป็นห่วงลูกสาว ทำไมจะไม่ถูก? แม้ว่าจะรู้ตัวว่า เป็นห่วงไป
ก็ไม่มีประโยชน์ แต่ข้าพเจ้าก็ควบคุมตัวเองไม่ได้”

“เป็นห่วงลูกสาวนั้นไม่ผิดหรอก แต่เจ้าทำไมไม่คิดดีใจแทนลูกสาวเล่า
ลองคิดดู เวลาฝนไม่ตก ร้านรองเท้าของลูกสาวคนโต ย่อมจะต้องขายดิบขาย
ดี เวลาที่ฝนตก ร่มของลูกสาวคนเล็กย่อมจะต้องขายดีแน่นอน เจ้าควรจะ
ดีใจแทนพวกเขาทุกวันถึงจะถูก ทำไมถึงยังต้องเศร้าโศกอีก?”

หญิงชราได้ยินพระอาจารย์พูดอย่างนั้น รู้สึกโล่งใจและเข้าใจอะไรขึ้นมา
หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าฝนหรือหน้าแล้ง หล่อนก็ยิ้มอย่างมีความสุขทุกวัน

                       



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #129 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2012, 03:48:18 pm »

             

๙๐. ๑ รสชาติของกระบี่

ชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นลูกชายของนักดาบชื่อดังท่านหนึ่ง
พ่อของเขามักจะตำหนิเขาเสมอว่า เขาฝึกฝนกระบี่ได้ไม่ดี
ไม่สามารถเข้าถึงวิถีทางแห่งกระบี่ชั้นยอดได้
แล้วตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับเขา

ชายหนุ่มนั้นจึงเดินทางไปที่ภูเขาแห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นที่อยู่ของมือกระบี่ชื่อดังท่านหนึ่ง

นักกระบี่ชื่อดังพูดอย่างไม่มีเยื่อใยว่า
“เจ้าไม่อาจทำตามจุดประสงค์ของข้าได้หรอก”

“หากข้าหมั่นตั้งใจฝึกฝน ต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะกลายเป็นมือกระบี่ชั้นหนึ่งได้”
“ตามอายุของเจ้า”
“ข้ารอนานอย่างนั้นไม่ได้ เพียงแต่ท่านยอมสอนข้า ข้ายอมทนรับความลำบาก
ทุกอย่างเพื่อให้ถึงจุดหมาย และหากข้ายอมเป็นทาสรับใช้ จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่?”

“อาจจะเป็นสิบปี” อาจารย์กระบี่ชื่อดังตอบ
“ท่านพ่อของข้าอายุมากแล้ว ไม่นานข้าคงต้องกลับไปดูแลปรนนิบัติท่าน
และหากข้าเพิ่มความมานะฝึกฝนให้มากยิ่งขึ้น ต้องใช้เวลาสักเท่าไหร่?”

“อืม อาจจะเป็นสามสิบปี”
“ท่านพูดอย่างนั้นได้ยังไง? เมื่อกี้ก็บอกว่าสิบปี ตอนนี้ก็บอกว่าสามสิบปี
ข้าไม่กลัวความลำบากอะไร แต่ต้องใช้เวลาที่สั้นที่สุดที่จะถึงสุดยอดเคล็ดวิชา”

“อืม ถ้าอย่างนั้น เจ้าคงต้องฝึกอีกเจ็ดสิบปีถึงจะได้ อย่างเจ้าเร่งรีบที่จะหวังผล
ส่วนใหญ่มักจะไปไม่ถึงจุดมุ่งหมาย”
ในที่สุด ชายหนุ่มนั้นก็เข้าใจแล้วว่า เป็นเพราะตนเองขาดความอดทนจึงถูกปฏิเสธ
จึงตอบว่า “ก็ได้ ข้ายอมทำตามแล้ว”

                   

แต่อาจารย์นั้นก็ตั้งกฎไว้ว่า ห้ามพูดถึงเรื่องต่างๆของกระบี่ และห้ามแตะต้องถูก
ดาบทุกชนิด และให้ทำครัว ล้างจาน จัดที่นอน เก็บกวาดบ้านและทุกที่ทั่วบริเวณ
รวมทั้งดูแลสวนดอกไม้ด้วย แล้วก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องการฝึกกระบี่เลย

สามปีผ่านไป ชายหนุ่มนั้นก็ยังคงทำงานหนักอยู่อย่างนั้น ทุกครั้งที่คิดถึง
อนาคตของตนเอง ก็รู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก ที่เคยตั้งใจไว้จะฝึกกระบี่ให้ได้ดี
แต่ไม่เคยไม่เคยได้ฝึกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

วันหนึ่ง ท่านอาจารย์ค่อยๆย่องไปทางด้านหลังเขา แล้วใช้กระบี่ไม้แทงเขา
อย่างแรงไปหนึ่งครั้ง
วันที่สอง ขณะที่ชายหนุ่มกำลังสาละวนอยู่กับการทำกับข้าว
ท่านอาจารย์ก็ย่องไปแทงด้านหลังอีก

หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ชายหนุ่มนั้นจะต้องคอย
ระมัดระวังป้องกันไม่ให้ถูกแทง วันหนึ่งยี่สิบสี่ชั่วโมง หากไม่ระวังแม้แต่
วินาทีเดียว เขาก็จะได้ลิ้มรสชาติของการถูกแทง
แต่เขาก็ได้เรียนรู้เหตุผลของหลักการนี้ หลังจากที่เข้าใจแล้ว อาจารย์ก็ยอม
สอนวิชาให้ ที่สุดเขาก็ได้เป็นกระบี่มือหนึ่งแห่งยุคนั้น

                                     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 05:32:33 pm โดย ฐิตา »