ขิง สมุนไพรดี ๆ บำรุงธาตุไฟหน้าหนาว
-http://health.kapook.com/view77340.html-
ขิง บำรุงธาตุไฟหน้าหนาว (หมอชาวบ้าน)
โดย ภกญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี
ฤดูหนาว เป็นช่วงเวลาของ "วาตะธาตุ" หรือธาตุลมมีลักษณะเย็นและแห้ง ส่งผลกระทบต่อธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตของคนเรา ใครที่มีธาตุทั้ง 4 สมดุล ก็อาจจะมีภูมิต้านทานกับการเปลี่ยนแปลงแห่งฤดูกาลได้มากกว่าคนอื่น ๆ
สำหรับคนที่มีวาตะธาตุเป็นเจ้าเรือน คือ คนที่ผอมแห้งแรงน้อย หรือคนชราก็จะยิ่งได้รับผลกระทบมากกว่าคนอื่น ๆ และรวมทั้งวัยเด็กที่มีเสมหะอันมีลักษณะเย็นขึ้นเป็นเจ้าเรือน ธาตุไฟซึ่งอ่อนแรงอยู่แล้ว ก็จะยิ่งอ่อนแรงลงไป ธาตุน้ำ และธาตุลมก็ยิ่งกำเริบร่วมกัน เสมหะก็จะเหนียวและแห้ง คนจะเจ็บป่วยด้วยอาการหวัด และอาการไอแห้ง ๆ รวมทั้งมีการกำเริบของหอบหืด ซึ่งเป็นผลพวงแห่งการมาเยือนของฤดูหนาว
ดังนั้น ในเด็กและคนชราจึงเป็นกลุ่มคนที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดในฤดูกาลนี้ และหนึ่งในสมุนไพรที่จะช่วยเพิ่มธาตุไฟในหน้าหนาวก็คือ "ขิง" นั่นเอง
สำหรับสมุนไพร "ขิง" ได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายอย่างยาวนาน อาทิ จีน ซึ่งเป็นชนชาติเก่าแก่ก็ได้มีการใช้ประโยชน์จากขิงมายาวนาน แพทย์จีนโบราณจัดขิงเป็นพืชรสเผ็ดอุ่น มีฤทธิ์แก้หวัดเย็น ขับเหงื่อ บำรุงกระเพาะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ลดคอเลสเตอรอลที่สะสมในตับและหลอดเลือด
ชาวจีนทั่วไปจะรู้ดีว่าถ้าต้มขิงกับน้ำตาลอ้อยจะช่วยแก้หวัด ถ้าใช้ขิงสดปิดที่ขมับทั้งสองข้างจะช่วยแก้ปวดหัว และถ้าเอาขิงสดอมไว้ได้ลิ้นจะช่วยแก้อาการกระวนกระวาย แก้คลื่นไส้อาเจียนได้ดี ในตำรับเภสัชของสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ. 2528 จึงบรรจุขิงทั้งขิงสด ขิงแห้ง และทิงเจอร์ขิงเป็นยาสมุนไพรแห่งชาติตัวหนึ่ง
แพทย์จีนโบราณใช้ประโยชน์จากขิงสดและขิงแห้งในแง่มุมที่ต่างกัน โดยใช้ขิงแห้งในภาวะที่ขาดหยาง (ภาวะขาดหยาง คือ ภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็น หนาวง่าย ทนต่อความเย็นได้น้อย การย่อยอาหารไม่ดี เป็นต้น)
ประโยชน์ของขิง
ขิงสดจะใช้เมื่อต้องการกำจัดพิษที่เกิดจากการติดเชื้อภายในร่างกาย โดยการขับพิษออกมาทางเหงื่อ ขิงสดช่วยทำให้ร่างกายปรับสภาพในภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็นได้เช่นเดียวกับขิงแห้ง ช่วยลดการคลื่นไส้อาเจียน โดยใช้ขิงสด 30 กรัม (3 ขีด) สับให้ละเอียดต้มกินในขณะท้องว่าง นอกจากนี้ ขิงยังช่วยกำจัดพิษโดยการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยขับเสมหะ โดยการใช้ขิงสดคั้นเอาแต่น้ำประมารครึ่งถ้วยผสมน้ำผึ้ง 30 กรัม (6 ช้อน) อุ่นให้ร้อนก่อนกิน
อินเดีย คืออีกชาติหนึ่งที่มีการใช้สมุนไพรขิงอย่างแพร่หลาย ซึ่งการใช้ขิงแห้งและขิงสดไม่แตกต่างกัน โดยจะใช้ขิงทาถูนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ใช้ขิงลดการอักเสบ แก้ปวด ลดอาการบวมน้ำ ใช้เป็นยากระตุ้นการอยากอาหาร เป็นยาช่วยย่อย ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยระงับอาการคลื่นไส้อาเจียน ช่วยกระตุ้นกำหนัด
ตำรับยาทางอายุรเวทมีการใช้ขิงลดการบวมและการอักเสบของตับ คนพื้นเมืองอินเดียทั่วไปยังนิยมใช้น้ำคั้นจากขิงผสมน้ำผึ้ง และน้ำคั้นจากกระเทียมรักษาอาการหอบหืด ทั้งยังมีการใช้ขิงผงแห้งละลายน้ำอุ่นทาที่หน้าผากรักษาอาการปวดหัว
แพทย์ชาวอาหรับโบราณก็ใช้ประโยชน์จากขิงคล้าย ๆ กัน แต่ที่แตกต่างคือ จะเน้นการใช้ขิงกระตุ้นความกำหนัด
ขิง สรรพคุณ
ส่วนคนยุโรปโดยทั่วไปจะใช้ชาขิงช่วยย่อย ช่วยรักษาอาการท้องอืดจากการดื่มเหล้า ช่วยขับลม ทั้งยังใช้รักษาโรคเกาต์ และกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
นักสมุนไพรรุ่นใหม่ของตะวันตก มักแนะนำให้ใช้ขิงช่วยย่อยอาหาร ช่วยการไหลเวียนของโลหิต และลดการคลื่นไส้อาเจียนจากการเคลื่อนไหวที่ไม่สมดุล (motion sickness) รวมทั้งให้ใช้ลดการคลื่นไส้อาเจียนหลังการผ่าตัด และจากการแพ้ท้องได้บ้าง แต่คนท้องไม่ควรกินเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนทุกมุมโลกใช้ "ขิง" เหมือน ๆ กันคือ แก้หวัด และแก้ไอ
"ขิง" มีชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinaie Rosc. มีสารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
มีการทดลองพบว่า น้ำขิงต้ม ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมกโครฟาจ (Macrophage) จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณค่าภูมิปัญญาอันเก่าแก่ในการการใช้ประโยชน์จากขิง
"ขิง" จึงเป็นสมุนไพรแนะนำสำหรับการใช้เป็นเครื่องดื่มในฤดูกาลนี้ เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่หาง่าย มีความปลอดภัยสูง ใช้กันมานาน คนทั่วไปคุ้นเคย กินง่าย ทำได้เอง
ปัจจุบัน ขิงบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และองค์การอนามัยโลกรับรอง "ขิง" รักษาหวัด แต่ก็มีข้อจำกัดการใช้ในคนท้อง และกินยาก ยกเว้นต้องซื้อจากบริษัทผู้ผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพที่ดีพอ ดังนั้น กรณีเป็นหวัด น้ำขิงต้มเองจะดีที่สุด และเราสามารถตั้งตำรับของเราเองได้ตามใจชอบด้วย
น้ำขิง
เคล็ดลับสุขภาพ
ตำรับ "น้ำขิง" พิชิตหวัด แก้ไอ
ส่วนผสม : ขิงแก่สด 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 3 ลิตร
วิธีทำ
ล้างขิงให้สะอาด แล้วนำมาทุบให้พอบุบ ๆ โดยไม่ต้องขูดเปลือกทิ้ง
ต้มขิงกับน้ำให้เดือดแล้วลดไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ จนน้ำขิงกลายเป็นสีเหลือง เติมน้ำตาลตามใจชอบ
สำหรับคนไทย แน่นอนว่ารู้จักสมุนไพร "ขิง" เป็นอย่างดี เพราะเป็นเครื่องเทศที่นำมาปรุงเป็นอาหารได้สารพัด ช่วยทำให้อาหารหอมหวนชวนกิน ช่วยดับกลิ่นคาวในอาหาร และอยู่ในตำรับยารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากมายหลายโรค ทั้งช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับเหงื่อ ขับน้ำนม ช่วยบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ฯลฯ
ดังนั้น ก่อนที่จะเจ็บป่วยเป็นอะไรไปในหน้าหนาวนี้ ต้มน้ำขิงกินกันไว้เลยดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก-http://www.doctor.or.th/-
------------------------------------------------------------
4 ประโยชน์ ของดีเกลือ
-http://women.kapook.com/view77170.html-
4 ประโยชน์ ของดีเกลือ (Lisa)
ดีเกลือที่มีขายตามร้านยาจีนนั้นมีประโยชน์เอนกอนันต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความงาม อย่างเช่น
ขัดผิว โดยโรยดีเกลือลงในเคลนเซอร์สำหรับผิวหน้านิดหน่อยแล้วนำ ไปฟอกหน้าตามปกติ วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดหมดจดกว่าเดิมแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยต่อต้านริ้วรอยบนใบหน้าด้วย
บำรุงผม โดยผสมดีเกลือกับคอนดิชันเนอร์ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน นำไปนวดบนหนังศีรษะและเส้นผม ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด คุณจะเห็นว่าเส้นผมดูมีสุขภาพดีขึ้นได้ทันที
ขจัดสารพิษ โดยเติมดีเกลือสองถ้วยลงในอ่างอาบน้ำ (ใช้น้ำร้อน) แล้วลงไปนอนแช่ตัวเป็นเวลา 10 นาที สารซัลเฟตในดีเกลือจะช่วยขจัดสารพิษและโลหะหนักในร่างกายออกไป โดยดีเกลือจะช่วยดึงเกลือในร่างกายออกมาพร้อมๆ กับสารพิษพวกนั้น
ขัดฟันขาว ดีเกลือคือสารขัดฟันขาวตามธรรมชาติ แถมยังช่วยให้ปากเนียนนุ่มขึ้นด้วย แค่ใช้ดีเกลือแปรงฟันแทนยาสีฟันเท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก -http://www.lisaguru.com/wp/blog/beauty/v14n40-18112013-03/-