๑๐๙.
ชงชาขณะที่พระศิษย์พี่รูปหนึ่งกำลังยกยามาให้พระศิษย์น้องที่นอนป่วย
อยู่บนเตียง พูดขึ้นว่า “ถึงเวลากินยาแล้ว ศิษย์น้อง”
ศิษย์น้องค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ถ้าหากทิ้งเปลือก
เปล่าๆนี้แล้ว พวกเรายังจะพบกันได้ที่ไหนอีก?”
ศิษย์พี่ยิ้มๆแล้วพูดว่า “ที่ที่ไม่เกิดไม่ดับ แล้วแต่กรรมสัมพันธ์จะพาไป”
“ท่านทำไมถึงพูดจาไม่สร้างสรรค์เลย ทำไมไม่พูดว่า ในจักรวาล
นี้ทุกแห่งหนล้วนแต่มีกรรมสัมพันธ์ เมื่อทุกๆที่เราก็พบกันได้ ทำไม
จะต้องมาจำกัดว่าจะต้องไปพบกันที่ๆไม่เกิดและไม่ดับ”
ศิษย์พี่ได้ยินพูดอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่พูดอะไร ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบหมวก
ทำท่าจะเดินออกไป ศิษย์น้องจึงถามว่า “หยิบหมวกทำไม?”
“กันลมกันฝน ใช้ประโยชน์ได้เองแหละ”
“เมื่อออกไปข้างนอก ลมพัดทีเดียวก็บินไปแล้ว แล้วจะทำอะไรได้
แล้วกายเนื้อรวมทั้งเปลือกนอกนี้ เมื่ออนิจจังของ
ความเป็นความตายมาถึง ไม่ใช่กลายเป็นเถ้าถ่านสูญสลายไปหรือ?”
“อย่างน้อยก็ยังพอจะมีอะไรปกปิด คงจะมีประโยชน์อะไรบ้างหรอก” ศิษย์พี่ตอบ
“ชีวิตใหญ่อย่างนี้ จะปกปิดอะไรได้สักเท่าไหร่”
“ศิษย์น้อง แม้ชีวิตคนเราจะดูเหมือนว่างเปล่า ไม่มีอะไรน่า
จะเหลือไว้ให้อาลัยอาวรณ์ แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีชีวิตอยู่อย่าง
ให้มีรสชาติของการไม่ยึดติดและกังวล ทำอย่างนี้ถึงจะมีความหมาย
ของชีวิตที่ไม่ดับชั่วนิรันดร์”
ศิษย์น้องได้ฟังแล้วก็ค่อยๆลุกจากเตียง ไปหยิบใบชาจากลิ้นชัก
ลงใส่กาแล้วเติมน้ำ ศิษย์พี่เห็นแล้วรีบเข้าไปประคอง
“เจ้าคิดจะทำอะไร? ยังไม่หายไข้ลงจากเตียงทำไม
รีบกลับไปนอนเถิด”
“ข้าจะชงชา”
“ชงชา ชงให้ใครดื่ม?”
“มีคนหนึ่งจะดื่ม”
แล้วทำไมคนนั้นเขาไม่ชงเอง”
ดีนะ ที่ข้ายังมีเปลือกเปล่าอันนี้อยู่ ยังอยากมีชีวิตอยู่อย่างมีรสชาติ